หมวดหมู่
หน้าหลัก       ยินดีต้อนรับสู่มุสลิมไทย โพสต์
 
พิมพ์หน้านี้  |  ส่งให้เพื่อน
ข่าวการเมืองออนไลน์ กรณีฮิญาบที่วัดหนองจอก กับความขัดแย้งทางศาสนา เหรียญ ด้านที่สอง

ข่าวการเมืองออนไลน์ กรณีฮิญาบที่วัดหนองจอก กับความขัดแย้งทางศาสนา เหรียญ ด้านที่สอง

กรณีฮิญาบที่วัดหนองจอก กับความขัดแย้งทางศาสนา

เมื่อไม่นานมานี้หลายท่านอาจได้ยินข่าวที่ไม่สู้ดีนักเกี่ยวกับมติของมหาเถรสมาคม ที่ห้ามไม่ให้นักเรียนวัดหนองจอกนุ่งฮิญาบ ซึ่งเมื่อได้ยินครั้งแรก ผมก็ไม่เห็นด้วยกับมตินี้โดยทันที เพราะเหมือนเป็นการที่ชาวพุทธหลายล้านคนทำร้ายจิตใจอย่างแรงชาวต่อมุสลิมที่เป็นพี่น้องไทยกันเอง

นั่นก็เป็นไปตามที่คาด เพราะบรรดาพี่น้องมุสลิมต่างๆ รวมถึงชาวพุทธบาง ส่วนก็ออกมาต่อต้านต่อมติดังกล่าว และในท่ามกลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากนี้ มหาเถรสมาคมก็ยังคงนิ่งเฉยมิได้มีการตอบโต้ในประเด็นนี้แต่อย่างไร ทำให้ยังเป็น ข้อกังขาของสังคมเรื่อยมา

หากใครเข้าไปดู Youtube ก็จะเห็นว่ามีการโพสต์เข้ามามากมายจากเยาวชน มุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดน ในทำนองด่า ว่าไม่เห็นด้วย เรียกว่าสาดเสียเทเสียศาสนาพุทธของเรา ซึ่งดูแล้วเหมือนเป็นการปลุกระดมมุสลิมทั่วประเทศสู้กับพี่น้อง ร่วมชาติ จะต่างกันก็ที่ศาสนาและวัฒนธรรม

ไม่นานประเด็นนี้ก็ถูกหยิบยกมาพูดในเชิงการเมือง ได้ยินมาว่ามีการใช้ประเด็นนี้หาเสียง ซึ่งถ้าเป็นจริงผมฟันธงเลยว่า ได้ใจพี่น้องมุสลิมครับ

แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมก็ค่อนข้างกระจ่างในหลายเรื่อง ทำให้ต้องมามองมหาเถรสมาคมใหม่ พร้อมกับชี้ชัดได้เลยว่า “มหาเถรสมาคม” ตกเป็นเหยื่อของการ เมืองและผลประโยชน์ชัวร์!!!

ประเด็นแรก โรงเรียนวัดหนองจอกอยู่ในพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก ในโรงเรียนเองมีผู้อำนวยการเป็นคนมุสลิม และผู้บริหารระดับสูงหลายท่านก็เป็น มุสลิม และนักเรียนเป็นมุสลิมและไทยพุทธครึ่งต่อครึ่ง

ประเด็นต่อมา โรงเรียนได้ปรับเปลี่ยนหลักสูตรส่วนใหญ่เข้าเป็นการศึกษา แบบมุสลิมแล้ว ทำให้การสอนส่วนหนึ่งจะเป็นเรื่องของศาสนาอิสลาม

ประเด็นสำคัญคือ โรงเรียนแห่งนี้มีกฎห้ามนุ่งฮิญาบมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งที่ ผ่านมาเด็กนักเรียนก็ปฏิบัติตามกฎระเบียบเช่นนี้มาตลอด ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

สุดท้ายคือ กฎดังกล่าวเป็นกฎของโรงเรียน มิใช่เป็นกติกาที่มหาเถรสมาคม อาศัยอำนาจตัดสินใจในนามของตัวแทนชาวพุทธแต่อย่างใด โดยโรงเรียนให้เหตุผล ว่า โรงเรียนอยู่ในบริเวณวัด และมีเครื่องแบบนักเรียนอยู่แล้ว

ประเด็นที่ต้องติดตามคือ เหตุใดโรงเรียนที่มีนักเรียนมุสลิมจำนวนมาก แต่กลับออกกฎเช่นนี้ออกมา แล้วเหตุใดจึงอ้างว่าเป็นมติของมหาเถรสมาคม ทั้งที่โรงเรียนเป็นคนออกกฎมา เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องของโรงเรียน และสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา

แบบนี้ดูมันส่อและทะแม่งๆ พิกล เพราะไม่นานเรื่องนี้ก็ระอุจนกลายเป็น การยุยงให้คนสองศาสนาเกลียดกันเอง จนในที่สุดก็ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นทาง การเมือง 

แบบนี้ใครคือเหยื่อ ใครคือคนเปิดแผล ใครคือคนได้ประโยชน์ ลองคิดดูเอาเอง???

ที่มา สยามธุรกิจ

 
  เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :-
 
  เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :-
บทความที่น่าสนใจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
340 ลาดพร้าว 112 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 0-2514-0593 แฟ็กซ์ 0-2538-4215 Email : [email protected]

Warning: include(../../main/globalsitemap.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185

Warning: include(): Failed opening '../../main/globalsitemap.php' for inclusion (include_path='.:/usr/lib/php:/usr/local/lib/php') in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185