สมุทรปราการบททดสอบเพื่อไทยกับการยึด7ที่นั่ง
คมชัดลึก : หากย้อนหลังการเลือกตั้งไป 2 สมัย ที่ผ่านมา พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ต่อมาถึงเพื่อไทย สามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้แบบเบ็ดเสร็จ จากจำนวน 7 ที่นั่ง การเลือกตั้งในรอบใหม่ที่กำลังจะมาถึงจึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งว่า เพื่อไทย
จะสามารถยึดครองพื้นที่ได้อีกหรือ โดยปัจจัยหนึ่งที่น่าจะมีผลต่อการแข่งขันทางการเมืองไม่มากน้อยก็คือ การถอนตัวจากของส.ส.เดิมเพื่อไทย ที่มาทำงานการเมืองร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมได้พอสมควร รวมไปถึงการวางตัวบุคคลของประชาธิปัตย์และมาตุภูมิ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการเบียดแทรกเข้ามา
เขต 1 อรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ พรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.เขตนี้ และเป็นภรรยาของ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตรมช.พาณิชย์ เจ้าของห้างอิมพีเรียล หัวเรือใหญ่ของเสื้อแดงปากน้ำ ต้องขับเคี่ยวกับผู้สมัครประชาธิปัตย์ คือ จรูญ ยังประภากร เจ้าของฟาร์มจระเข้ปากน้ำ อดีต ส.ว.สมุทรปราการ ด้วยฐานเสียงที่มีอยู่แล้วจากการลงสนามการเมืองที่ผ่านมา ทำให้ไม่สามารถที่จะมองข้ามผู้สมัครรายนี้ไปได้
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ยังมี พิบูลย์ อัศวเหม ประธานหอการค้าในกลุ่มเบญจบูรพา (จังหวัดทางภาคกลาง-ตะวันออก) พี่ชายคนโตของตระกูลอัศวเหม สังกัดพรรคมาตุภูมิ โดยการสนับสนุนของ พูนผล อัศวเหม อดีตส.ส.สมุทรปราการ ก็ทำให้เขตนี้กลายเป็นการแข่งขันในแบบสามเส้า
ส่วนเขต 2 พรรคเพื่อไทยได้วางตัวผู้สมัครเดิม ที่ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.มาแล้ว 3 สมัยซ้อน อย่าง ประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ส่ง สรชา วีรชาติวัฒนา ที่เคยผ่านสนามการเมืองในแง่ของการลงชิงชัยมาแล้ว ก่อนจะถูกใบแดงตัดสิทธิ์ ด้วยประสบการณ์สมัยที่ผ่านมา และการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สนามเลือกตั้งเขตนี้ จึงเป็นการต่อสู้ในแบบที่สมน้ำสมเนื้อ
เขต 3 พรรคเพื่อไทยยังส่งผู้สมัครเดิมคือ นุสรา ยังตรง อดีต ส.ส.สมุทรปราการสมัยที่ผ่านมา ภรรยาของ นพ.วัลลภ ยังตรง อดีต ส.ส.สมุทรปราการ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ส่วนคู่ปรับสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์วางตัวคือ ชินโชติ แสงสังข์ ประธานสหภาพแรงงานแห่งประเทศไทย
สำหรับในเขต 4 จากเดิม จิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยหลายสมัย ผนึกกับ กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ย้ายค่ายออกมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ในปัจจุบัน ทำให้ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ในฐานะหัวเรือใหญ่ของเพื่อไทย สมุทรปราการ ส่งมือขวา ซึ่งเป็นประธาน นปช.สมุทรปราการ วรชัย เหมะ ลงสู้ศึก ท่ามกลางข่าวที่ออกมาจากทางฝั่งของ ประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ ที่ไม่พอใจการวางตัว สำหรับพรรคประชาธิปัตย์อยู่ระหว่างการคัดสรรผู้สมัคร ซึ่งรายชื่อที่มีการเปิดออกมาก็คือ มนัส โกศล กับ เกียรติศักดิ์ บุญประเสริฐ อดีตผู้สมัครส.ส.สมุทรปราการหลายสมัย
เขต 5 กรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.เพื่อไทย ในสังกัดภูมิใจไทย จะปักหลักสู้กับ สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ อดีต ส.ส.หลายสมัย ที่ย้ายกลับเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่ง พ.ต.ท.ปารเมศท์ มหาศิริธนโรจน์ ลงสนาม
สำหรับในเขตเลือกตั้งที่ 6 น่าจะเป็นเขตสู้รบที่ดุเดือดและเข้มข้น เพราะนี่คือพื้นที่ของ ประชา ประสพดี จากเพื่อไทย ที่เพิ่งผ่านการถูกลอบสังหาร ซึ่งจะแข่งขันกับ พูนผล อัศวเหม อดีต ส.ส.สมุทรปราการ ซึ่งครั้งนี้ลงสนามในนามพรรคมาตุภูมิ ขณะที่ประชาธิปัตย์ส่ง สมยศ ประกอบผล อดีตผู้สมัครของพรรคหลายสมัย แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จสู้ศึก
สำหรับในเขต 7 พรรคเพื่อไทยส่ง นฤมล ธารดำรงค์ น้องสาวของ ประชา ประสพดี ลงชิงชัยในเขตนี้กับ เรวดี รัศมิทัต ในนามพรรคภูมิใจไทย บุตรสาวของ อำนวย รัศมิทัต หรือกำนันตี๋ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ที่สร้างผลงานเอาไว้มากมายในขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ. ซึ่งมีฐานคะแนนเสียงค่อนข้างแน่น ด้านประชาธิปัตย์ส่ง ชุติวรรณ ศรีวรวัต ลงสู้
ประเมินสนามเลือกตั้งทั้ง 7 เขต แล้ว ย่อมเป็นความท้าทายที่มีไปถึงพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะโอกาสที่จะยึดครองพื้นที่ทั้ง 7 ที่นั่ง ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายนัก ข้อพิจารณาก็คือ ศักยภาพของผู้ท้าชิงที่กระจายตัวไปอยู่กับประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และมาตุภูมิ ขณะที่ปัจจัยหนุนของเพื่อไทยอยู่ที่ความแข็งแกร่งของกลุ่มคนเสื้อแดง และความร้อนแรงของสนามเลือกตั้งแห่งนี้จะไต่ระดับขึ้นแน่นอน
|