การประกาศผลรางวัลโนเบลสันติภาพประจำปีนี้ให้กับ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ทำเอาตกตะลึงกันทั้งบาง รวมทั้งยักษ์หลับอย่าง วอชิงตัน ว่า ทำไมต้องโอบามา หนึ่งในผู้นำหนุ่มสุดของสหรัฐ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 9 เดือน และส่งชื่อก่อนถึงเส้นตายแค่ 12 วันเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่แล้วหรือ เพราะสาเหตุของการให้รางวัลนั้น ดูแค่ลมปากคำสัญญามากกว่าผลงานที่เห็น เด่นชัดเป็นรูปธรรม การดำเนินตามความปรารถนาสูงสุดทั้งในและต่างประเทศ ก็แค่ เริ่มต้น ยังไม่ถึงเส้นชัย ยังไม่มีตรงไหนที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่า คณะกรรมการรางวัลโนเบลที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ สมควรมอบรางวัลอันทรงเกียรติให้กับผู้นำสหรัฐคนนี้ แล้วเรื่องสันติภาพ โอบามาก็ยังทำสงครามในประเทศอิรักกับอัฟกานิสถาน หรือแม้แต่กฎหมายเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนของสหรัฐ ก็ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ถ้าจดแต้มกัน ก็ยังให้คะแนนไม่ได้สำหรับผลงานในปีนี้ เขาสั่งแบนการทรมานและสอบสวนนักโทษก่อการร้ายอย่างโหดเหี้ยม แต่ก็สัญญาว่าจะปิดค่ายทหารสหรัฐที่อ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา แหล่งที่สร้างความรังเกียจให้สหรัฐไปทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นงานยากสำหรับเขา ก่อนถึงเส้นตายที่เขาตั้งไว้เองในเดือน ม.ค. ปีหน้า ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของอเมริกาบอกว่าจะหาทางยุติสงครามอิรัก แต่ก็ยังเดินหน้าไปช้ามากที่จะนำทหารอเมริกันกลับมาตุภูมิ และถ้าให้ถอนทหารอเมริกันออกไปจากอิรักอย่างจริงจังแล้ว ก็ต้องเป็นโน่นปี 2555 ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลงทั้งสองฝ่าย โอบามาพยายามผลักดันครั้งใหม่ให้บังเกิดสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ แต่ที่ได้รับกลับมา คือ ความร่วมมืออันน้อยนิดจากทั้งสองฝ่าย เขาอยากเห็นโลกปลอดนิวเคลียร์ นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาสื่อออกมาในสุนทรพจน์ที่กรุงปรากเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และอีกประเด็นคือต้องร่วมกับชาติอื่น ๆ รวมถึง ส.ส. สหรัฐ ในการทำข้อตกลงและสนธิสัญญา เพื่อให้เกิดผลบังคับใช้อย่างจริงจัง เขาเคยพูดว่า การต่อสู้กับเรื่องโลกร้อนเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรก ๆ แต่ดูเหมือนว่าสหรัฐต้องมาร่วมประชุมครั้งสำคัญที่กรุงโคเปน เฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ แล้วร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังค้าง อยู่ในสภาคองเกรส แล้วที่สร้างชื่อเสียงระดับโลกให้กับ โอบามานั้น ก็มีเหมือนกัน เมื่อต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมานี้เอง เขานั่งเครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วัน ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปประชุมที่กรุงโคเปนเฮเกน เพื่อล็อบบี้ให้ชิคาโก เมืองในสหรัฐ ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2559 แต่ก็พ่ายไปในรอบสุดท้าย โดน รีโอ เดจาเนโร ของบราซิล ชนะไป แต่บางที คณะกรรมการรางวัลโนเบล อาจจะพอใจแค่การแสดงความเห็นของสหรัฐที่มีต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพราะโอบามาเคยกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เป็นความเห็นของสหรัฐที่มีต่อโลกมุสลิม แต่ได้รับความสนใจอย่างมาก รวมถึงสุนทรพจน์ที่องค์การสหประชาชาติ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมานี้ด้วย เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชน โรเบิร์ต กิ๊บส์ ต้องออกมาตอบคำถามของสื่อหลังทราบข่าวประธานาธิบดีโอบามาคว้ารางวัลโนเบล โดยบอกว่า ประธานาธิบดีโอบามาถ่อมเนื้อ ถ่อมตัวเหลือเกินเมื่อทราบว่า เป็นประธานา ธิบดีสหรัฐคนที่ 3 แล้วที่พิชิตโนเบลไปครอง แต่รางวัลนี้อาจเป็นการตบหน้าอดีตประธานา ธิบดีสหรัฐอย่าง จอร์จ ดับเบิลยู บุช เพราะนโยบายคาวบอยของเขา มีสงครามอิรักและ ยังดูแคลนยุโรปในเรื่องโลกร้อนอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ คณะกรรมการรางวัลโนเบลมีแรงบันดาลใจอยากมอบรางวัลให้กับความสำเร็จในแนวทางอื่นบ้าง อย่างสันติภาพตะวันออกกลาง หรือการสร้างอนาคตที่ดีให้กับทวีปแอฟริกา เป็นต้น
แต่งานทั้งหลายทั้งปวงที่รอผู้นำสหรัฐคนนี้อยู่นั้น ไม่ได้ทำง่าย ๆ เลย.
เลนซ์ซูม/เดลินิวส์ |