รัสเซีย 22 มี.ค. - 2 ผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ และนายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อความเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการทางอากาศโจมตีลิเบียของสหประชาชาติ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้ความเห็นต่อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ให้ปิดน่านฟ้าลิเบียและเปิดทางให้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อลิเบีย เพื่อปกป้องพลเรือนจากการโจมตีของกองกำลัง พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ว่าเป็นเหมือนคำประกาศในยุคกลางให้ทำสงครามศาสนา ยุติบทบาทของชาวมุสลิมที่ครอบครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ซึ่งเป็นคนสนิทของปูตินเอง ต้องออกมาตอบโต้ว่าเป็นความเห็นที่ไม่อาจยอมรับได้ และว่าอาจส่งผลให้เกิดการปะทะกันทางวัฒนธรรมตามมา นับเป็นครั้งล่าสุดที่ปูตินและเมดเวเดฟออกมาตอบโต้กันผ่านสื่อ
ทั้งนี้ รัสเซียงดออกเสียงต่อมติดังกล่าวของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขณะที่ประธานาธิบดีเมดเวเดฟแสดงท่าทีสนับสนุนมาตรการดังกล่าว. - สำนักข่าวไทย
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติตกที่จะจัดประชุมขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
นักการทูตผู้หนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยนามกล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะจัดการประชุมขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ท่ามกลางการโจมตีทางอากาศต่อลิเบียเพื่อบังคับใช้เขตห้ามบินผ่านตามมติของสหประชาชาติ การประชุมดังกล่าวเป็นไปตามแผนการณ์ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ตัดสินใจเพื่อทบทวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในลิเบียเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา หลังจากที่สหประชาชาติได้เห็นชอบกับการใช้กำลังต่อลิเบีย นักการทูตผู้นั้นกล่าวด้วยว่านายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ จะขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมในวันดังกล่าวด้วย ขณะที่มีรายงานว่าฐานที่มั่นของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาห์ฟี ผู้นำลิเบีย หลายแห่งถูกโจมตีและมีรายงานว่าบุตรชายคนหนึ่งของพันเอกกัดดาฟีเสียชีวิต ขณะเดียวกันฝ่ายกบฎกล่าวว่ากำลังตกอยู่ภายใต้การโจมตีอย่างหนักของกองกำลังรัฐบาลที่เมืองมิสราตาที่ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงทริโปรีเมืองหลวงของลิเบียและผู้สื่อข่าวเอเอฟพี.ได้เห็นฝ่ายกบฎถูกโจมตีกลับหลังจากที่พยายามจะเข้ายึดเมืองอัจดาบียาเมืองสำคัญทางตะวันออกของลิเบียและกรุงที่กรุงไคโลสันนิบาตอาหรับได้ออกมายืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าให้การสนับสนุนการปฏิบัติการโอดีสซี่ย์ดอว์นหรือปฏิบัติการรุ่งอรุณแห่งการผจญภัยที่ยาวนาน หลังจากที่เมื่อวันก่อนสันนิบาตอาหรับกล่าวว่าการโจมตีลิเบียภายใต้การนำของสหรัฐ ฝรั่งเศส และอังกฤษ เป็นสิ่งที่นอกเหนือขอบเขตการปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติขณะที่ 2 ผู้นำรัสเซียอย่างประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ และนายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงต่อความเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการทางอากาศโจมตีลิเบียของสหประชาชาติก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้ความเห็นต่อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ให้ปิดน่านฟ้าลิเบียและเปิดทางให้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อลิเบีย เพื่อปกป้องพลเรือนจากการโจมตีของกองกำลัง พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ว่าเป็นเหมือนคำประกาศในยุคกลางให้ทำสงครามศาสนา ยุติบทบาทของชาวมุสลิมที่ครอบครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ซึ่งเป็นคนสนิทของปูตินเอง ต้องออกมาตอบโต้ว่าเป็นความเห็นที่ไม่อาจยอมรับได้ และว่าอาจส่งผลให้เกิดการปะทะกันทางวัฒนธรรมตามมา นับเป็นครั้งล่าสุดที่ปูตินและเมดเวเดฟออกมาตอบโต้กันผ่านสื่อ ทั้งนี้ รัสเซียงดออกเสียงต่อมติดังกล่าวของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขณะที่ประธานาธิบดีเมดเวเดฟแสดงท่าทีสนับสนุนมาตรการดังกล่าว -สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์