|
| ข่าวด่วนวันนี้ แม่ทัพ4สั่งกวาดล้าง แก๊งยา-น้ำมันเถื่อน ตัวการแจกเงินโจรใต้ |
|
|
| แม่ทัพ4สั่งกวาดล้าง 'แก๊งยา-น้ำมันเถื่อน' ตัดตอน'ท่อน้ำเลี้ยง' แจกเงินโจรป่วนใต้ |
 |
|
|
|
 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 20 เมษายน ถึงความคืบหน้าเหตุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุลอบวางระเบิด "คาร์บอมบ์" กลางเมืองยะลา ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ยังคงสร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจกลับมาให้กับประชาชน โดยมีการส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา และบริเวณหอพักบ้านเช้าบริเวณถนนผังเมือง 4 อ.เมือง จ.ยะลา เนื่องจากคาดว่า คนร้ายที่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์มารับมือกดชนวนระเบิดที่พบในภาพกล้องวงจรปิด น่าจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากมีความชำนาญเส้นทางในตัวเมืองมาก
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกำลังในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อเฝ้าระวังการก่อเหตุ เนื่องจากหน่วยข่าวกรองได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเตรียมนำรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ มาทำเป็นระเบิดคาร์บอมบ์เข้ามาในพื้นที่เพื่อก่อเหตุใน จ.ยะลา ซ้ำอีกรอบแล้ว
ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากการข่าวของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสิทธิโชค หมุดหวัง ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดโชว์รูมรถยนต์ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2550 ซึ่งขณะนี้ได้รับการประกันตัวออกไปสู้คดีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานว่า การก่อเหตุครั้งนี้ มีข้อมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายใน จ.นราธิวาส และเชื่อมโยงกับกลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่ โดยเฉพาะขบวนการขนของเถื่อนและยาเสพติด
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยเช่นกันว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุคาร์บอมบ์ใน จ.ยะลา ครั้งนี้ คือ ขบวนการธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติดและน้ำมันเถื่อน ที่ใช้เงินสนับสนุนให้กลุ่มแนวร่วมก่อเหตุ เป็นเหมือนการฟอกเงิน ฟอกตัว
"นับตั้งแต่ต้นปีที่มีระเบิดเกิดขึ้นในพื้นที่ จากข้อมูลพบว่า กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อนเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ด้วยการให้เงินกลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุวางระเบิดหรือก่อเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ต้องส่งกำลังไปดูแล ซึ่งตรงนี้เราจับทางได้ถูก หลังจากที่มีการปฎิบติการอย่างหนักมาประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ในเรื่องตัดท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้ ตอนนี้เรามีการปรับเพิ่มกำลังเพื่อปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงให้มากที่สุด"
พล.ท.อุดมชัย กล่าวอีกว่า เวลานี้เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้บูรณาการงานร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อคอยตัดท่อน้ำเลี้ยงจากขบวนการค้ายาเสพติด น้ำมันเถื่อน ให้มากขึ้น ฉะนั้นนับจากนี้จะมีการปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด น้ำเถื่อน หรือธุรกิจผิดกฎหมายอื่นอย่างเข้มข้นมากขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็ได้เปิดไฟเขียวในการดำเนินการแล้ว
ส่วนเหตุร้ายในพื้นที่นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมด้วย ร.ต.ต.ณรรฐพงศ์ มัคเตริญ ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ. จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบบ้านร้างไม่เลขที่ ซึ่งตั้งอยู่บ้านกอลอกาเว ม. 1 ต.ศรีสาคร ซึ่งห่างจากแฟลตตำรวจ สภ.ศีรสาคร ประมาณ 150 เมตร หลังได้รับแจ้งมีถูกคนร้ายใช้อาวุธเอ็ม 79 ยิงใส่จำนวน 3 ลูกซ้อน ในช่วงเช้ามืดของวันเดียวกัน
ที่เกิดเหตุพบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีร่องรอยถูกกระสุนปืนเอ็ม. 79 ที่บริเวณหลังคาโรงครัวจนฉีกขาด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลุมกระสุนปืนเอ็ม. 79 ตกอยู่ข้างบ้านพักอีก 2 จุด โดยมีซากเศษชิ้นส่วนของกระสุนปืนเอ็ม. 79 ตกอยู่เกลื้อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงมืดชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ยินเหมือนเสียงระเบิดดังขึ้นจำนวน 3 ครั้ง แต่ไม่มีผู้ใดเอะใจ จนกระทั่งในช่วงเช้าชาวบ้านพบเห็นหลังคาสังกะสีของบ้านร้างมีลักษณะคล้ายถูกสะเก็ดระเบิด จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ทั้งนี้คาดว่า เป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี มีเป้าหมายยิงถล่มใส่แฟลตตำรวจ สภ.ศรีสาคร แต่กระสุนพลาดเป้า จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่อาศัยอยู่ในแฟลตไม่ได้รับอันตราย
วันเดียวกัน พ.ท.จักกฤษณ์ ศรีนนท์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 37 ได้สั่งการให้ชุดลาดตระเวนจรยุทธ์ ออกทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบริเวณเชิงเขาหลังหมู่บ้านปาหนัน ม.4 ต.ศรีสาคร หลังสืบทราบว่า มีกองกำลังติดอาวุธ RKK มาใช้เป็นพื้นที่ซ่องสุมและเตรียมเคลื่อนไหวเพื่อที่จะก่อเหตุร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังเดินลาดตระเวนที่บริเวณชายป่าเทือกเขาหลังหมู่บ้าน พบชายฉกรรจ์ 5 คน ท่าทางมีพิรุธ เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ก็พากันวิ่งหนีขึ้นไปบนเขา เจ้าหน้าที่จึงออกไล่ตามจับกุมตัวแต่ทั้งหมดอาศัยความชำนาญเส้นทางหลบหนีไปได้
อย่างไรก็ตาม จากการกระจายกำลังตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด พบว่า ที่บริเวณใต้พุ่มไม้ชายเขา 2 จุด มีร่องรอยคล้ายผิวดินถูกกลบใหม่ๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขุดตรวจสอบและพบ ถังพลาสติกขนาด 100 ลิตร ฝังอยู่ ภายในถังมีกล่องเหล็กที่ใช้สำหรับประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุอยู่ภายใน 6 กล่อง รวมทั้งอุปกรณ์ประกอบระเบิดกว่า 20 รายการ อาทิ สายไฟฟ้า หัวแร้งสำหรับเชื่อมวงจรไปไฟ ลวดตะกั๋ว ปุ๋ยยูเรีย แผงวงจรอีเล็กทรอนิกส์ จึงทำการยึดของกลางเพื่อส่งตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ เพื่อนำไปตรวจสอบว่าตรงกับลายนิ้วมือแฝงหรือดีเอ็นเอในระเบิดที่ใช้ก่อเหตุพื้นที่ใดบ้าง และนำไปขยายผลไปสู่การจับกุมคนร้ายต่อไป |
|
|
| |
| เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|
|
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน
