|
รถขโมยจากมาเลเซีย ล้นโกดังของกลาง กรมศุลกากร มึนตึบ ไม่รู้คืนเจ้าของมาเลย์ ได้หรือไม่ ? |
|
|
แต่ละปี กรมศุลกากรได้เก็บรักษา รถยนต์ของกลางประเภท ไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นของกลางที่เจ้าพนักงานศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจ ยึดไว้ในความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ทั้งนี้ ได้มีการแยกกอง รถยนต์ ที่ยึดได้ ออกเป็น 2 กองคือ กองแรกเป็น คดีที่มีผู้ต้องหากระทำความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร กองที่สองเป็น คดีที่ไม่มีผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ ปัญหา ความยุ่งยาก ที่เกิดขึ้น คือ กรณีใดสามารถคืนรถยนต์ของกลางได้ กรณีใดไม่อาจคืนรถยนต์ของกลางได้ ก่อนหน้านี้ กรมศุลกากร ได้หารือ คณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีผู้แทนกระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญา และกฎหมาย) ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ชี้แจง ข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่า มีประเด็นที่ต้องพิจารณาให้ความเห็นตามข้อหารือของกรมศุลกากร ดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง รถยนต์ที่ถูกโจรกรรมในต่างประเทศแล้วมีผู้ลักลอบนำเข้ามา ในราชอาณาจักรโดยเจ้าของไม่มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกระทำผิดด้วย กรมศุลกากรจะสั่งคืนรถยนต์ ของกลางดังกล่าวให้แก่เจ้าของหรือผู้มีสิทธิได้หรือไม่ ? ประเด็นที่สอง รถยนต์ที่ถูกโจรกรรมในต่างประเทศแล้วมีผู้ลักลอบนำเข้ามา ในราชอาณาจักรโดยเจ้าของไม่มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกระทำผิดด้วย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ ตามกฎหมายศุลกากร กงสุลมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา มีสิทธิยื่นคำร้องเรียกเอารถยนต์ ดังกล่าวคืนแทนเจ้าของหรือผู้มีสิทธิได้หรือไม่ ล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 3 ) ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวแล้ว มีความเห็นดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า รถยนต์ของกลางที่เจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ เป็นรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมในต่างประเทศแล้วมีผู้ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเจ้าของ ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกระทำผิดด้วย จึงเป็นกรณีที่เจ้าของได้ถูกกระทำละเมิดมาแต่ต้น เจ้าของหรือผู้มีสิทธิย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งรถยนต์ของกลางที่ถูกลักไปนั้นได้ตามที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 1336 ประกอบกับมาตรา 1327 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กรมศุลกากรจึงมีอำนาจสั่งคืนรถยนต์ของกลางดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่มีเหตุที่จะยึดหน่วงไว้ ตามกฎหมาย ประเด็นที่สอง ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิและ ความคุ้มกันทางกงสุล พ.ศ. 2541 ประกอบกับหลักเกณฑ์ในอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วย ความสัมพันธ์ทางกงสุล ค.ศ. 1963 ข้อ 5 (ก) และ (ฌ) ได้กำหนดให้กงสุลมีหน้าที่คุ้มครอง ผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่งและของคนชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งบุคคลธรรมดาและองค์กรที่จัดตั้งขึ้น ในรัฐผู้รับ และเป็นตัวแทนหรือจัดให้มีผู้แทนที่เหมาะสมสำหรับคนชาติของรัฐผู้ส่งในศาลและหน่วยงานอื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มาซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนชาติเหล่านี้ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับในกรณีที่คนชาติเหล่านี้ไม่สามารถปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด โดยขึ้นอยู่กับหลักปฏิบัติและวิธีดำ เนินการที่ใช้อยู่ในรัฐผู้รับ ดังนั้น กรณีที่กงสุลมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลาได้ยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมในประเทศมาเลเซียและมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยแทนเจ้าของหรือผู้มีสิทธิซึ่งเป็นชาวมาเลเซียจึงสามารถกระทำได้ แต่การคืนรถยนต์ของกลางดังกล่าวเจ้าพนักงานศุลกากรสมควรเรียกให้กงสุลมาเลเซียประจำจังหวัดสงขลาแสดงใบมอบอำนาจจากเจ้าของ หรือผู้มีสิทธิในรถยนต์ตามมาตรา 1085 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร ฯด้วย |
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|