ถอดรหัสสุนทรพจน์'ปู'-สัญญาณความกลัว
ถอดรหัส เบื้องลึกระหว่างบรรทัด ในสุนทรพจน์ ของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชัด ส่งสัญญาณความกลัว วิตกกังวล หวั่นไหว และกังวลใจ
ธรรมเนียมปฎิบัติไปแล้ว ทันทีที่เสร็จสิ้นพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เป็นนายกรัฐมนตรี ประมุขฝ่ายบริหารคนใหม่ ก็จะกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อประกาศจุดยืน และอุดมการณ์ในการบริหารประเทศต่อหน้าสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเป็นครั้งแรก
ที่ผ่านมาสุนทรพจน์ของนายกรัฐมนตรีแต่ละคน นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัญหาบ้านเมืองในแต่ละยุคที่ไม่เหมือนกันแล้ว ยังแสดงถึงความตั้งใจแน่วแน่ ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ
แต่ภายใต้คำประกาศอันมุ่งมั่นของผู้นำนั้น น้อยคนที่จะสังเกตเห็นว่า สุนทรพจน์ของอดีตนายกรัฐมนตรีแต่ละคน มันได้ซ่อนไว้ด้วยความวิตกกังวล ในภาระหน้าที่ที่รออยู่เบื้องหน้า
นายกรัฐมนตรี คนที่ 25 สมัคร สุนทรเวช เข้ามารับตำแหน่งสืบทอดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกรัฐประหาร ด้วยเหตุผลที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของคนไทยคือ มีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระมหากษัตริย์
สุนทรพจน์ของเขา จึงเต็มไปด้วยการการันตีว่า ตลอดชีวิตทางการเมืองนั้น เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี และพร้อมจะปกป้องสถาบันพระกษัตริย์ไว้ด้วยชีวิต
ขณะที่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 และ 27 ก้าวขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่แหลมคม ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มต่อต้านทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลือง
เนื้อหาสุนทรพจน์ ของนายกฯทั้งสองคนนี้ จึงแฝงไปด้วยคำวิงวอน ให้คนไทยกลับมามีความสมัครสมานสามัคคี หันหน้าเข้าหากัน และให้คำมั่นว่า จะนำพาสังคมหลุดพ้นจากสภาพการแบ่งสีแบ่งฝ่าย
สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น เมื่อสังเคราะห์เนื้อหาสุนทรพจน์ของเธอออกมา จะพบสัญญาณความวิตกกังวลลึก ๆ ในหลายประเด็น
โดยเฉพาะความไม่มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะบริหารประเทศได้อย่างราบรื่น โดยปราศจากแรงต่อต้านจากกลุ่มอำนาจเก่า ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับระบอบทักษิณ ได้อย่างไร
สุนทรพจน์ของเธอ จึงพยายามส่งสัญญาณปรองดองกับฝ่ายตรงข้าม โดยย้ำว่า จะเข้ามาทำงานเพื่อแก้ปัญหาประชาชน มิใช่มุ่งแก้แค้น อันจะนำปัญหาไปสู่การสร้างปัญหาที่ยุ่งยาก และสลับซับซ้อนมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพยายามลบคำสบประมาท จากการเป็นผู้หญิง ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมือง ด้วยการบอกว่า ความอ่อนโยนของผู้หญิง จะทำให้เกิดบรรยากาศของการรับฟังทัศนะที่แตกต่างของผู้คนในสังคม เปิดทางให้มองเห็นทางเลือกใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยให้แก้ปัญหาที่ได้ง่ายขึ้น
และที่สำคัญ สุนทรพจน์ของเธอครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความหวั่นไหวลึก ๆ ต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตำแหน่งนายกฯของเธอ อยู่ใต้การบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงย้ำหนักแน่นว่า จะทำงานเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ไม่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ ของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ทำให้มองเห็นเส้นทางข้างหน้าหลังจากนี้ว่า คงจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน
ที่มา : คมชัดลึก |