ทำไมคนอินเดียจึงจะกลับมานับถือพุทธ?
พลตำรวจตรี ธีระยุทธ ธรรมสาโรช ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดสระแก้ว ชวนอดีตตำรวจผู้มีชื่อว่านิติภูมิพูด “การปลูกจิตสำนึกให้ข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ดี” รับใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสอบสวน สืบสวน ป้องกันปราบปราม 600 คน ที่ห้องประชุมปางสีดา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว จันทร์วันนี้ 09.30-12.00 น.
ผมเขียนเปิดฟ้าส่องโลกฉบับวันนี้ที่บ้านพักในสวนแห่งหนึ่งในอำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา เดี๋ยวนี้ นักเดินทางไม่นิยมพักตามโรงแรมขนาดใหญ่ในเมืองแล้วครับ พฤติกรรมการบริโภคที่พักของมนุษย์เปลี่ยนเป็นการขับรถยนต์ไปจอดในรีสอร์ตที่อยู่ในเรือกสวนไร่นามากกว่า
ผมมางานบวชพระ 111 รูป โดยพระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ (พระอาจารย์ ดร.พระมหาโกวิท อภิปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดด่านใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผู้บวชส่วนหนึ่งเป็นปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ บวชถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และเพื่อศึกษาพระปริยัติและปฏิบัติธรรม 1 เดือน (8 เม.ย.-9 พ.ค. 54)
นิติภูมิสมัครเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ ดร.โกวิท เพราะศรัทธางานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในอินเดียของท่าน เกือบ 5 ปีที่แล้ว ผมก็เคยนิมนต์ท่านไปจำวัดที่บ้านที่ลาดกระบัง ขอความกรุณาท่านเทศน์ให้ผู้คนในครอบครัวฟัง เดี๋ยวนี้ลูกสาววัยรุ่น 3 คนของผม ว่างเป็นไม่ได้ ต้องขอไปบวชชีพราหมณ์ บางคนขอไปนั่งสมาธิทีละ 9 วัน ในห้วงช่วงเวลาปิดเทอม
ผู้ที่มางานบวชท่านที่นั่งข้างๆ ถามว่า คนพวกไหนในอินเดียที่หันมานับถือศาสนาพุทธ และทำไม? ผมตอบว่า เป็นทลิต คนพวกนี้
มีฐานะต่ำต้อยที่สุดในสังคมอินเดีย บางคนเรียกพวกนี้ว่า Shudra ศูทร บางคนเรียก Chandalas จัณฑาล Harijians หริชน Untouchable ไอ้พวกน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงแขงขน เราเรียกคนประเภทนี้รวมๆ ว่าเป็น Outcastes หรือพวกชนนอกวรรณะ พวกนี้มีจำนวนมากถึง 15% ของประชากรทั้งหมดของอินเดีย มีสัก 160 ล้านคนทั่วประเทศ อยู่ในทุกรัฐ
ทลิตจะมีสิทธิ์เฉพาะในของเหลือเดน จะใช้ได้เฉพาะหนังของวัวควายที่ตายแล้ว ไม่มีสิทธิ์กินอาหารดีๆ จะกินได้เฉพาะเศษอาหารที่คนอื่นทิ้งไว้ไม่กินแล้ว เสื้อผ้าใหม่ ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ ต้องใช้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่คนอื่นทิ้ง อาชีพที่ทลิตทำได้ก็มีจำกัด ต้องทำงานพวกฟอกหนัง เก็บเศษวัสดุ ถ้าเป็นบ้านเราก็คือ มีอาชีพเก็บของเก่าขาย กวาดถนน เช็ดถูอุจจาระปัสสาวะที่หกเลอะเทอะเปรอะเปื้อนในส้วม เป็นสัปเหร่อคอยเผาศพ ฯลฯ
คนที่เกิดมามีวาสนาต่ำต้อยเป็นทลิต ไม่มีสิทธิ์จะไปตักน้ำจากบ่อน้ำสาธารณะได้ดอกหรอกครับ ต้องไปยืนคอยอยู่ข้างถังน้ำ รอจนกว่าจะมีคนชนชั้นสูงกว่าตนคนใดใจดีมีเมตตากรุณาเทน้ำใส่ถัง หรือในหม้อให้ ทลิตนับถือศาสนาฮินดูก็จริง แต่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปในเทวสถานของศาสนาฮินดู
รัฐธรรมนูญของอินเดียปกป้องคุ้มครองทลิตนะครับ มาตรา 17 ห้ามรังเกียจชนนอกวรรณะ มาตรา 46 ส่งเสริมการศึกษาและปกป้องจากความไม่เป็นธรรมในสังคม มาตรา 15 ยกเลิกการห้ามเข้าร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่สาธารณะอื่นๆ ทว่า ตามความเป็นจริง ทลิตยังโดนกีดกันอยู่เหมือนเดิม ร้านค้าไหน ภัตตาคารใด เอาทลิตมาทำครัว รับรองว่าไม่มีใครเข้าไปทานอาหารเด็ดขาด โรงแรมไหนเอาทลิตมาเป็นพนักงาน ก็อย่าหวังว่าจะมีแขก ทลิตจึงทำงานได้แต่งานรัฐบาล ซึ่งงานรัฐบาลมีโควตาให้พวกทลิต แต่นับวันโควตาพวกนี้ก็จะมีแต่หดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลอินเดียสนับสนุนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้มาเป็นของเอกชน และเจ้าของวิสาหกิจเอกชนส่วนใหญ่ก็แขยงแขงขนคนที่เป็นทลิต
อันนี้เป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้คนอินเดียหันเข้าไปรับอิสลาม เพราะอิสลามไม่มีระบบชั้นวรรณะ ไม่มีพระคอยกีดกันคนธรรมดาในกรณีที่จะได้เฝ้าหรือเข้าถึงพระเจ้า อีกศาสนาหนึ่งที่ทลิตสนใจก็คือ พุทธศาสนา ตัวอย่างของทลิตที่หันมานับถือพุทธก็คือ ดร. อัมเพทการ์ ภายหลัง ดร.อัมเพทการ์พาทลิตหันมานับถือศาสนาพุทธเป็นแสนคน ประสงค์ของคนพวกนี้ก็คือ เพื่อให้ตนพ้นสถานะทลิต เพราะพุทธศาสนาไม่ได้แบ่งวรรณะมนุษย์
เปลี่ยนจากฮินดูมาเป็นชาวพุทธแล้ว บางทีก็ยังมีการต่อต้านจากพวกชนชั้นสูง อย่างตอนที่รัฐบาลของรัฐมหาราษฏระจะเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยมราฐาวทา ให้ไปเป็นชื่อมหาวิทยาลัยอัมเพทการ์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.อัมเพทการ์ในฐานะที่ท่านเป็นประธานร่างรัฐธรรมนูญอินเดีย การเปลี่ยนมีแต่คนค้าน ต้องใช้เวลานานถึง 15 ปี การเปลี่ยนชื่อจึงทำได้สำเร็จ
ผมพูดอธิบายได้ถึงตอนนี้ ก็ต้องหยุด เพราะมีคนเข้ามาฝากบอกบุญเรื่องการจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาปฏิบัติธรรมของวัดด่านใน ท่านใดสนใจกรุณาโทรศัพท์ไปกราบนมัสการพระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์เองที่ 08-1966-2058 งานบุญอื่นๆ ก็ยังมีการสร้างวัดในอินเดีย และเนปาล
สร้างไว้เพื่อให้พระพุทธศาสนาในอินเดียแข็งแรง
พุทธศาสนาจะได้เป็นที่พึ่งของทลิต.
นิติภูมิ นวรัตน์ นสพ.ไทยรัฐ |