อูมาร์ ฟิดายี มือระเบิดพลีชีพเด็กชายวัย 14 ปีชาวปากีสถาน ที่ถูกจับกุมหลังลงมือปฏิบัติการโจมตี ขณะประชาชนชุมนุมร่วมพิธีทางศาสนา ที่วิหารซาคีห์ ซาร์วาร์ ในตำบลเดรา กาซี ข่าน จังหวัดปันจาบ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 50 ศพ และบาดเจ็บกว่า 100 คน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่โรงพยาบาลในจังหวัดปันจาบ ว่า ขณะนี้มีผู้เข้ารับการฝึกฝนเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย ประมาณ 350 - 400 คน เพื่อออกไปปฏิบัติการโจมตีในพื้นที่ต่างๆ ทั่วปากีสถาน โดยศูนย์ฝึกอยู่ที่ฐานลับแห่งหนึ่ง ในเขตตำบลเมียร์อาลี จังหวัดวาซิริสถานเหนือ ซึ่งเป็นถิ่นอิทธิพลของเครือข่ายก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ และกองกำลังนักรบตาลีบัน
ฟิดายีได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 4 เม.ย. เนื่องจากสายคาดระเบิดที่พันรอบร่างกาย ทำงานเพียงบางส่วน หลังจากเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คน ดึงสายชนวนระเบิดฆ่าตัวตายกลางฝูงชน เพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น และเขาถูกตำรวจและผู้เห็นเหตุการณ์ ช่วยกันจับกุมตัวและถอดสายคาดปลดชนวนระเบิดได้สำเร็จ สถานีโทรทัศน์หลายช่องของปากีสถาน ถ่ายทอดสดการให้สัมภาษณ์ของฟิดายีในครั้งนี้ โดย ฟิดายีเผยอีกว่า เริ่มแรกเขาถูกชักชวนเข้าร่วมขบวนการ พร้อมกับเพื่อนเด็กชายวัยไล่เลี่ยกันอีกหลายคนจากที่ต่างๆ ด้วยความเชื่อว่า จะถูกส่งข้ามแดนไปสังหารคนนอกศาสนา โดยเขาและเพื่อนๆ ได้รับการฝึกเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย ที่ศูนย์ในเมียร์อาลีเป็นเวลา 2 เดือน แต่สุดท้ายก็ถูกส่งให้มาปฏิบัติการที่เดรา กาซี ข่าน โดยตัวเขาเองได้รับคำสั่ง ให้ดึงสายชนวนระเบิด ประมาณ 30 นาที หลังจากเพื่อร่วมทีมอีก 2 คนลงมือโจมตีไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสูญเสียให้มากที่สุด
ตำบลเดรา กาซี ข่าน อยู่ไม่ไกลจากแนวเขตพื้นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งรัฐบาลสหรัฐระบุว่า เป็นพื้นที่อันตรายที่สุดบนพื้นโลก และเป็นกองบัญชาการใหญ่ของอัล-กออิดะห์ ข้อมูลของทางการปากีสถานระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของมือระเบิดพลีชีพทั่วประเทศ กว่า 4,200 ศพแล้ว นับตั้งแต่กองทัพรัฐบาลบุกกวาดล้าง มัสยิดของกลุ่มหัวรุนแรงในกรุงอิสลามาบัดเมื่อเดือน ก.ค. 2550