ภัยคนเมืองโดยเฉพาะสาวๆที่ต้องระวังคนโรคจิตบ้ากามที่คอยฉวยโอกาสคุกคามทางเพศ
โดย...ธนก บังผล
คนกรุงมีเรื่องแปลกประหลาดให้เจอะเจอไม่เว้นแต่ละวัน ร้อยพ่อพันแม่แหวกแนวทั้งสร้างความรำคาญและสร้างความเฮฮาตามประสาเมืองหลวงที่แออัดไปด้วยมนุษย์สารพัดรูปแบบ
ไม่เว้นแม้แต่พวกลามกอนาจารในที่สาธารณะ ซึ่งถือว่าเป็นภัยหื่นอันดับต้นๆ ใกล้ตัวสาวๆ
อะแฮ่ม...เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังวันนี้เป็นเรื่องอันไม่พึงประสงค์ให้ประสบกับสายตาประชาชี เพราะมันเกิดขึ้นบนรถโดยสารประจำทางหรือรถเมล์ สาย ปอ.511 ครับพี่น้อง
รถเมล์สายนี้จะจากวิ่งปากน้ำไปสายใต้ใหม่ เป็นรถโดยสารปรับอากาศติดแอร์เย็นสบาย ส่วนเบาะที่นั่งก็จะเป็นเบาะคู่นั่ง 2 คน วันนั้นรถก็วิ่งไปส่งผู้โดยสารตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือผู้โดยสารคนหนึ่งที่ชื่อว่า นายตี้ย้ง แซ่ลี้ อายุ 60 ปี บ้านอยู่ปากน้ำ
ระหว่างที่รถเข้าพื้นที่สำโรง เฒ่าชราตี้ย้ง โบก ปอ.511 แล้วขึ้นมานั่งที่เบาะด้านขวาช่วงหลังรถ พอแล่นเข้า ถนนสุขุมวิท ผ่านโค้งเกริก ต.ปากน้ำ ภารกิจทำร้ายตัวเองอย่างสยดสยองก็เริ่มขึ้น
 นายตี้ย้งนั่งคอตกหลังถูกตำรวจจับกุม
นายตี้ย้งลุกขึ้นขยับไปยังเก้าอี้ด้านหน้าที่อยู่ติดกัน นั่งลงแล้วรีบรูดซิปกางเกงควักหนอนแก่ๆ ออกมาสูดอากาศภายนอกก่อนรูดปรื๊ดต่อสาวน้อยหน้ามลวัย 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปีที่ 3 สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง
ภายในระยะเวลา 1 นาที แห่งความหฤหรรษ์ของเฒ่าหื่นตัณหากลับ ในที่สุดความใคร่ก็ถูกเผด็จศึก อ่า...รวดเร็วปานกามนิจหนุ่ม นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเลยฮ๊าฟฟฟ
แต่ 1 นาที ก็ทรมานสายตาเด็กสาวคราวหลาน และนานพอที่จะร้องให้กระเป๋ารถเมล์กับพนักงานขับรถช่วยกันรุมจับเฒ่าตี้ย้งที่ยังยืนระทวยขาสั่นหมดเรี่ยวแรงจะขัดขืนหรือหลบหนี
นายสัมฤทธิ์ ผลงาม โชเฟอร์รถเมล์จอดรถทันทีที่บริเวณป้ายรถประจำทาง ริมถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ แจ้งตำรวจแล้วคุมตัวไม่ให้เฒ่าตี้ย้งกระดิกไปไหน
ที่น่าสงสารคือ สาวน้อยวัย 17 ที่เพิ่งเลิกเรียนกำลังเดินทางจะกลับบ้าน เธอเล่าว่าก่อนเกิดเหตุขึ้นรถโดยสารคันดังกล่าวจากบริเวณสี่แยกบางนา กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางเข้าปากน้ำ โดยเธอนั่งอยู่ช่วงหลังรถ ซึ่งติดริมหน้าต่างเพียงคนเดียว จนกระทั่งเมื่อมาถึงย่านสำโรง นายตี้ย้ง ได้ขึ้นมาบนรถก่อนมานั่งที่เบาะข้างหลังเธอ แรกทีเดียวนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจหรือเอะใจแต่อย่างใด
จวบจนกระทั่ง...หนอนเหี่ยวๆ มาแลบลิ้นปลิ้นตาต่อหน้าต่อตาเธอ อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด น่าเอาหนังยางดีดซักเปรี๊ยะให้สูญพันธุ์จริงเชียว
ด้านเฒ่าหื่นตี้ย้งหลังถูกตำรวจควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อล้างมือล้างไม้แล้ว อี๋...ฉกกะปกอ่ะ นั่งหัวล้านเลื่อมให้การสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเพิ่งกลับจากการเดินทางไปหาเพื่อนย่านสำโรง แล้วขึ้นรถโดยสารคันดังกล่าวเพื่อจะกลับบ้าน ขึ้นรถได้ก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวแต่งกายด้วยชุดนักเรียน ใส่เสื้อฟิตเปรี๊ยะเอวเป็นเอว เว้าโค้งชัด ไล่สายตาลงไปที่กระโปรงก็ อู้หู สั้นจู๋รัดติ้ว ท่ามกลางผู้ร่วมโดยสารทั้งคันรถ ประกอบกับแอร์เย็นๆ ของรถเมล์ปรับอากาศ จึงเกิดอารมณ์เปลี่ยว ขอย้ำว่า...เปลี่ยว (ยังไง) ความหื่นเข้าครอบงำให้หน้ามืด เลยขยับเปลี่ยนที่ไปนั่งติดกับเด็กสาว เรียกว่าขอมองให้ชัดๆ จะๆ
ในตอนแรกตั้งใจจะไปสำเร็จความใคร่ที่บ้านแต่ทนไม่ไหว เพราะผู้เสียหายหน้าตาดี ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่สามารถหักห้ามอารมณ์ทางเพศได้
โถๆๆๆ ลุงช่างน่าสงสาร ถ้าลุงไม่รูดซิปเรื่องจะเกิดมั้ย ฮึ อย่างนี้ต้องตัดมือทิ้ง
เฒ่าหื่นตี้ย้งเคยประกอบอาชีพทำธุรกิจเป็นเจ้าของเรือประมง แต่ทุกวันนี้ไม่มีอาชีพอะไรให้ประกอบ และไม่รู้ว่าเพื่อนที่เพิ่งไปหาก่อนเกิดเหตุจะยังอยากเป็นเพื่อนกับคนวัย 60 ปี ที่รูดปรื๊ดบนรถเมล์หรือเปล่า
ญาติพี่น้องลูกหลานที่บ้านรู้คงอับอาย แทบอยากจะเขียนใบลาออกจากการเป็นครอบครัวเดียวกันเลยเชียว หุหุ
จับได้ปุ๊บ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งข้อกล่าวหาปั๊บ ว่ากระทำอนาจารในที่ทางสาธารณะเป็นที่น่าอับอาย ปรับ 1,000 บาทขาดตัวไม่มีทอน จริงอยู่ว่าได้รับโทษตามกฎหมาย แต่เฒ่าตี้ย้งออกแนวไม้แก่ดัดยาก ใครมองว่าคดีนี้ขำคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะภาพติดตาตรึงใจกับหนอนเหี่ยวของคนรุ่นปู่ ไม่สามารถประเมินค่าทางจิตใจที่เสียไปได้
ช่วงนี้พื้นที่ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ถือว่าการเมืองดุเดือดเข้มข้น อาชญากรรมร้อนแรง ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการต้องทำงานหนักกันหน่อย
เฮ้อ...ลุงก็เหลือเกินล่ะนะ ก่อนจะทำอะไรน่าจะคิดบ้าง
ใครมาทำกับลูกสาวลุงอย่างนี้บ้าง อายุวัยเกษียณอย่างตี้ย้งจะทำอย่างไร
*****************************
สาวเอยจงระวัง
กรณีอนาจารโชว์ลีลาหนอนเหี่ยวบนรถเมล์ที่เกิดขึ้นกับน้องนักศึกษาวัย 17 ปีครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากฏในสังคมไทย สภาพสังคมที่วิปริตเกิดคนโรคจิตขึ้นมากมายไม่ว่าจะหนุ่มจะแก่จะผู้หญิงหรือผู้ชาย
ต้นเหตุที่เฒ่าหื่นตัณหากลับนายตี้ย้ง ผู้ต้องหาคดีอนาจารรูดปรื๊ดบนรถเมล์ ใจความคือการแต่งกายของนักศึกษาที่ต้องยอมรับว่าสมัยนี้อวดเนื้อหนังส่วนเว้าโค้งมากจนเกินเหตุ แฟชั่นที่วัยรุ่นนิยมกันสมัยนี้เป็นชนวนหลักในการเกิดอาชญากรรมทั้งข่มขืนและฆ่าชิงทรัพย์
เพราะฉะนั้น น้องๆ สามารถหยุดยั้งความเสี่ยงในการก่อเหตุของอาชญากรได้ด้วยการแต่งตัวของตนเอง เพราะเมื่อพลาดแต่งตัววาบหวิวไปแล้วคดีที่เกิดขึ้นไม่คุ้มอย่างยิ่งกับอนาคต
อีกประเด็นหนึ่งคือการป้องกันพวกโรคจิตคุกคามทั้งทางร่างกายและสายตา เมื่อเกิดเหตุอาวุธที่หยิบฉวยง่ายที่สุดคือปากกาและกุญแจ หากมีโรคจิตที่ไหนมาโชว์รูดปรื๊ดหรือปรี่เข้ามาทำร้าย ควรใช้อาวุธใกล้มือตอบโต้กลับ เช่น กำกุญแจให้แน่นแล้วทุบลงไปที่ศีรษะ ท้อง หรือขา (ในกรณีที่อยู่บนรถเมล์) ก่อนร้องให้คนอื่นช่วยเหลือจับกุม
ไม่ว่าจะโดนลวนลามในกรณีใดก็ตามบนรถเมล์หรือในที่สาธารณะ ควรส่งเสียงดังให้ผู้อื่นช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัย |