ก่อนหน้านี้ นายสุวิทย์แจ้งต่อนายมูเนีย บุชนากี ตัวแทนผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ว่า จะไม่ร่วมภาคีในอนุสัญญามรดกโลก รวมถึงจะถอนตัวจากการเป็นกรรมการมรดกโลก หากยังไม่ยอมรับเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการพิจารณาการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารที่มองข้ามปัญหาที่อ่อนไหวและมีผลกระทบกับไทย ในเรื่องของการเคารพอำนาจอธิปไตยและดินแดน แล้วยังไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อย และยังพยายามพลักดันขบวนการให้เดินหน้าต่อไป
"เรายอมรับไม่ได้ เพราะว่ามันจะมีผลกระทบกับเราในเรื่องของดินแดนและอำนาจอธิปไตย ในกรณีที่กัมพูชาจะนำเอกสารที่คณะกรรมการมรดกโลกเห็นชอบ ไปใช้ในการพิจารณาคดีในศาลโลกต่อไปด้วย" นายสุวิทย์กล่าว
สำหรับถ้อยคำดังกล่าวคือ คำว่า Urgent repairs. (เร่งซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน) และRestoration. (บูรณะ) ซึ่งเป็นคำที่ทำให้ฝ่ายไทยไม่สบายใจ ให้เปลี่ยนมาเป็นคำว่า Protect (ป้องกัน) หรือ Conservation (อนุรักษ์) แทน
ผลจากการลาออกครั้งนี้ทำให้คณะกรรมการมรดกโลกไม่สามารถจัดการใดๆ ได้ เนื่องจากมติใดๆ เกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหารจะไม่มีผลผูกพันกับไทยอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวิทย์ ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @SuwitKhunkitti เมื่อเวลา 23.24 น. ระหว่างร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า "ที่ประชุมบรรจุวาระ ผมไม่มีทางเลือกครับ คงต้องถอนตัว ผมได้เคยพูดกับสื่อไทยไปว่า หากสังคมใดดำเนินการตามใจตนเอง ไม่คิดถึงกฏระเบียบที่ลงมติโดยสมาชิกแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ใดๆที่เราจะอยู่ในสังคมแบบนี้"
นายสุวิทย์ เผยต่อมาว่า "กำลังแถลงต่อที่ประชุมครับ คณะผู้แทนพยายามเข้าใจ อธิบาย และอดทนรออย่างเต็มที่แล้ว"
ล่าสุด เมื่อเวลา 23.40 น. ตามเวลาในประเทศไทย นายสุวิทย์ระบุว่า "ผมและคณะนำประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกมรดกโลกแล้วครับ"
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 17.47 น. นายสุวิทย์ ได้ระบุว่า "ไม่มีประโยชน์อะไรที่ประเทศไทยจะอยู่ในสังคมที่ไม่มีกติกาแบบนี้ ทุกคนได้ทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของไทยอย่างเต็มความสามารถแล้ว ทำทุกอย่างเท่าที่ควร และจำเป็นต้องทำไปหมดแล้ว สิ่งที่เหลือในตอนนี้คือ รอการพิจารณา และเราจะตัดสินใจในขั้นสุดท้ายต่อไป คาดว่า คณะกรรมการมรดกโลก จะมีคำตอบให้ภายใน 1 ชั่วโมงนับจากนี้ ซึ่งเราจะใช้เวลาช่วงสุดท้ายตัดสินใจก่อนเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ"
ที่มา นสพ.มติชน