ทำไมต้อง'ยุทธศักดิ์'นั่งรมว.กห.

ทำไมต้องเป็น"ยุทธศักดิ์ ศศิประภา" : รายงานโดย ทีมข่าวความมั่นคง

เริ่มเห็นเค้าโครงแล้วว่า โผครม. “ยิ่งลักษณ์ 1" จะออกมาอย่างไร หลังจากลุล่วงไปแล้ว 60-70 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงอีก 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทุกอย่างก็จะลงตัว เพื่อให้การโหวตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ในวันที่ 5 สิงหาคม เป็นไปอย่างราบรื่น

ตำแหน่ง รมว.กลาโหม เป็นตำแหน่งที่หลายคนจับจ้องว่า ใครจะเข้ามาทำหน้าที่ประสานรอยร้าวระหว่าง กองทัพ กับ พรรคเพื่อไทย เพื่อนำไปสู่ความปรองดองของประเทศชาติ จึงทำให้บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ

           ที่ผ่านมา มีการ “โยนหินถามทาง" ของแคนดิเดตตำแหน่งนี้มาแล้วนับสิบคน แต่สุดท้ายก็เหลือชื่อที่จะเข้ามาลุ้นเพียง 3 คน โดย 2 คนแรก คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และ พล.อ.สำเภา ชูศรี อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด

           ทำไมต้องเน้นเฉพาะ 2 คนนี้ "วงใน-สายตรง" แย้งมาว่า นี่คือสเปกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งไว้ในใจตั้งแต่แรกๆ เพราะถ้าไม่ใช่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ต้องเป็น พล.อ.สำเภา เท่านั้น

           ส่วนอีก 1 คน ที่กองทัพเป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ? รมว.กลาโหม คนปัจจุบัน

           โดยมีกระแสข่าวลือกันสะพัดหนาหูทั้งภายในและภายนอกประเทศ หลุดออกมาในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคลียร์กับกองทัพแล้ว

           ไม่รู้ว่าผลของการ "เคลียร์" เป็นเช่นใด แต่แคนดิเดต รมว.กลาโหม ยังคงเป็นสเปกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่วางเอาไว้แต่แรก ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเท่าใดนัก เพราะใครก็รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มีข้อดีอยู่อย่างก็คือ หากใครลงได้ช่วยแล้ว ก็ไม่มีวันลืม

           แต่หากดูสายสัมพันธ์คงต้องยกให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ที่ค่อนข้างปึ้กมากกว่า โดยเฉพาะครั้งหนึ่ง พล.อ.อัครเดช ศศิประภา อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเป็นน้องชายคลานตามกันมาของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เคยช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายมาแล้ว

           ในยุคของพรรคไทยรักไทยจนได้ ทำให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รมช.กลาโหม โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็น รมว.กลาโหม และก่อนที่จะมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมในยุคที่ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็น รมว.กลาโหม

           และหากจำกันได้ สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทย ก่อนที่ศาลจะตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี

           กระแสข่าวแว่วมาดังๆ ว่า งานนี้อดีตนายกรัฐมนตรีไทยอาจถึงขั้นติดคุก

           แต่ในจังหวะนั้น ใครจะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอาศัยช่วงที่ไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันมหกรรมกีฬาของมนุษยชาติ โอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน บินต่อไปไม่หวนกลับมาเมืองไทยจนถึงทุกวันนี้

           ก็ให้บังเอิญว่า ช่วงนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ นั่งในตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย แล้วก็ได้ทำหนังสือทาบทามให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มานั่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของโอลิมปิกแห่งประเทศไทย

           ครั้นพอใกล้ถึงวันเปิดการแข่งขัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก็ยังเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติ ที่กรุงปักกิ่ง

           ก็นับเป็นเรื่องบังเอิญที่สุดเรื่องหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย !

           แล้วจากนั้นไม่นาน คนไทยทั้งประเทศก็ได้ข่าวคราวการติดต่อขอซื้อทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรฟุตบอลชื่อดัง คู่แค้นร่วมเมืองของบรรดาสาวกปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

           ตอนนั้นถามไถ่กันอึงมี่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปมีเส้นสายใดมาถึงได้ทำให้สโมสรฟุตบอลเก่าแก่แห่งนี้ยินยอมให้ซื้อไปครอบครอง โดยที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อมั่นและศรัทธาต่อ แมนฯ ซิตี้

           ยังไม่ทันได้คำตอบ ก็มีกระแสว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกขายให้แก่กลุ่มทุนจากตะวันออกกลาง ที่ทุกวันนี้ตะวันออกกลางเริ่มสยายปีกรุกครอบคลุมธุรกิจกีฬา รวมทั้งการเข้าไปเป็นกรรมการระดับสำคัญๆ ของวงการกีฬาโลก ไปเรียบร้อยแล้ว

           เรื่องราวเช่นนี้ ในฐานะที่นั่งเป็นประธานโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พล.อ.ยุทธศักดิ์ น่าจะเล่าขานตำนานเหล่านี้ได้ไม่มากก็น้อย

           แต่ก็นั่นแหละ ถึงยังไม่ตอบ แต่ในวันนี้ก็ทำให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ แล้ว ย่อมไม่ใช่คนอื่นคนไกลอะไรเลยสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งเดินเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ต้น ก็ยิ่งถูกมองว่า เทใจให้กันมาตั้งแต่ต้น ซึ่งคนลักษณะนี้ถูกใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งนัก

           เรื่องอย่างนี้ต้องไปถามอดีตนายทหาร ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันต์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร พล.อ.ธรรมรักษ์ ?อิศรางกูร ณ อยุธยา หรือแม้แต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็จะรู้คำตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร

           ถึงแม้ในวันนี้ ภายในพรรคเพื่อไทยยังมีคลื่นใต้น้ำ โดยเฉพาะคลื่นยักษ์จากเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10

           โดยเฉพาะ พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ หนึ่งในสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเป็นหนึ่งในแกนนำ ตท.10 ที่ออกมาค้านไม่เอา พล.อ.ยุทธศักดิ์ และบุคคลนอกขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม พร้อมกับผลักดัน พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ที่เป็นแกนนำหลักของ ตท.10 ขึ้นรับตำแหน่ง

           นี่คือโจทย์ใหญ่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะหาทางออกอย่างไร เพราะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าอยู่คนละขั้วกับกองทัพ ที่วันนี้เต็มไปด้วย "บูรพาพยัคฆ์"
ทีมข่าวความมั่นคง

ที่มา : คมชัดลึก