ฝรั่งเศสสอยหล่น 1 เครื่องบินรบลิเบีย
พันธมิตรส่งมอบหน้าที่บัญชาการรบให้ 'นาโต้' รับหน้าเสื่อดูแลปฏิบัติการถล่ม “ลิเบีย” ขณะที่ในเมืองหลวงตริโปลี-ทารูจา ยังมีเสียงบึ้มเป็นระยะ ๆ ด้านทัพน้ำหอมเผยสอยทันควัน 1 ลำบินรบลิเบียแหกด่านเขตห้ามบิน “มะกัน” โวมีอาหรับหนุนหลังเต็มที่ ส่วนฝ่ายกบฏเผยสมุน “กัดดาฟี” เริ่มขอยอมยกธงขาวแล้ว “มาร์ค” รับคว่ำบาตร ลิเบีย เรื่องละเอียดอ่อนต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ภายหลังกองกำลังพันธมิตรชาติตะวันตก นำโดยสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส เปิดฉากปฏิบัติการ “โอดิสซีย์ ดอว์น” ระดมอาวุธหนัก ถล่มเป้าหมายทางทหารของรัฐบาล พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย จนหลายจุดยุทธศาสตร์ราบเป็นหน้ากลอง เพื่อปกป้องประชาชนลิเบียจากความโหดร้ายของรัฐบาล แม้จะมีเสียงทัดทานจากประเทศจีน อินเดีย เกาหลีเหนือ เรียกร้องให้ยุติการโจมตีทางอากาศ ด้วยเหตุผลว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของลิเบียและก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ ขณะที่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ยืนยันไทยไม่ส่งกองกำลังร่วมโจมตีลิเบีย ย้ำประเทศไทยไม่มีนโยบายโจมตีประเทศอื่น แต่ยอมรับมติคว่ำบาตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ว่า นายอังเดรส ฟอจห์ ราสมุสเซน เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ แถลงว่า นาโต้ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 28 ประเทศตกลงรับหน้าที่การบัญชาการรบ เพื่อให้มีผลบังคับใช้สำหรับเขตห้ามบินตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งปฏิบัติการโจมตีทางทหาร หรือที่เรียกว่า โอดิสซีย์ ดอว์น ของกองทัพพันธมิตรยังคงเดินหน้าต่อไปเป็นวันที่หกติดต่อกันแล้ว
เลขาธิการนาโต้กล่าวยืนยันว่า ปฏิบัติการของนาโต้จะจำกัดเฉพาะเรื่องการบังคับใช้เขตห้ามบินเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐที่กรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า นาโต้ได้บรรลุข้อตกลงทางการเมืองว่าจะควบคุมดูแลในด้านอื่น ๆ ด้วย เพื่อจุดประสงค์ในอันที่จะคุ้มครองชีวิตของพลเรือนในประเทศลิเบีย ซึ่งก็หมายความว่าจะโจมตีได้เฉพาะกองกำลังของพ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียเท่านั้น
ส่วนที่กรุงตริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยังคงมีเสียงระเบิดดังกึกก้อง และการยิงด้วยปืนต่อสู้อากาศยานของกองทัพลิเบีย ต่อการโจมตีทางอากาศของกองทัพพันธมิตร จุดที่เกิดการระเบิดก็มีทั้งใจกลางกรุงตริโปลี และแถบเมืองทาจูรา ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพของกองทัพลิเบีย ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของลิเบียรายงานว่า ที่ตั้งทางพลเรือนและทางทหารในกรุงตริโปลีและทาจูรา ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล
นอกจากนั้นยังมีการสู้รบที่เมืองมิสราตา ฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏ 214 กม.ทางตะวันออกของกรุงตริโปลี ซึ่งแพทย์ในโรงพยาบาลระบุว่า นับตั้งแต่การสู้รบเมื่อวันที่18 มี.ค.ที่ผ่านมา การโจมตีของฝ่ายกองทัพลิเบียต่อที่มั่นของฝ่ายกบฏแห่งนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 109 ศพ และบาดเจ็บ 1,300 คน
กองทัพฝรั่งเศสแถลงด้วยว่า มีเครื่องบินขับไล่ของกองทัพลิเบีย 1 ลำ ที่หาญกล้าฝ่าฝืน
คำสั่งเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบียของสหประชาชาติ จึงถูกลงโทษอย่างทันควันจากเครื่องบินรบของฝรั่งเศส ซึ่งได้ยิงถล่มเครื่องบินขับไล่ของลิเบีย หลังจากนำเครื่องลงจอดที่เมืองมิสราตา
ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐได้เรียกร้องให้ทหารกองทัพลิเบียละเลยการปฏิบัติตามคำสั่งของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียได้แล้ว โดย พล.ร.ท.วิลเลียม กอร์ทนีย์ แห่งกองทัพสหรัฐ กล่าวว่า การสื่อสารจากฝ่ายกองทัพสหรัฐนั้นง่ายมาก เพียงแต่ยุติการสู้รบ ยุติการเข่นฆ่าประชาชนของลิเบียด้วยกันเอง และที่สำคัญยุติการปฏิบัติตามคำสั่งของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ขณะนี้เรากล่าวได้ว่า กองทัพพันธมิตรกำลังเพิ่มขึ้นทั้งกำลังพลและศักยภาพ ใช้เครื่องบินรบสำหรับปฏิบัติการทางทหาร 350 ลำด้วยกัน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุด้วยว่า ขณะนี้มี 12 ประเทศแล้วที่เข้าร่วมในกองทัพพันธมิตรสำหรับปฏิบัติการบังคับใช้เขตห้ามบิน รวมทั้งสองชาติอาหรับ ได้แก่ กาตาร์ กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งทางนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวถึงความสำคัญของกลุ่มประเทศอาหรับที่ให้การสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ และเธอก็จะไปร่วมประชุมเรื่องปฏิบัติการทางทหารในลิเบีย ซึ่งประชุมกันที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันอังคารที่ 29 มี.ค.นี้
พล.อ.อ.อาเหม็ด โอมาร์ บานี โฆษกกองกำลังฝ่ายกบฏ แถลงที่เมืองเบงกาซี ฐาน
ที่มั่นสำคัญอีกแห่งหนึ่งของฝ่ายกบฏว่า มีทหารของกองทัพลิเบียบางคนได้ร้องขอยอมแพ้แล้ว ทางกองกำลังฝ่ายกบฏกำลังหาทางเจรจากับพวกนี้ที่เมืองอัจดาบิยาห์ เพราะเราค่อนข้างแน่ใจว่า ทหารพวกนี้ไม่สามารถติดต่อกับกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพลิเบียได้แล้ว นอกจากนั้นก็มีข่าวในทำนองเดียวกันนี้ที่เมืองเซบาห์ทางตอนใต้ของประเทศ และโฆษกรัฐบาลลิเบียในกรุงตริโปลีแถลงว่า มีพลเรือนถูกฆ่าตายไปเกือบ 100 ศพ นับตั้งแต่กองทัพพันธมิตรเปิดฉากโจมตีลิเบียเมื่อวันเสาร์ที่ 19 มี.ค.เป็นต้นมา
ส่วนความเห็นของผู้นำประเทศมหาอำนาจนั้นก็มี นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า ทหารรัฐบาลลิเบียไม่เคารพคำสั่งหยุดยิงของสหประชาชาติ แม้จะถูกกองทัพพันธมิตรเปิดฉากการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องก็ตาม ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของนานาชาติในลิเบียก็เพื่อปกป้องการเสียชีวิตของพลเรือนจำนวนมากในช่วง 6 วันที่ผ่านมา ส่วนประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ หลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตของพลเรือนในลิเบียและจำกัดการโจมตีเฉพาะเป้าหมายที่สหประชาชาติกำหนดไว้เท่านั้น
ในส่วนของประเทศไทย ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.พรรคมาตุภูมิ เรียกร้องไม่ให้ไทยปฏิบัติตามมติของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่ 1970 ที่ ให้คว่ำบาตรลิเบีย ว่า ครม.รับทราบเพียงมติยูเอ็นเอสซีแต่ยังไม่ได้รับรอง เพราะหลายเรื่องจำเป็นที่จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งมาว่าถ้าจะ ปฏิบัติตามมติของยูเอ็นเอสซี จะปฏิบัติอย่างไร รัฐบาลจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบในการปฏิบัติตามพันธสัญญา เนื่องจากไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แต่เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน เพราะมีถึง 2 ข้อมติ (คือมติที่ 1970 ที่ให้คว่ำบาตร และมติที่ 1973 ที่ให้ส่งกองกำลังเข้าไปปฏิบัติการในลิเบีย) จึงอยากให้กระทรวงการต่างประเทศประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอกลับมายัง ครม.อีกครั้ง.