ยอดตายทอร์นาโดถล่ม'มิสซูรี'พุ่ง89ศพ-ประกาศภาวะฉุกเฉิน
 |
พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 89 รายในเหตุพายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองจ็อปลินในรัฐมิสซูรีของสหรัฐฯ ทิ้งซากความเสียหายเป็นทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร |
|
 |
เอเจนซี - พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 89 รายในเหตุพายุทอร์นาโดพัดถล่มเมืองจ็อปลินในรัฐมิสซูรีของสหรัฐฯ ทิ้งซากความเสียหายเป็นทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตรและซัดทำลายโรงพยาบาลหลักของเมืองจนพังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์(23)
เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯระบุว่าเทอร์นาโดที่ซัดกระหน่ำในช่วงค่ำของวันอาทิตย์(22) อาจเป็นทอร์นาโดลูกโดดที่คร่าชีวิตพลเมืองมากที่สุดในอเมริกานับตั้งแต่ปี 1953 เป็นต้นมา
คนงานหน่วยกู้ภัยซึ่งเดินทางมาจากทั่วทั้งภูมิภาคเร่งมือตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันจันทร์(23) เพื่อคนหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากหักพังภายในเมืองที่มีประชากรราว 50,000 คน จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจะพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเมื่อสามารถขุดคุ้ยผ่านซากบ้านเรือนราษฎรและอาคารธุรกิจต่างๆลงไปได้
มีรายงานด้วยว่าอิทธิพลของทอร์นาโดยังซัดหลังคาของโรงพยาบาลเซนต์จอห์นที่มีคนไข้ราว 180 คนจนปลิวว่อน บ้านเรือนและอาคารต่างๆได้รับความเสียหายราว 2,000 หลัง นอกจากนี้มันยังถล่มย่านต่างๆจนพักพินาศ ขุดรากถอนโคนต้นไม้ รถยนต์และรถบรรทุกพลิกคว่ำระเนระนาด บางคันถึงขั้นลอยไปทับอยู่บนรถยนต์อีกคันเลยก็มี
คีธ สแตมเมอร์ส ผู้อำนวยการศูนย์รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินแจสเปอร์ เคาน์ตี เปิดเผยว่ามีการเปิดไซเรนแจ้งเตือนชาวบ้านทั่วทั้งเมืองซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมลรัฐมิสซูรี ก่อนทอร์นาโดพัดถล่มราว 20 นาที
อย่างไรก็ตามทางเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐยอมรับว่า ณ ช่วงนั้นดูเหมือนว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไปไม่ถึงสถานที่หลบภัย "พายุมีเสียงดังมาก บางทีพวกที่อยู่แนวใต้พายุอาจไม่ได้ยินเสียงไซเรน" เขากล่าวหลังจากประกาศภาวะฉุกเฉินและร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังรักษาดินแดน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่อโทรศัทพ์สายตรงถึงผู้ว่าการรัฐเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์(22) เพื่อแสดงความเสียใจต่อประชาชนในจ็อปลิน ขณะที่ เครก ฟูกาเต ผู้อำนวยการศูนย์จัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกลางเดินทางไปยังเมืองจ็อปลินด้วยตนเองเพื่อมอบความช่วยเหลือโดยตรง |