เจเจ แฉ! คลิปกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยว โดนหลอกจัดฉาก 
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
ชมคลิบ คลิก เจ้าปัญหา สำหรับคนที่ชอบท่องโลกอินเทอร์เน็ต หลายคนอาจได้เห็นภาพที่ถูกเผยแพร่จากประเทศอังกฤษ และอ้างเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์ แต่วันนี้ชายที่ปรากฏตัวในคลิปภาพดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายวินัย ในมัน ได้ออกมายืนยันว่าทั้งหมดถูกหลอกให้จัดฉาก พร้อมเชื่อเป็นความต้องการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย โดย นายวินัย ระบุว่าภาพทั้งหมดเป็นการตัดต่อ และมีวัตถุประสงค์ต้องการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทเคเบิลทีวีในอังกฤษ ได้ติดต่อขอถ่ายภาพขณะให้บริการนักท่องเที่ยว โดยอ้างว่าจะนำไปช่วยประชาสัมพันธ์ แต่กลับนำภาพไปตัดต่อเข้ากับเหตุการณ์ที่มีการเจรจา จากกรณีที่นักท่องเที่ยวทำเรือเจ็ตสกีเสียหาย ส่วนภาพการถือปืนที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ นายวินัย อ้างว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนลม และได้นำออกมาโชว์นักท่องเที่ยว ไม่ใช่นำออกมาข่มขู่เพื่อหวังกรรโชกทรัพย์แต่อย่างใด ขณะที่ นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอัยการและตำรวจ เพื่อป้องกันปัญหาผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องเจ็ตสกีเท่านั้น แต่รวมถึงปัญหาอื่นที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ส่วนคลิปวิดีโอผู้ประกอบการเจ็ตสกีข่มขู่นักท่องเที่ยวนั้น เรื่องนี้มองได้หลายประเด็น ทั้งการแอบถ่ายหรือจัดฉากขึ้นเพื่อถ่ายทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงแล้วนำมาถ่ายทำภายหลัง รวมทั้งการกระทำของคู่แข่งด้านการท่องเที่ยว "ถ้าเป็นการสร้างเรื่องจัดฉากและไม่ใช่เรื่องจริง จะต้องมีผู้กระทำผิดร่วมระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาติ เพราะถือว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงการท่องเที่ยวของประเทศ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง จะดำเนินการกับผู้ข่มขู่รายนี้ในข้อหากรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยว เรื่องนี้จะต้องสืบสวนเชิงลึก เพราะอาจจะเป็นขบวนการใหญ่ของการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งอาจจะมีเจ้าหน้าที่บางรายรู้เห็นด้วย และอาจต้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาร่วมสอบสวน แต่เวลานี้ทางตำรวจต้องสืบสวนข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจน เพื่อดำเนินการได้อย่างถูกต้อง" ผวจ.ภูเก็ต กล่าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การใช้บริการเช่าเรือเจ็ตสกีของนักท่องเที่ยวยังเป็นไปตามปกติ และเพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้รับผลกระทบ ทางกลุ่มผู้ประกอบการจะมีการแถลงข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวัน พฤหัสบดี (17 กันยายน) |