นายอนิรุทธิ์ สมุทรโคจร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยในงานสัมมนาร้านอาหารรูปแบบใหม่ ฟาสต์ฟู้ดไทย สู้ภัยธุรกิจต่างชาติ และโอกาสใหม่ร้านอาหารไทย ฮาลาลไทยว่า เดือน ต.ค. นี้ จะทดลองจัดนิทรรศการสินค้าฮาลาล และเปิดตัวซูเปอร์ มาร์เกตฮาลาล ในย่านสุขุมวิท เนื่องจากเห็นว่าเป็นย่านที่มีนักธุรกิจอาหรับเข้ามามาก ดังนั้นควรจะมีอาหารฮาลาลไว้รองรับ และในอนาคตจะผลักดันให้เป็นศูนย์ส่งออกสินค้า ฮาลาล รวมทั้งวางแผนทำแฟรนไชส์ซูเปอร์มาร์เกตฮาลาล ขยายทั่วประเทศด้วย ขณะเดียวกันมีแนวคิดจะสร้างสวนอาหารฮาลาล ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยจัดทำซุ้มอาหารแต่ละชาติ ที่ได้มาตรฐานฮาลาล พร้อมทั้งนำการแสดงมารวมไว้ในสวนอาหารแห่งนี้ เพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคชาวมุสลิม ที่ต้องใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ให้มีแหล่งรับประทานอาหาร ที่มั่นใจได้ว่าได้รับมาตรฐานฮาลาลจริง ๆ และยังรองรับลูกค้าทั่วไปได้ด้วย คาดว่าการสร้างสวนอาหารดังกล่าวต้องใช้งบ 200 ล้านบาท นายอนิรุทธิ์ กล่าวว่า ในไทยมีชาวมุสลิมอยู่ 6 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 60 กว่าล้านคน หากร้านอาหารต่าง ๆ มีการจัดทำอาหารที่ได้มาตรฐานฮาลาล ก็จะเพิ่มโอกาสในการรับลูกค้ามุสลิมได้ด้วย ซึ่งร้านอาหารที่ไม่ได้ทำฮาลาลในปัจจุบันสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้มีมาตรฐานฮาลาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินปรับปรุงร้านเพียงแค่ประกอบอาหารให้ได้มาตรฐานฮาลาล เพียงแค่ทำอาหารตามหลักศาสนาอิสลามจริง ๆ นายชุมพร สุขประสงค์ผล ที่ปรึกษาสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนี เซีย มาเลเซีย ต่างเร่งทำมาตรฐานฮาลาล ดังนั้นไทยจึง จำเป็นต้องเร่งทำร้านอาหารให้ได้มาตรฐานฮาลาลด้วย เพื่อเป็นโอกาสให้แข่งขันกับทั่วโลกได้ ซึ่งทางสมาคมภัตตาคารไทย ก็เป็นพันธมิตรกับสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ในการผลักดันมาตรฐานร้านอาหารไทย และมาตรฐานฮาลาลไปควบคู่กัน ขณะเดียวกันต้องการส่งเสริมการจัด ทำร้านอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟู้ด) ไทยต้นแบบ 4 รูปแบบ ได้แก่ ร้านข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง, ร้านผัดไท, ร้านก๋วยเตี๋ยว และ ร้านข้าวแกง โดยให้ร้านอาหารได้มาตรฐาน เป็นที่เชื่อถือของลูกค้า แข่งขันกับร้านอาหารจานด่วนประเทศอื่นได้. |