เปิดคำสารภาพมือฆ่า เผานั่งยางหมอสาว อ้างแค้น-ยุเมียนอกใจ

|
"ผมฆ่าหมอแมวด้วยมือตัวเอง ใช้เหล็กฟาดหัวแล้วจับเผานั่งยาง ทำไปเพราะแค้นไม่พอใจที่หมอแมวทำท่าชักชวนเมียผมไปคบหาชายอื่น ทำแบบนี้ยอมไม่ได้ มันหยามกันเกินไป เท่านั้นยังไม่พอ ยังถ่ายรูปผมเอาไปให้พวกผู้ชายเหล่านั้นดูด้วย ผมกลัวเกิดอันตรายจึงชิงลงมือก่อน"
คือ คำให้การของ นายณัฐวุฒิ หรือ "ไอ้หมี" เนตรรุ่ง วัย 30 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยพลเรือน (อปพร.) ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎรธานี ผู้ลงมือฆ่า นางจารุพันธุ์ ชลัมมัย สาวใหญ่วัย 50 พนักงานสาธารณสุขชำนาญการประจำ ร.พ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลปากฉลุย เสียชีวิตคาที่
คดีนี้ตำรวจใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ ในการล่าตัวคนร้าย เบื้องแรกทราบเพียงว่าหมอแมวหายตัวไป กระทั่งไปเจอศพโผล่ในสวนปาล์ม อ.ท่าฉาง ในสภาพถูกทำร้ายร่างกาย แล้วเผาซ้ำเหลือแต่โครงกระดูก กระทั่งขยายผลจนรู้ว่าคนร้าย คือ นายณัฐวุฒิ ซึ่งเป็นคนรู้จักกับหมอแมว จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผลจนมุมต่อหลักฐาน
ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนทำ ฆ่าเผานั่งยางอย่างน่าสยดสยอง!!
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. วันนั้นหมอแมวหายสาบสูญจาก ร.พ. พร้อมรถเก๋งฮอนด้าคู่ใจ คนใกล้ตัวจึงแจ้งตำรวจโรงพักเสวียดให้ช่วยออกติดตาม กระทั่งพบว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับหมอแมว หลังพ.ต.อ.สงคราม วรรณะ ผกก.นำกำลังไปตรวจสอบที่บ้าน พบคราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ประตูหลังบ้านมีร่องรอยงัดแงะพังเสียหาย มีร่องรอยต่อสู้กันข้างใน
กระทั่งพบศพหมอแมวถูกฆ่าเผาจนได้
คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 สั่งตามล่าคนร้าย มอบหมายให้ พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ผบก.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธ์ศรี ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.เชิดชัย โชติสุทธิ รอง ผกก. สส. ตั้งชุดคลี่คลายคดี
ทีมสืบแกะรอยจากคนใกล้ชิดหมอแมวก่อนอันดับแรก ไม่เจอพิรุธใคร ยกเว้นไอ้หมีที่มีคนให้ข้อมูลว่าหมอนี่มีเรื่องขัดแย้งกับผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงใช้เทคนิคพิเศษสืบความเคลื่อนไหวของมัน กระทั่งพบว่า ในวันที่หมอแมวหายตัว ไอ้หมีมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านผู้ตาย อีกทั้งยังไปโผล่อยู่แถวจุดพบศพในสวนปาล์ม ซอยโกเลง พื้นที่ ม.2 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง ตำรวจจึงนำตัวไอ้หมีมาสอบปากคำ ซึ่งทีมสืบใช้เวลาไม่นานพูดดักจนไอ้หมีให้การวกวนและจนมุมต่อหลักฐาน
เท่านั้นก็ยอมเปิดปากสารภาพ
ไอ้หมีอ้างว่า ครอบครัวตนเองสนิทกับผู้ตาย เพราะ นางสุกัญญา เนตรรุ่ง อายุ 28 ปี ภรรยาของตนและผู้ตาย เป็นสมาชิกขายตรงผลิตภัณฑ์เสริมความงามอยู่ด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุเวลาประ มาณ 20.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. ตนขับรถพาภรรยาไปเยี่ยมนางจารุพันธุ์ที่บ้านพัก หลังทราบว่าไม่สบาย หลังพูดคุยกันสักพัก ระหว่างภรรยาตนเดินไปเข้าห้องน้ำหลังบ้าน และนางจารุพันธุ์นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาด้านหน้า ตนเดินออกจากบ้านมาหยิบเหล็กแท่นสำหรับตีหรือบดรีดยางพาราแผ่น ขนาดยาว 1 เมตร ออกจากท้ายกระบะรถ แล้วใช้เหล็กดังกล่าวตีเข้าที่ท้ายทอยนางจารุพันธุ์อย่างแรง 1 ครั้ง เป็นเหตุให้นางจารุพันธุ์สลบล้มลงไปกองกับพื้น จังหวะนั้นภรรยาออกจากห้องน้ำมาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงบังคับให้ขับรถกลับบ้านไปก่อน เพื่ออำพรางศพ
"ผมใช้เหล็กตีซ้ำที่ศีรษะนางจารุพันธุ์อีก 3 ครั้ง จนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว เมื่อมั่นใจว่าเสียชีวิตแล้ว จึงเอาศพยัดใส่ท้ายรถเก๋งของเธอ แล้วย้อนกลับเข้าไปเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดในบ้าน และใช้สายไฟหม้อหุงข้าวผูกยึดประตูหน้าบ้านเอาไว้จากด้านในและทำทีใช้มีดอีโต้งัดพังประตูหลังบ้าน เพื่ออำพรางว่าคนร้ายงัดเข้ามาทางหลังบ้าน หลังจากนั้นขับรถเก๋งนำศพไปเผานั่งยางที่สวนปาล์ม"
ฆาตกรให้การและว่าหลังเผาทำลายศพเสร็จก็ขับรถมาเปิดโรงแรมม่านรูดในต.ท่าโรงช้าง นอนอยู่ 2 คืน ก่อนจะขับรถเก๋งผู้ตายไปฝากไว้ที่สถานีทวนสัญญาณเรดาร์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ต.เขาหัวควาย โดยอ้างว่ารถหนีไฟแนนซ์ ขอนำมาฝากไว้ชั่วคราว และถอดป้ายทะเบียนไปทิ้งในน้ำตาปีที่สะพานบางปอ ก่อนจะโทรศัพท์ให้ญาติรับกลับมาอยู่บ้านตามปกติ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบปากคำและโดนจับ" ไอ้หมีให้การ
ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อไอ้หมีมากนัก ในเบื้องต้นพอสรุปสาเหตุได้ว่า มาจากความขัดแย้งส่วนตัวเรื่องเกี่ยวกับชู้สาว เพราะไอ้หมีไม่พอใจสงสัยว่าผู้ตายจะชักนำภรรยาไปรู้จักชายอื่น และไม่พอใจที่ผู้ตายที่ไปคบหาอยู่กับชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อบต.ในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร ทั้งยังถ่ายรูปตนเองไว้ในโทรศัพท์มือถือแล้วนำไปให้ผู้ชายคนดังกล่าวดู ทำให้คิดว่าผู้ตายอาจคิดร้ายกับตนเองจึงชิงลงมือก่อน ตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผลต่อไป
ส่วนนางสุกัญญาภรรยาไอ้หมีตำรวจกันตัวไว้เป็นพยานใช้มัดคนร้าย
เข้าคุกรับกรรมจนได้!?!
ที่มา ข่าวสด |