|
| 2 สัปดาห์เผยโฉมครม. 'ปู' ระทึกลุ้น 'กกต.' รับรองผล ส.ส. |
|
|
2 สัปดาห์เผยโฉมครม. 'ปู' ระทึกลุ้น 'กกต.' รับรองผล ส.ส.
'ทักษิณ' เฉือนโควตาเด็ก 'สุดารัตน์' กำธร-โอฬาร-นั่งเก้าอี้กระทรวงใหญ่
ยัน 'เติ้ง-ลูกท็อป' ดอดเจรจา 'นายใหญ่' ที่บรูไนจริง แถมระบุวันเวลาชัดเจน เผย 'ทักษิณ' เฟ้น 5 รมต.กระทรวงหลักรอชื่อหลัง 12 ก.ค. นี้ ชี้ “ตท.10” ดัน “กำธร” ยึดกลาโหม ขณะที่ “เจ๊หน่อย” โดนเฉือนโควตาเหลือ 1 รมว.-1 รมช. “อุดมเดช-อนุดิษฐ์” เข้าป้าย ส่วน “เจ๊ปู” กระแสยังแรงหลังเดินตลาด อ.ต.ก. เผย 1-2 สัปดาห์เห็นโฉมหน้า ครม. “ปูแดง 1” แน่นอน มั่นใจพวกวืดเก้าอี้ไม่เขย่าพรรคแตก นั่งหัวโต๊ะถกนโยบายวันนี้ ด้าน “เสี่ยตือ” อ้างบรรหารดูงานอยู่บึงฉวาก ปัดข่าวลอบไปต่อรอง “แม้ว” ที่ดูไบ ฝ่าย “ปชป.” โต้ขี้แพ้ชวนตี พร้อมลั่นเดินหน้ายุบ “เพื่อแม้ว” อีก “บุญยอด” บุก กกต. กินแห้ว วืดยื่นสอยว่าที่ ส.ส.คู่แข่ง จับตา “กกต.” รับรองผลรอบแรกแค่ 375 คน
“ปู-ไปป์”จ่ายกับข้าว“อ.ต.ก.”
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. เวลา 10.30 น. ที่ตลาด อ.ต.ก. ถนนกำแพงเพชร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย เดินทางมาซื้ออาหารเพื่อนำไปรับประทานกลางวันที่บ้านพักกับกลุ่มเพื่อน ๆ อาทิ ไก่ต้มน้ำปลา 2 ตัว ปลาสลิด ปลาทู ปลาเผา ก้ามปูทะเล ขนมจีนแกงใต้ แกงผักหวาน น้ำพริกกลางดง น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว มันกุ้ง เห็ดเผาะแช่น้ำเกลือ ไข่มดแดงกระป๋อง และเห็ดโคน นอกจากนี้ยังได้ซื้อกระเป๋าจากศูนย์ศิลปาชีพอีก 2 ใบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับจ่ายซื้อของที่ตลาด อ.ต.ก. ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับความสนใจจากประชาชนและพ่อค้าแม่ขายในตลาดเป็นอย่างมาก หลายรายนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจและขอถ่ายรูปตลอดทาง ซึ่งเจ้าตัวได้ยิ้มรับตลอดเวลา แต่ก็ได้ปฏิเสธเซ็นชื่อ “นายกหญิง” ให้แก่หญิงชายคู่หนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับตำแหน่งแต่อย่างใด และกำลังรอการประกาศรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมกันนี้ได้เอ่ยปากขอโทษหญิงชายคู่นั้นด้วย
แย้ม 2 สัปดาห์เผยโฉม ครม.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการร่างนโยบายรัฐบาลว่า สัปดาห์นี้จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพูดคุยในรายละเอียด และสอบถามถึงปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ ในการนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยไปปฏิบัติ ส่วนกระแสข่าวนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วนเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อต่อรองโควตารัฐมนตรีนั้น การที่นายบรรหารไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเป็นคนรู้จักกัน และนายบรรหารก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่แล้ว ยืนยันว่าการจัดตั้ง ครม. ทำกันที่เมืองไทย แต่ตอนนี้ยังต้องรอผลอย่างเป็นทางการก่อน ส่วนรัฐมนตรีคนนอกยังตอบไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยยินดีเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ความสามารถ แต่คงต้องพิจารณาคนในเป็นอันดับแรก ทั้งนี้หลังจาก กกต. รับรองผล อย่างเป็นทางการแล้วไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ จะจัดตั้ง ครม. ได้ เพราะพรรคต้องการหาทีมงานเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเร็วที่สุด
เชื่อคนอกหักไม่ทำ พท. แตก
ต่อข้อถามว่า หาก กกต. ประกาศรับรองผล ส.ส. ช้าจะส่งให้เกิดความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยมากขึ้นจากการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรี ว่าที่นายกฯ ปฏิเสธว่าไม่มีประเด็นนี้แน่ คนในพรรคสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้ แต่สุดท้ายถ้ามีหลักการและเหตุผลชี้แจง เชื่อว่าทุกคนจะยอมรับได้ เมื่อถามอีกว่า หลังจากเป็นนายกฯ แล้วจะเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ตามธรรมเนียมนายกฯ คนใหม่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยินดีจะเข้าพบผู้ใหญ่ทุกคน และถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาสตนก็พร้อมไปพบอยู่แล้ว ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุว่า นโยบายปรองดองของรัฐบาลชุดนี้จะสามารถทำได้ภายใน 2 ปีนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องไปถามนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) สำหรับตนมีหน้าที่สนับสนุนนายคณิตให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปอย่างเรียบร้อย
พาลูกชายถ่ายรูปคู่นักบอลดัง
ต่อมาในช่วงเย็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และน้องไปป์ เดินทางไปที่สนามยามาฮ่าของทีมกิเลนผยอง เมืองทอง ยูไนเต็ด เพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลไทย “มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ2011” ระหว่างทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด กับทีมสมุทรปราการยูไนเต็ด และก่อนที่การแข่งขัน
จะเริ่มขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และน้องไปป์ ได้เข้าไปต้อนรับและถ่ายรูปคู่กับ มร.ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษและสโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ย้ายมาอยู่กับทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ อวยพรให้อดีตศูนย์หน้าหงส์แดงผู้นี้ประสบความสำเร็จในการมาเล่นฟุตบอลอาชีพที่เมืองไทย ขณะที่ มร.ฟาวเลอร์ ได้มอบเสื้อสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ดติดหมายเลข 1 และมีชื่อ “น้องไปป์” อยู่ด้านหลังให้เป็นที่ระลึกกับน้องไปป์ด้วย
นัดพรรคร่วมฯ ถกนโยบาย
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า วันที่ 11 ก.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นประธานการประชุมกรรมการยกร่างนโยบายด้านต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจในการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลชุดใหม่มากกว่าการบริหารการเมืองรายวันที่ผ่านมา และหลังจาก กกต. รับรองผลการเลือกตั้งในวันที่ 12 ก.ค. นี้ ซึ่งหากรับรองครบ 95 เปอร์เซ็นต์จะสามารถเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่เร็วขึ้น
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้พรรคเพื่อไทยจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนโยบายรัฐบาลร่วมกัน ซึ่งระหว่างนี้พรรคเพื่อไทยต้องรีบเร่งดำเนินการนโยบายในส่วนของพรรคให้แล้วเสร็จเสียก่อน หลายนโยบายมีรายละเอียดและขั้นตอนแล้วเสร็จรอเพียงส่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พิจารณาตัดสินใจว่าจะให้ดำเนินนโยบายใดในลักษณะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยต้องดูแลกระทรวงเศรษฐกิจที่เป็น กระทรวงสำคัญทั้งหมด เพราะต้องขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่ได้สัญญากับประชาชนไว้
“ก๊วนหน่อย”รวมพลกินข้าว
เย็นวันเดียวกัน ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค กลุ่ม กทม. พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมรับประทานอาหารและประเมินผลการทำงานหลังผ่านพ้นเลือกตั้งโดยมีว่าที่ ส.ส.กรุงเทพฯ อดีตผู้สมัคร ส.ส. ตลอดจน ส.ก. ส.ข. เข้าร่วม นำโดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นอกจากนี้ยังมีแกนนำสำคัญมาร่วมงาน อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี แกนนำ ตท.10 นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายประภัสร์ จงสงวน นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำ นปช. นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร ว่าที่ ส.ส.ขอนแก่น และนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
น.อ.อนุดิษฐ์ เปิดเผยว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แกนนำกลุ่ม กทม. ไม่ได้มาร่วมงานนี้ เนื่องจากติดงานเลี้ยงฉลองรับปริญญาลูกชายคนโต ทั้งนี้การรับประทานอาหารครั้งนี้ไม่ใช่การรวมตัวเพื่อต่อรองตำแหน่ง เพราะการพิจารณาขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรค เช่นเดียวกับนายวิชาญ กล่าวปฏิเสธเช่นกันว่า ไม่ใช่การมารวมตัวเพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี และไม่ขอแสดงความเห็นจากโผ ครม. ที่สื่อแต่งตั้งให้เป็น รมช.สาธารณสุข.
“แม้ว”หั่นโควตากลุ่มกทม.
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ขณะนี้การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี “ครม.ยิ่งลักษณ์ 1” ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแกนนำสำคัญของพรรค อาทิ นายสมชาย-นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ต้องการทราบผลประกาศรับรอง ส.ส. จาก กกต. ก่อน อย่างไรก็ตามว่าที่ ส.ส. และแกนนำกลุ่มต่าง ๆ ในพรรคเพื่อไทยได้ส่งชื่อรัฐมนตรีไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พิจารณาแล้ว ข่าวแจ้งว่า ภาค กทม. ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้เสนอชื่อ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพฯ และนายอุดมเดช รัตนเสถียร ว่าที่ ส.ส.นนทบุรี โดยอ้างอิงโควตา 1 รัฐมนตรีว่าการและ 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ต่อรองให้เหลือ รมว. และ รมช. ตำแหน่งละ 1 เก้าอี้ ซึ่งภาค กทม. จะตัดชื่อนายวิชาญออก แล้วให้นายอุดมเดช เป็น รมว.สาธารณสุข ส่วน น.อ.อนุดิษฐ์ รับตำแหน่ง รมช.คมนาคม เพื่อสานนโยบายรถไฟฟ้า 10 สาย 20 บาทตลอดเส้นทาง แต่นายวิชาญยังคงไม่ยินยอม
ตท.10 ลุ้น“กำธร”นั่งกลาโหม
ข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันที่จะขอพิจารณาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี 5 กระทรวงสำคัญ ประกอบด้วย คลัง มหาดไทย การต่างประเทศ ยุติธรรม และกลาโหม ในส่วน รมว.คลัง คาดว่านายโอฬาร ไชยประวัติ จะได้รับความไว้วางใจโดยมีนายบัณฑูรย์ สุภัควณิช ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีต ผอ.สำนักงบประมาณ จะมาเป็น รมช.คลัง ช่วยดูแลเรื่องงบประมาณที่จะใช้ขับเคลื่อนนโยบาย ส่วน รมว.กลาโหม เพื่อนโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ผลักดัน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. ซึ่งกำลังจะเกษียณอายุราชการในเดือน ต.ค. นี้มาดำรงตำแหน่ง เนื่องจากมีภาพของความประนีประนอม เป็นกลางทางการเมือง และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ล่าสุดได้มีการทาบทาม พล.ร.อ.กำธร แล้วแต่ยังไม่ได้ตอบตกลง และยังมีทีท่าไม่สนใจการเมือง
ชี้“เติ้ง”บินไปหาแม้วที่บรูไน
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งเดินทางกลับจากไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศบรูไน เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาพำนักที่บรูไนตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา และยังคงมีว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยจากภาคต่าง ๆ ทยอยเดินทางไปพบ เนื่องจากใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ-บรูไน เพียง 3 ชม. เท่านั้น นอกจากคนในพรรคเพื่อไทยแล้วยังมีนายประภัตร โพธสุธน กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. จากนั้นวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมานายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่บรูไน ก่อนพบหารือกันในเวลา 10.00 น. ซึ่งจนถึงวันนี้ (10 ก.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังคงพำนักอยู่ที่บรูไน
“ตือ”อ้างหลงจู๊อยู่“บึงฉวาก”
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ปฏิเสธข่าวนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางไปนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ประหลาดใจว่าข่าวออกมาได้อย่างไร เพราะเมื่อเช้า (10 ก.ค.) ยังโทรศัพท์คุยกับนายบรรหาร ทำให้ทราบว่าไม่ได้เดินทางไปไหน แต่อยู่ที่บึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี ไม่ทราบใครปล่อยข่าว แต่ถือเป็นการพยายามลดความน่าเชื่อถือ เพราะนายบรรหารไม่เคยต่อรองอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ข่าวนี้ออกมาจะส่งผลกระทบ ต่อโควตารัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะเชื่อว่าก่อนหน้านี้ได้พูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องต่อรองอะไรอีก น่าจะรับปากกันเรียบร้อยไปแล้ว
แฟนคลับรุมให้กำลังใจ“มาร์ค”
อีกด้านหนึ่ง เวลา 14.00 น. ที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีอัญเชิญพระพุทธศรีศากยมุนี (ร้อยปี ปัญญานันทะ) ขึ้นประดิษฐานบนชุกชีภายในศาลา 100 ปีพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) โดยมีพระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฎ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ องค์พระประธานดังกล่าวหล่อด้วยทองเหลือง น้ำหนัก 2 ตัน หน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 4.5 เมตร จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีชาตกาลหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เดินทางมายังร้าน บ้านใร่กาแฟ ปากซอยสุขุมวิท 63 เพื่อร่วมงาน “กันและกัน กับอภิสิทธิ์” จัดโดยกลุ่มแฟนคลับในสังคมออนไลน์ เพื่อให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางกองเชียร์ทุกเพศทุกวัยประมาณ 500 คน มารวมตัวกันแน่นขนัดและรุมกันขอลายเซ็น หอมแก้ม จับไม้จับมือ มอบดอกไม้ กระเช้าผลไม้ และตุ๊กตา รวมทั้งถ่ายรูปคู่
หลั่งน้ำตา“ไม่ท้อแท้-ท้อถอย”
นายอภิสิทธิ์ ยืนโบกมือให้กับแฟนคลับและมีน้ำตาคลอเล็กน้อย พร้อมปราศรัยว่า จะทุ่มเททำงานให้ประชาชนทุกคน ไม่ต้องห่วงว่าตนจะมีความรู้สึกท้อแท้และท้อถอย เพราะมั่นใจในสิ่งที่ทำมาและมั่นใจในสิ่งที่จะทำต่อไป อย่างไรก็ตามนักการเมืองที่ดีต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบ และตนเคยลั่นวาจาแล้วว่าถ้าพรรคได้รับการสนับสนุนด้วยคะแนนที่ถดถอยลงก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ และต้องทำเพื่อรักษาคำพูดและบรรทัดฐานทางการเมืองที่สร้างเอาไว้ ทั้งจะมีการประชุมนัดหมายเพื่อจัดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคในเดือน ส.ค. นี้ นอกจากนี้ตนได้โทรศัพท์ไปแสดงความเสียใจกับญาติของคุณยายละเมียน อยู่สุข ที่มีพิธีฌาปนกิจในวันเดียวกันนี้แล้ว ซึ่งถ้าทราบเรื่องมาก่อนหน้านี้ก็จะไปพูดคุยด้วย เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการสูญเสียใด ๆ เกิดขึ้น จากนั้นกลุ่มแฟนคลับได้เปิดเพลง “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ส่งท้าย
ชี้“วิรัตน์”ลุยเดี่ยวยุบเพื่อแม้ว
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีนักวิชาการเสนอตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ชุดที่ 3 มาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อยากให้ใจเย็น ๆ เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ตั้ง ยังไม่มี ครม. และนโยบายที่ชัดเจน ที่สำคัญควรเปิดโอกาสให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ
พูดจะดีที่สุด เมื่อกรณีคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นร้องยุบพรรคเพื่อไทยนั้น นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ยืนยันว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจนในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า การผัดหมี่หรือการแคะขนมครกไม่ผิด แต่ถ้ามีการแจกถือว่ามีความผิด ดังนั้น กกต. จึงไม่ควรทำให้ประชาชนสับสน ควรว่าไปตามกรณี อย่าไปเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาปะปนกัน และการทำงานของ กกต. ตนอยากให้เข้มแข็งเพื่อเอาผิดบ้าง นอกจากนี้ยังมีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไขและชี้แจงในสิ้งที่เป็นปัญหา เช่น จำนวนบัตรเลือกตั้ง
นัดประชุม ครม. สั่งลา 12 ก.ค.
ส่วนเสียงเรียกร้องให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามกระบวนการ ซึ่งต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคทุกคนโดยปรับเปลี่ยนจุดอ่อนเพื่อจะเดินไปข้างหน้า เพราะพรรคที่เป็นสถาบันต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ เมื่อถามถึงกรณี ส.ส.ภาคใต้ของพรรคบางส่วนเคลื่อนไหวไม่ให้นายอภิสิทธิ์กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค อีกเพราะแพ้พรรคเพื่อไทยกว่า 100 เสียง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมก็รับผิดชอบแล้ว เวลานี้ก็รับฟังความเห็นไป ผมก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะยังทำหน้าที่ส.ส.ต่อไปได้”
นายกฯ ยังกล่าวถึงการประชุม ครม. นัดสุดท้ายในวันที่ 12 ก.ค. นี้ว่า เดิมคิดว่า กกต. จะรับรอง ส.ส. ได้ถึงร้อยละ 95 จึงนัดประชุม ครม. เพื่อตราพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพราะตามกฎหมายระบุไว้ว่าจะต้องเปิดภายในเวลา 30 วันหลังวันเลือกตั้ง แต่การนัดประชุมสภานัดแรกอาจต้องยืดหยุ่น ขึ้นอยู่กับ กกต. ว่าจะสามารถรับรอง ส.ส. ได้ถึงร้อยละ 95 เมื่อใด
อีสานลั่นหนุน“มาร์ค”สุดตัว
นายวิฑูรย์ นามบุตร แกนนำ ส.ส.ภาคอีสาน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส. ในกลุ่มนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน จะไม่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะนายชวน เคยประกาศหนุนนายอภิสิทธิ์ ให้กลับเข้ารับตำแหน่งมาแล้ว และสถานการณ์ขณะนี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่านายอภิสิทธิ์ เนื่องจากยังมีความสดอยู่ แม้จะถลอกและบอบช้ำไปบ้างก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตาม ตนได้สอบถามว่าที่ ส.ส. และสมาชิกพรรคในภาคอีสานทุกคนแล้ว ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวว่ายังสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคยังเห็นว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังมีความเหมาะสมอยู่ แต่ต้องดูการตัดสินใจของนายสุเทพอีกครั้งหนึ่ง
“ปชป.”โต้ข้อหาขี้แพ้ชวนตี
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การยื่นให้ กกต. ยุบพรรคเพื่อไทยกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ช่วยคิดนโยบายและหาเสียงให้ เป็นการกระทำของทีมกฎหมาย ไม่เกี่ยวข้องกับแกนนำพรรค ยืนยันว่าไม่ใช่พฤติกรรมขี้แพ้ชวนตี แต่เป็นสิทธิของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะขอให้ กกต. ตรวจสอบข้อสงสัย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถสั่งยุบพรรคเพื่อไทยเองได้ นอกจากนี้ทีมกฎหมายจะจับตาการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยว่าตรงกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้หรือไม่ ถ้าไม่ตรงก็อาจจะหาช่องทางกฎหมายยื่นเอาผิดกับพรรคเพื่อไทยกรณีเข้าข่ายหลอกลวงทำให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมอีกทางหนึ่งด้วย
จับตา“ปูแดง”บริหารประเทศ
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รักษาการรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในช่วง 1 สัปดาห์หลังการเลือกตั้งพบว่ามีอย่างน้อย 4 เรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดไม่ตรงกับที่เคยหาเสียงไว้ ทั้งการประกาศยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เปลี่ยนมาเป็นการงดเว้นจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันแทน รวมถึงการจะให้ คอป. ทำงานโดยอิสระ แต่ต่อมาบอกว่าอยากเร่งรัดให้หาข้อสรุปเร็วขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแทรกแซงการทำงานของ คอป.
รักษาการรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า การประกาศว่าผู้ที่จัดโผ ครม. อยู่ที่ประเทศไทย แต่มีรายงานว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมากเดินทางไปที่นครดูไบ ฮ่องกง และประเทศบรูไน และการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ดิ อินดิเพนเดนต์ว่าจะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่ภายหลังมาอธิบายว่าไม่เคยคิดจะแก้ไข เพียงแค่ไม่อยากให้ถูกนำไปใช้ผิด ๆ จึงอยากให้สังคมช่วยกันตรวจสอบว่าจากนี้ไปจะมีการโยกย้ายข้าราชการ เช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ผวจ.เชียงใหม่หรือไม่ และจะบริหารประเทศเพื่อประชาชน ไม่มองประชาชนเป็นลูกค้าหรือไม่
“บุญยอด”บุก“กกต.”กินแห้ว
ต่อมานายบุญยอด เดินทางไปที่สำนักงาน กกต. เพื่อยื่นหนังสือให้ตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 3 ราย ประกอบด้วย นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพิชิต ชื่นบาน ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรณีเคยถูกคุมขังโดยหมายศาลทำให้ขาดสมาชิกภาพพรรคเพื่อไทย และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ว่าที่ ส.ส.นครปฐม เขต 5 กรณีเคยถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายในปี 2551 รวมทั้งให้ตรวจสอบกรณีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ของนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่มีการระบุเรื่องการใช้เงินซื้อสื่อและจัดเลี้ยงอาหารว่าเข้าข่ายการซื้อเสียงตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. หรือไม่ เนื่องจากหากมีความผิดจะนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยด้วย แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่า กกต. และเจ้าหน้าที่ กกต. ไม่มาทำงาน ทั้งที่อยู่ในช่วงการรับเรื่องร้องเรียนภายใน 7 วันตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้นายบุญยอดเกิดความไม่พอใจ และได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ กกต. เพื่อให้มารับเรื่องร้องเรียน แต่ได้รับคำตอบว่า “วันนี้ (10 ก.ค.) เป็นวันหยุด”
เพื่อไทยแนะรุ่นใหญ่สอนเชิง
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงไปแล้วว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์พยายามออกมาพูดเพื่อดิสเครดิต ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลใหม่ยังไม่ได้เข้าไปบริหารประเทศ ดังนั้นอยากให้ผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เรียกทีมโฆษกและทีมกฎหมายไปอบรมสั่งสอนด้วย และไม่ควรยื่นตรวจสอบรายวัน
ส่วนกรณีนายบุญยอดแถลงข่าวพาดพิงพรรคเพื่อไทยตลอดจนสมาชิกพรรคไม่ว่าจะเป็นนายก่อแก้ว นายพิชิต นายเผดิมชัย และนายวิมนั้น โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กกต. ได้รับรองคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของบุคคลทั้งหมดแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่มีปัญหาใด ๆ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่หยุดกล่าวหา อาจทำให้บุคคลที่เกี่ยวข้องฟ้องกลับได้
ลุ้นไฟเขียวชุดแรก 375 ส.ส.
รายงานข่าวจากสำนักงาน กกต. แจ้งว่า การประชุม กกต. วันที่ 12 ก.ค. นี้ ซึ่งจะครบกำหนด 7 วันหลังการเลือกตั้งที่ กกต. ต้องพิจารณาประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. กรณีผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งที่ไม่มีเรื่องร้องคัดค้านหรือผู้สมัครที่มีเรื่องร้องคัดค้านแต่ กกต. ได้ยกคำร้อง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ กกต. จะประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตให้แก่ผู้ที่ได้รับเลือกที่ไม่มีเรื่องร้องคัดค้านจำนวน 250 คนไปก่อน และอาจประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 125 คน เมื่อรวมจำนวน ส.ส. ที่ได้รับการรับรองทั้ง 2 ระบบจะมีจำนวน 375 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 75 จากจำนวน ส.ส. 500 คน แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกนับแต่วันเลือกตั้งภายใน 30 วัน และต้องมี ส.ส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 25 กกต. อาจพิจารณาสั่งให้เลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ หาก กกต. มีมติเห็นควรเชื่อได้ว่ามีการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมในเขตเลือกตั้งใด
โพลยี้แบ่งเค้กโควตารัฐมนตรี
วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล เผยแพร่ผลสำรวจเรื่องประชาชนคิดอย่างไรกับการจัดตั้งรัฐบาลและจัดสรรรัฐมนตรี โดยสุ่มสำรวจประชาชน 1,561 คน พบว่า ร้อยละ 55.38 เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล 300 เสียง เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล และร้อยละ 64.94 เห็นว่าไม่เป็นเผด็จการรัฐสภา นอกจากนี้เกือบร้อยละ 60 ยังระบุว่าประชาชนค่อนข้างมั่นใจถึงมั่นใจมากต่อเสถียรภาพของรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ดีร้อยละ 56.24 เห็นว่าการจัดสรรรัฐมนตรีไม่ควรจัดสรรตามโควตาของพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมือง แต่ควรพิจารณาตามคุณสมบัติและความรู้ความสามารถของผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง และอยากให้พรรคร่วมรัฐบาลคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังสะท้อนให้ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจควรใช้เกณฑ์การพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเหมาะสม ชัดเจน และมีมาตรฐานเดียวกัน. |
|
| |
| เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|
|
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน