วิบากกรรมนายกฯหญิง

วิบากกรรม"ยิ่งลักษณ์" : ขยายปมร้อน โดย สมถวิล เทพสวัสดิ์

มติเสียงข้างมากของที่ประชุมสภา 296 เสียง มีมติเห็นชอบให้ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็น "นายกรัฐมนตรี" คนที่ 28

ถือว่า "ยิ่งลักษณ์" เป็นคนที่สองของ "ตระกูลชินวัตร" ที่เป็น "นายกรัฐมนตรี" ต่อจากพี่ชาย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของประเทศไทย

            การดำรงตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ของ "ยิ่งลักษณ์" ในครั้งนี้ ถือว่าทำให้ "ตระกูลชินวัตร" ถือเป็นตระกูลที่ 2 รองจาก "ตระกูลปราโมช" ที่ได้ดำรงตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ที่เป็นนายกรัฐมนตรีคือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

            นอกจากนี้ "ยิ่งลักษณ์" ยังถือว่าเป็น "นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย" และมีอายุน้อยที่สุด

            ทันทีที่ "ยิ่งลักษณ์" ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาล คงหนีไม่พ้นกับคำถามเรื่อง "ศักยภาพและความน่าเชื่อถือ" ที่จะบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีตัวจริงได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ "โคลนนิ่ง" ของพี่ชาย ทักษิณ ชินวัตร

            เพราะภาพการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี แทนที่ถนนทุกสายจะมุ่งไปที่ "พรรคเพื่อไทย" หรือ "บ้านยิ่งลักษณ์" เหมือนการตั้งรัฐบาลในอดีต แต่ยุคของ "ปู" ส.ส.และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่างตีตั๋วบินไปดูไบ ยิ่งตอกย้ำสโลแกนของพรรค "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" และคงไม่ต้องถามว่า ผู้กุมอำนาจที่แท้จริงคือใคร

            แต่ละกลุ่มการเมืองต่างต่อสายตรงเข้าหาคนใกล้ชิด ไล่เรียงตั้งแต่ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตพี่สะใภ้ เยาวภา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวและพี่เขย ซึ่งเป็นผู้คัดกรองโผก่อนส่งให้ "ทักษิณ" เคาะ

            ถึงแม้การทำเช่นนี้จะดูเหมือนแบ่งเบาภาระให้แก่ยิ่งลักษณ์ แต่ในทางกลับกัน นั่นคือการบั่นทอน "ภาวะความเป็นผู้นำ" ของ ยิ่งลักษณ์ อย่างรุนแรง

            เพราะนับจากวันที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ปัญหาสารพันที่ค้างเติ่งมาตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะไม่สนใจหรอกว่า นายกรัฐมนตรีที่เข้ามานั้นเป็นหญิงหรือชาย

            หลังรับตำแหน่ง ช่วงเวลา "ฮันนีมูน" คงจะไม่มีสำหรับยิ่งลักษณ์ เฉพาะหน้านี้ก็คือ ปัญหาอุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัด การแก้ปัญหาที่ดูจะเป็นรูปแบบเดียวกัน แต่ไม่อาจอาศัย "สคริปต์" เหมือนช่วงที่หาเสียงเลือกตั้งไม่ได้อีกแล้ว

            "ยิ่งลักษณ์" ต้องกล้าเล่นนอกบท เพื่อลดคำครหา "หุ่นเชิด"

            ขณะที่ปัญหาที่ต้องหาคำตอบให้แก่สังคมจะสามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงเอาไว้ได้หรือไม่ เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน จะทำได้ทันทีที่เป็นรัฐบาลหรือไม่, นโยบายการให้เงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน, การแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ

            นอกจากนี้ยังมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน กรณีไทย-กัมพูชา เขาพระวิหาร ที่ขณะนี้กองทัพก็เร่งให้มีการประชุมในระดับอาร์บีซี แต่ยังไม่มีการตอบรับจากกัมพูชา

            เรื่องใหญ่ที่น่าจับตาก็คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งจะต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนนี้ โดยเฉพาะ "กองทัพ" ที่ดูเหมือนจะแสดงท่าทีโอนอ่อนลง หลังจากมีชื่อ "พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" จะมารับตำแหน่ง "รมว.กลาโหม" แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ภายในกองทัพจะราบเรียบไร้เกลียวคลื่น เหมือนกับน้ำในแก้ว

            ปัญหาใหญ่ด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลภายใต้การนำของ "ยิ่งลักษณ์" ต้องเผชิญคือ ภาวะเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเงินฝืด และเงินเฟ้อไปพร้อมๆ กัน อันเนื่องมาจากความไม่เชื่อมั่นต่อ "ดอลลาร์สหรัฐ" ขณะที่ภายในประเทศก็ประสบปัญหาราคาสินค้าพุ่งสูงทะลุเพดานค่าครองชีพ ท้าทายต่อนโยบาย "กระชากค่าครองชีพ" ที่ "ปู" ประกาศกลางเวทีหาเสียงครั้งสุดท้ายก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้ง

            นี่ยังไม่นับเรื่องคุณสมบัติของยิ่งลักษณ์ ที่ยังค้างคาอยู่ที่ดีเอสไอ หลังจาก แก้วสรร อติโพธิ ขุดตำนานซุกหุ้นมาตีปลาหน้าไซไปในก่อนหน้านี้

            ไม่รู้ว่าจะเรียก "ทุกขลาภ" หรือ "วิบากกรรม" ของยิ่งลักษณ์หรือไม่ ที่ปัญหาประเดประดังเอาในช่วงที่โชคชะตาพลิกผันให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ทำงานการเมืองอย่างเต็มที่เพียงแค่ 49 วัน

ก่อนมาเป็นนายกฯคนที่ 28

            "ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2510 เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 10 คนของ เลิศ ชินวัตร และยินดี ชินวัตร เป็นน้องสาวสุดท้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และน้องสาวของเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นภรรยาของสมชาย วงศ์สวัสดิ์

            "ยิ่งลักษณ์" สมรสโดยไม่ได้จดทะเบียนกับ "อนุสรณ์ อมรฉัตร" อดีตผู้บริหารในเครือบริษัทซีพี อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และอดีตกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม ลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน "น้องไปค์" ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร

            ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย และจบการศึกษามัธยมปลายจากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จากนั้นไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สิงห์ขาวรุ่น 21) เมื่อปี พ.ศ.2531 ส่วนปริญญาโทจบการศึกษาด้านรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ.2533

            "ยิ่งลักษณ์" เริ่มเข้าสู่การเมืองเต็มตัวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2554 หลังจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติให้เลือกลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1

ที่มา : คมชัดลึก