ธนาคารเตรียมปล่อยกู้ผู้ประกอบการมินิบัสให้เปลี่ยนรถใหม่ พร้อมใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง ปลายสัปดาห์ที่แล้ว คุณประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการลงนามร่วมกันระหว่างผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อร่วมมือในโครงการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้กับผู้ประกอบการมินิบัสที่เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีวงเงิน 1,500 ล้านบาท การปล่อยกู้ของธนาคารได้กำหนดวงเงินวางดาวน์ร้อยละ 20 ของราคารถที่ราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 6 ปี ดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 5.5-7.5 ต่อปี ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะคุ้มค่าในระยะยาว เพราะรถโดยสารปัจจุบัน ต้องจ่ายค่าน้ำมัน 3-4 บาทต่อกิโลเมตร ถ้าหันมาใช้เอ็นจีวี จะเสียค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง กิโลเมตรละ 1 บาท คุณชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก บอกว่า ขณะนี้รถเมล์มินิบัสเขียวเดิม รุ่นเก่า ส่วนใหญ่ครบกำหนดบริการเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม แต่ได้ขยายเวลาเพื่อให้เอกชนจัดซื้อรถใหม่ไม่เกิน 6 เดือน ต่อไปรถมินิบัสเขียวจะไม่วิ่ง เพราะจะมีรถใหม่เป็นรถเมล์ปรับอากาศขนาดเล็กของเอกชนเข้ามาวิ่งแทน ส่วนจะปรับขึ้นราคาหรือไม่ เนื่องจากผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนสูงขึ้นจากการซื้อรถ ต้องคำนวณหลายปัจจัยร่วมกัน แต่ราคาเชื้อเพลิงที่เปลี่ยนจากดีเซลมาเป็นเอ็นจีวี จะทำให้ค่าเชื้อเพลิงถูกลง ดังนั้นหากปรับขึ้นก็ไม่ควร 7 บาท จากค่าโดยสาร 6.50 บาท ตลอดสาย แผนเดิมของ ขสมก. เคยเขียนไว้ว่าจะโละรถเมล์ร้อน หันมาใช้รถเมล์ปรับอากาศทั้งหมด แม้จะสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการ แต่ในความเป็นจริงจะสร้างความเดือดร้อนกับผู้มีรายได้น้อยอย่างมาก จำได้ในตอนนั้นแม้จะเป็นเสียงเล็ก ๆ แต่ก็เคยเขียนคัดค้าน ส่วนตัวก็คิดว่าคงไม่ง่ายแน่ที่จะเป็นอย่างนั้น รถร้อนยังจำเป็นต้องมีอยู่ แต่จะปรับปรุงสภาพรถ การให้บริการให้ดีขึ้นอย่างไร นั่นเป็นอีกเรื่อง การปล่อยกู้เพื่อให้ผู้ประกอบการมินิบัสจัดหารถใหม่ ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ น่าจะเป็นหนทางที่เหมาะสมอีกทาง. |