๒๐๑๒ สิ้นโลก ก็ไม่สิ้น(คน)อินเดีย
ไปอินเดียทำให้ผมได้สติ "ชีวิตนี้ไม่ยากเลย" ถ้าเราเข้าใจคำว่า "พอใจในสิ่งที่เราเป็นอยู่-มีอยู่" เพราะตรงนี้แหละทำให้ผมพูดได้เต็มปากว่า "อินเดียคือ ออริจินอลแห่งมนุษย์" อินเดียไม่มีคนจน ถึงแม้ทุกถนนเกลื่อนไปด้วยขอทานก็ตาม อยากกิน-กิน, อยากนอน-นอน, อยากถ่าย-ถ่าย แค่ใจไม่ทุกข์ก็สุขแล้ว และขอทานอินเดียไม่ใช่เครื่องหมายของความจน หากแต่นั่น มันเป็นการดำรงวิถีเพื่อสร้างความสมดุลให้กับ "สังคมอินเดีย" ตะหาก ถ้าไม่มี "ขอทาน" แล้วคนพันกว่าล้านของอินเดียจะสืบสานวัฒนธรรมวรรณะให้คงอยู่อย่างมีความหมายที่เข้ม-ขลังได้อย่างไร และถ้าไม่มี "ผู้ขอ" คนอีกส่วนหนึ่งจะดำรงวิถี "ผู้ให้" จรรโลงโลกอยู่ได้อย่างไร ตรงนี้ คุณชัยวัฒน์ สุรวิชัย เพื่อนร่วมคณะเป็นผู้ให้ความเห็น เท่าที่ผมเห็น การอยู่-การกินของคนอินเดียที่เรียกว่า "วิถีชีวิต" ไม่ต้องขอก็ไม่อดตาย นอกจาก "กินง่าย-อยู่ง่าย-ถ่ายง่าย-ไม่มักมาก" แล้ว แค่เอาเมล็ดพันธุ์ หรือผักหญ้าทิ่มๆ ทิ้งไว้ตามผืนดินอันสมบูรณ์ด้วยปุ๋ยคน ไม่กี่วันก็ได้กินมังสวิรัติแล้ว! คนอินเดียที่มุมไบก็ดี ที่ออรังกาบาดก็ดี ที่ปูเนก็ดี จากที่ผมสัมผัส จากยอดโรงแรมระดับ ๕ ดาว ถึงขอทานที่คลานคลุกฝุ่นตามพื้นดิน วิถีแห่งการกิน และอาหารการกิน.....จะต่างกันก็ตรงพอใจจะใช้จานหรือใช้ใบตองรองเท่านั้น มังสวิรัติเป็นพื้น กินได้ทั้งฮินดูและมุสลิม และนับวันคนอินเดียจะนิยมกินมังสวิรัติเป็นเงาตามตัวกับความเจริญและความรวยทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มขึ้น ยิ่งในตัวเมืองมุมไบด้วยแล้ว ไปทางไหนก็ระเกะก่ายไปด้วยการก่อสร้างถนนใต้ดิน-บนดิน-ลอยฟ้า พร้อมป้ายที่ปัก "ทนหน่อย เพื่ออนาคต"! ที่ให้อดทนก็เรื่องการจราจร ทั้งคน-ทั้งรถเหมือนมด เหมือนปลวก ระยะทาง ๕ โล ๑๐ โล ไม่หนี ๑ ชั่วโมง ขนาดทางหลวงยังใช้ความเร็วได้แค่ ๔๐ กม./ช.ม. คณะผมนั่งรถจากออรังกาบาดไปปูเน ราว ๒๕๐ กม.ใช้เวลา ๖ ชั่วโมง เพราะไหนจะคน ไหนจะวัว ไหนจะคาราวานยิปซี ไหนจะเกวียน และไหนจะรถด้วยกัน บีบแตรสนั่นหวั่นไหว คุณปรีดา เตียสุวรรณ์ ผู้ชำนาญการด้านสังคมอินเดียปัจจุบันบอก ถ้าขับรถไม่บีบแตร มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ถึงศาลมีสิทธิ์ติดคุกหัวโต เพราะศาลจะถามก่อนว่า "บีบแตรหรือเปล่า" ถ้าบีบแสดงว่าเตือนแล้ว ขอทางแล้ว บอกแล้ว อย่างนี้ไม่ประมาท แต่ถ้าไม่บีบ แสดงว่าประมาท ไม่บอก ไม่เตือน ผิดสถานเดียวน่ะนาย Good Horn Good Help Good Luck ใครขับรถอินเดีย ไม่ต้องแปะยันต์หน้ากระจก แค่ท่อง ๓ คำนี้ไว้ แล้วจะปลอดภัยทั้งโคตร! อาหารในภัตตาคารหรู ในโรงแรมหรู กับเพิงหมาแหงนใต้ต้นไม้กลางลานดินริมถนนฝุ่นคลุ้ง "วิถีอาหารเหมือนกัน" จะต่างตรงความสะอาดเท่านั้น มีถาดใบเดียว จะกินอะไรก็โปะใส่เหมือนพระป่าฉันสำรวม ผมมีความสุขกับการกินที่อินเดียมาก เรียกว่าได้กินมังสวิรัติเกือบทุกมื้อตลอด ๕-๖ วันที่อยู่ที่นั่น ก่อนไปมีคนเตือนนัก-เตือนหนา ให้เตรียมยาแก้ท้องเดินไป พกน้ำดื่มไป ไม่จำเป็นอย่ากิน อย่าเอาอาหารอะไรตามรายทางใส่ปากเด็ดขาด แต่พวกผมหม่ำแหลก โดยเฉพาะอาจารย์ธีรยุทธ คุณปรีดา ท่านอาจารย์ศรีศักร คุณสนิทสุดา เอกชัย คุณชัยวัฒน์ สุรวิชัย ยิ่งคุณนิวัติ กองเพียร กับคุณประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ และคุณสุรนุช ธงศิลา ด้วยแล้ว แวะที่ไหนเป็นชิมที่นั่น ยกเว้นคุณสถาพร ลิ้มมณี คนเดียว นอกจากกินน้อยแล้ว ยังพูดนับคำอีกด้วย ไปด้วยกัน ๕-๖ วัน ยิ้มมมมมจนมดอินเดียตอม อาจารย์ธีรยุทธกระซิบว่า สมัยอยู่ด้วยกันในป่าก็แบบนี้ ขึ้นเขา-ลงห้วย ไปไหนไปกัน ครั้นตอนสนทนา วาจาวิรัติตลอด ตรงข้ามกับคุณชัยวัฒน์ สุรวิชัย ถ้าไม่หยอด ไม่แย้ง ไม่ตะแคงถามตลอดเวลา ก็ไม่สมนามสหาย แฮปปี้ ซีมูน! ไปด้วยกันทั้งหมด ๑๑ คน ระรายทางกินดะ ปรากฏว่า "ท้องผูก" กันหมด แต่ปัสสาวะไม่ผูก เพราะร้อนตั้ง ๔๐ องศาฯ ผมเงี้ยตกบ่ายเลือดกำเดาไหลโจ๊กเกือบทุกวัน จึงโด๊ปน้ำกันคนละหลายแกลลอน ยิ่งแวะตามรายทาง ยิ่งได้ดู-ได้รู้-ได้เห็น ซึ่งวิถีอันเป็นรากของชาวอินเดียที่แข็งแกร่ง ก็ยิ่งเข้าใจว่า สุขไม่ต้องแสวงหา เพียงรักษารากแห่งอารยวัฒนธรรมชาติไว้ อย่าให้กาลเวลาแห่งยุคสมัยลากไป แล้วความเป็นยูนีกแห่งเราก็จะสะท้อนธรรมชาติสุขที่คนทั้งโลกอิจฉา แต่มิสามารถสลัดเปลือกแห่งมายาเข้าหาแก่นแกนได้เช่นเรา! ที่ว่า ๑๑ คนนั้น ๑๐ คนคณะมุดถ้ำ อีก ๑ คือ คุณภภพพล จันทร์วัฒนกุล ซึ่งไล่เรียงแล้วปรากฏว่าเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์ศรีศักรที่ศิลปากร หลังจบทางโบราณคดี ก็มาเอาดีทางตั้ง "สวัสดีฮอลิเดย์ทัวร์" พาผู้นิยมเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โบราณสถานไปตะลอนทั่วโลก ยิ่งอินเดียนี่ด้วยแล้ว คุณติ๊งหรือคุณภภพพล เกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยทีเดียว แต่ถ้าใครจะไปสังเวชนียสถาน ต้องจองกันข้ามเดือน-ข้ามปี เพราะขาประจำคุณติ๊งเขาตรึม การดูแลไม่ต้องพูดถึง แต่การให้ความรู้ทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ในแต่ละที่ที่ไปนี่ซี มาตรฐานไม่เสียทีที่เป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์ศรีศักรของผม! มีเรื่องเล่าว่า ใครไปสังเวชนียสถาน กลับมามักถูกถาม "ซึ้งในรสพระทำมั้ย?" รส-พระ-ทำ อย่างนั้นจริงๆ ไม่ใช่ "รสพระธรรม" คือหมายความว่า ทัวร์ส่วนใหญ่มักพาลูกทัวร์ไปนอนวัดไทย แล้วให้พระช่วยหุงข้าว-หุงปลา ทำอาหารให้กิน ก็เลยมีศัพท์ "ซึ้งในรสพระทำ" เกิดขึ้นในหมู่ทัวร์ ครับ...นึกอะไรได้ก็เล่าไปเรื่อยๆ ทิ้งไว้นานเดี๋ยวลืมหมด ไปอินเดียต้องจำไว้ ต้องทำใจเป็นคนอินเดีย ถ้ามากจริต-อย่าไป ที่อาจารย์ธีรยุทธนำจาริกออรังกาบาด และปูเนเที่ยวนี้ เป้าหมายไปดูถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลรา ถ้ำการ์ลา และถ้ำเอเลฟันตะ ผมพูดโก้ๆ ว่า "ไปอินเดีย" งั้นเอง แต่ความจริงไปอยู่ตามป่า-ตามเขาแถบบ้านนอกน่ะ เหมือนบอกว่าไปเมืองไทย แต่ไม่ได้ไปกรุงเทพฯ หรอก มุดๆ ตามหมู่บ้าน ตามตำบล แถวๆหนองคาย บึงกาฬโน่นแหละ ฉะนั้น อย่าถามถึงแสง-สี เห็นอยู่สีเดียว คือสีอุจจาระแห้งบ้าง เปียกบ้าง กลางถนนบ้าง ตามพื้นดินบ้าง ขืนเดินแบบตาเอาแต่มองดาว พวกคงด่ากันขรมตอนขึ้นรถแน่ วันนี้-คุยเท่านี้พอ มาดูทางบ้าน-ทางเมืองเราบ้าง ท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาเนาวันยุบ-วันเลือกตั้งแล้วว่า ยุบสภาประมาณต้นพฤษภา เลือกตอนปลายมิ.ย.หรือต้น ก.ค. และการันตีว่าต้องมีเลือกตั้งล้านเปอร์เซ็นต์ แต่มีบางพวก-บางหมู่บอกว่า ไม่น่ามีเลือกตั้ง ถามว่าเพราะอะไร เขาก็ตอบว่า "เพราะตัวเงิน-ตัวทองเลื้อยเข้ากองทัพบก!?" ถ้านี่คือเหตุผลก็...จบข่าวซิครับ..ทั่น ในมุมมองผม ถ้าเลือกตั้งล่าไปถึงต้น ก.ค. หมายถึงว่าการหาตัวนายกฯ จะเข้าไปเดือนสิงหา-กันยา แบบนี้ละก็ ผมแทง "เพื่อไทย" หมดหน้าตักว่า นายกฯ จะมาจากพรรคนี้ เอาละ...ไว้คุยกันวันหลัง วันนี้ คุณ Hollland และอีกหลายท่านส่งปรากฏการณ์ทางสัตว์น้ำในทะเลเป็นข้อสังเกตเชิงสถิติมาให้ผมภายใต้หัวข้อว่า "โลกกำลังจะบอกอะไรเรา....ลองคิดเองว่า เหตุการณ์ทั้งสามนี้มันเกี่ยวกันไหม?" ผมว่าน่าสนใจ ขออนุญาตลอกให้อ่านกัน เสียดายนิดเดียวที่เอาภาพลงด้วยไม่ได้ เหตุการณ์ที่ 1 ฝูงปลาวาฬ 24 ตัว ตายตรงชายฝั่งทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ เมื่อ 22 มกราคม 2554 (Jan 22, 2011 - 24 whales died on the beach north of New Zealand.) หลังจากนั้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 แผ่นดินไหวนิวซีแลนด์ครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปี (On Feb 22, 2011 - earthquakes in New Zealand - caused serious damage and deaths.) เหตุการณ์ที่ 2 ปลาหลายล้านตัวเกยตื้นหมู่ปริศนาในแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ( March 9, millions of fishes amazingly died in California.) หลังจากนั้นในวันที่ 11 มีนาคม 2554 สึนามิ 10 เมตรถล่มญี่ปุ่น หลังเกิดแผ่นดินไหว 8.9 ( March 11, 2011, earthquakes caused tsunami causing serious damage plus thousands of death in Japan.) เหตุการณ์ที่ 3 ฝูงปลาจำนวนมหาศาลไปว่ายรวมตัวกันที่ชายฝั่ง Acapulco ประเทศ Mexico วันที่ 13 มีนาคม 2554 (On March 13, 2011, millions of fishes got together on the beaches of Mexico.) หลังจากนั้นในวันที่ ....... อะไรกำลังจะเกิดขึ้นอีก ที่ไหน ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่าเร็วๆ นี้แหละ... And....WHAT IS GOING TO HAPPEN NEXT - ON......!? ครับ...นี่ไม่ใช่บอกโชคลาง แต่ทางธรรมชาติวิทยาบอกว่า ปลาส่งสัญญาณถึง "สิ่งผิดปกติ" ที่กำลังเกิดหรือจะเกิดจากในน้ำ-ใต้ท้องน้ำ แผ่นดินไหวแรงๆ อย่างนี้ ระวัง..."กากนิวเคลียร์" ที่ในโลกนี้ยังหาวิธีกำจัดไม่ได้ และสร้างอุโมงค์เก็บไว้ลึกลงไปใต้ท้องมหาสมุทร อาจแตกชำรุดให้รั่วไหลออกมาได้ ถ้าแบบนี้ก็ควรดีใจที่เราจะได้เห็น ๒๐๑๒ ...วันสิ้นโลก!
ที่มา นสพ.ไทยโพสต์ |