เท่าสงครามโลก ‘คัง’ชี้ความรุนแรงตายเกินหมื่น ‘มาร์ค’แพลมทบทวนโรงไฟฟ้า!

ญี่ปุ่นหวั่นแท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในเตาปฏิกรณ์ 2 แห่งหลอมละลายปลดปล่อยกัมมันตภาพรังสีอีก เร่งสูบน้ำทะเลหล่อเย็น แต่รัฐบาลยืนยันยังไม่เลวร้ายเท่าเชอร์โนบิล ขณะยอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งเกิน 10,000 ศพภายหลังคลื่นยักษ์กวาดคนหายไปครึ่งเมือง นายกฯ นาโอโตะ คัง ระบุวิกฤติครั้งนี้เลวร้ายที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 กระทรวงการต่างประเทศเล็งชง ครม.ของบ 200-300 ล้านช่วยปลาดิบ "มาร์ค" แพลมอาจเลิกแนวคิดตั้งโรงไฟฟ้า วิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่นยังไม่ยุติ ภายหลังอาคารครอบเตาปฏิกรณ์หนึ่งของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ 1 ระเบิดเมื่อวันเสาร์ จนทางการต้องอพยพประชาชนประมาณ 200,000 คน โดยในวันอาทิตย์ ยูกิโอะ เอดาโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิงบางส่วนที่เตา ปฏิกรณ์หมายเลข 1 ของฟุกุชิมะ
ขณะเดียวกัน ได้เกิดแรงดันสะสมภายในเตาปฏิกรณ์ที่ 3 ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระบายแรงดันเพื่อป้องกันแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หลอม ละลาย ทำให้กัมมันตภาพรังสีบางส่วนถูกปลดปล่อยสู่อากาศด้วย แต่เอดาโนะยืนยันว่ายังไม่ถึงระดับที่เป็นอันตราย วิศวกรกำลังปั๊มน้ำทะเลเข้าไปที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน เตาปฏิกรณ์นี้ใช้เชื้อเพลิงออกไซด์ผสมซึ่งมีพลูโตเนียม แต่บริษัทโตเกียวอีเล็กทริกเพาเวอร์ (เทปโก) กล่าวว่ายังไม่เกิดปัญหาผิดปกติ ด้านเดวิด ล็อกบวม ผู้อำนวยการสหภาพนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับโครงการความปลอดภัยด้าน นิวเคลียร์ กล่าวว่า การใช้น้ำทะเลในการหล่อเย็นหมายถึงการหมดทางเลือกอื่นแล้ว
เทปโกกล่าวด้วยว่า ระดับของกัมมันตภาพรังสีรอบโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะไดอิชิได้เพิ่มขึ้นเกินขีดความ ปลอดภัย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามี "ภัยคุกคามฉับพลัน" กับสุขภาพของมนุษย์ ทั้งนี้ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องแจ้งเตือนรัฐบาลหากระดับกัมมันตภาพรังสี ต่อชั่วโมงถึง 500 ไมโครซีเวิร์ต แต่ระดับที่ปล่อยออกมาเมื่อเช้าวันอาทิตย์นั้นสูงถึง 1,200 ไมโครซีเวิร์ต
รัฐบาลได้อพยพประชาชนออกนอกรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงงานนี้แล้ว และยังได้อพยพประชาชนโดยรอบโรงงานแห่งที่สองคือฟุกุชิมะ 2 ซึ่งอยู่ใกล้กัน โรงนี้มีเตาปฏิกรณ์ 4 เตา มีรายงานด้วยว่า ประชาชน 190 คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 10 กม.ตรวจพบว่ามีระดับกัมมันตรังสีในร่างกายเพิ่มขึ้น โดย 22 คนถูกส่งเข้ารับการรักษาการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี แต่ยังไม่ชัดเจนว่าได้รับรังสีกันมากน้อยเพียงใด เจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันรังสีต้องใช้เครื่องสแกนผู้อพยพทุกคนที่เดินทางมา ยังศูนย์พักพิงชั่วคราวป้องกันนำกัมมันตภาพรังสีมาปนเปื้อนผู้อื่น
คาดตายทะลุหมื่นคน ด้านความสูญเสียนั้น สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานอ้างคำกล่าวของนาโอโตะ ทาเกอุจิ ผู้กำกับการตำรวจจังหวัดมิยากิว่า เฉพาะที่มิยากิน่าจะมีผู้เสียชีวิตถึง 10,000 คน รายงานกล่าวด้วยว่าที่มินามิซังริกุซึ่งเมืองท่าขนาดเล็ก ยังไม่รู้ชะตากรรมของประชาชนอีกครึ่งเมืองหรือราว 10,000 คน หลังจากถูกคลื่นยักษ์สูง 10 เมตรกวาดไปเกือบทั้งเมือง ด้านการค้นหาศพ นั้น ในวันอาทิตย์ มีรายงานจากโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พบศพเพิ่มอีกมากกว่า 200 ศพที่เมืองฮิงะชิมัตสึชิมะ แต่ตัวเลขรวมอย่างเป็นทางการนั้นยังไม่ชัดเจน ยูกิโอะ เอดาโนะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงเพียงว่า น่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 คน
ประชาชนเกือบ 2 ล้านครัวเรือนในภาคเหนือของญี่ปุ่นซึ่งสภาพอากาศหนาวเย็นยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ในวันอาทิตย์ และอีกประมาณ 1.4 ล้านครัวเรือนไม่มีน้ำประปา ข่าวเอ็นเอชเครายงานด้วยว่า มีผู้คนทั่วประเทศราว 310,000 คนถูกอพยพไปยังที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งจำนวนมากอยู่โดยไม่มีไฟฟ้า ขณะที่ทางการญี่ปุ่นเตรียมจะเพิ่มกำลังทหารเพื่อปฏิบัติการกู้ภัยอีกเท่าตัว เป็น 100,000 นาย คังชี้รุนแรงเทียบเท่าสงครามโลก
นายกฯ นาโอโตะ คัง แถลงผ่านโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ แสดงความมั่นใจว่าญี่ปุ่นจะผ่านพ้นวิกฤติที่เกิดจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้ โดยเขายอมรับว่า สถานการณ์ที่ประเทศเผชิญอยู่ปัจจุบันทั้งแผ่นดินไหว, สึนามิ และนิวเคลียร์ เป็นวิกฤติครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 65 ปีนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 คังยังกล่าวถึงสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะว่ายังไม่เทียบเท่า กับเหตุการณ์ที่เชอร์โนบิลของรัสเซีย "แม้กัมมันตภาพรังสีจะปลดปล่อยสู่อากาศ แต่ยังไม่มีรายงานมีการปล่อยกัมมันตภาพรังสีจำนวนมาก" ข่าวจิจิอ้างคำพูดของเขา
อย่างไรก็ดี รัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกคำแนะนำพลเมืองของตนให้เดินทางออกจากโตเกียวแล้ว โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกและสถานการณ์ไม่แน่นอนของโรง ไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหาย "เราขอเตือนอย่างหนักแน่นให้พลเมืองของเราอย่าได้เดินทางไปยังญี่ปุ่น และแนะนำให้เลื่อนกำหนดการเดินทางที่วางไว้" แถลงการณ์กล่าว
ก่อนมีรายงานปัญหาที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โรงที่ 3 สำนักปรมาณูระหว่างประเทศของสหประชาชาติซึ่งดูแลความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะยังไม่ร้ายแรงเทียบเท่าเหตุ การณ์ที่ธรีไมล์ไอส์แลนด์ของสหรัฐเมื่อปี 2522 หรือที่เชอร์โนบิลเมื่อปี 2529 เจ้าหน้าที่เผยว่า สำนักงานจัดระดับความร้ายแรงของเหตุการณ์นี้ที่ระดับ 4 ตามมาตรวัดเหตุการณ์ทางรังสีและนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ (INES) ซึ่งมี 7 ระดับ โดยของธรีไมล์ไอส์แลนด์นั้นอยู่ที่ระดับ 5 และเชอร์โนบิลที่ระดับ 7
แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม เป็นครั้งที่รุนแรงอันดับ 5 ของโลกในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โดยร้ายแรงกว่าแผ่นดินไหวใหญ่ของคันโตะเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2466 ซึ่งแรงสั่นสะเทือนระดับ 7.9 ริกเตอร์ ได้คร่าชีวิตผู้คนในโตเกียวมากกว่า 140,000 คน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ยกระดับความรุนแรงของแผ่น ดินไหวครั้งนี้ ว่ามีแรงสั่นสะเทือนถึงระดับ 9 จากเดิมที่สำนักงานระบุว่าอยู่ที่ 8.8 คำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ยังเตือนด้วยว่าอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีก ทั้งนี้ สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) วัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันศุกร์ว่า อยู่ที่ระดับ 8.9 และยังไม่ได้ปรับค่าแต่อย่างใด พอล เอิร์ล นักวิทยาแผ่นดินไหวของยูเอสจีเอส กล่าวด้วยว่า ความรุนแรงระดับนี้น่าจะทำให้เกาะญี่ปุ่นเปลี่ยนตำแหน่งไปราว 8 ฟุต หรือ 2.4 เมตร
ยูเอสจีเอสกล่าวว่า การแปรสัณฐานและแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นผลมาจากรอยเลื่อนย้อนมุมต่ำตลอดแนว แผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกกับอเมริกาเหนือ ซึ่งโดยปกติแล้วแผ่นแปซิฟิกจะเลื่อนย้อนต่ำลงใต้แผ่นอเมริกาเหนือด้วยอัตรา เฉลี่ยปีละ 3.3 นิ้ว เอิร์ลเผยว่าความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง สัณฐานครั้งใหญ่ ซึ่งรอยเลื่อนทั้งสองฝั่งอาจขยับได้มากถึง 20 เมตร หลัง แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันศุกร์ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีกหลายครั้งใน ภูมิภาคนั้น เมื่อวันเสาร์มีแผ่นดินไหวตามระดับ 6.8 และอีกครั้งระดับ 6.3 ในวันอาทิตย์
ด้านความช่วยเหลือจากนานาชาตินั้น ทีมกู้ภัยนานาชาติได้เดินทางถึงญี่ปุ่นแล้ว และระดมลงพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก พร้อมเร่งค้นหาผู้สูญหายที่เมืองมินามิซานริคุ จ.มิยากิ ที่คาดว่าจะมีผู้สูญหายกว่าหมื่นคน โดยมีทีมงานค้นหาและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากประเทศต่างๆ กว่า 70 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งทยอยเดินทางมาถึงเมื่อวันอาทิตย์ ช่วง เช้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสุนัขดมกลิ่นจากเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ได้เดิน ทางมายังสนามบินนาริตะของญี่ปุ่น ขณะที่ทีมช่วยเหลือจากจีนชุดแรกได้เดินทางถึงญี่ปุ่นในช่วงบ่าย
ส่วนการแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 พระประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ได้รับสั่งชื่นชมชาวญี่ปุ่นที่ต่อสู้ภัยพิบัติอย่างกล้าหาญ และเรียกร้องร่วมสวดมนต์ให้เหยื่อแผ่นดินไหวและสึนามิ โดยองค์สันตะปาปาทรงวิงวอนหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสวดมนต์ประจำสัปดาห์ "การ สวดมนต์ให้แก่เหยื่อภัยพิบัติในญี่ปุ่น อาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากความสูญเสีย และอาจทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้มแข็งขึ้น ที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ได้รับภัยพิบัติต่อไป"
ในขณะที่องค์ทะไล ลามะ ผู้นำด้านจิตวิญญาณของทิเบตก็ได้ออกแถลงการณ์ทางเว็บไซต์ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และจะสวดภาวนาให้แก่ผู้เคราะห์ร้าย พร้อมแสดงความเห็นใจและเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ หลายประเทศก็ได้ออกแถลงการณ์เตือนพลเมือง โดยฝรั่งเศสได้แนะให้พลเมืองเดินทางออกจากกรุงโตเกียวเป็นเวลา 2-3 วัน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหม่ และอาจเผชิญปัญหาต่างๆ ที่ตามมาจากกรณีโรงงานนิวเคลียร์ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกประกาศให้ชาวสหรัฐหลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น โดยขอร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐขัดขวางการเดินทางไปยังญี่ปุ่นที่ไม่จำ เป็นทั้งหมด และกระตุ้นให้หลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวและการเดินทางไปยังญี่ปุ่นช่วงนี้ "ถนน หลายแห่งในกรุงโตเกียวและในเมืองทางเหนือของญี่ปุ่นได้รับความเสียหาย และยังคงมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกหลายสัปดาห์ และยังกังวลเกี่ยวกับการหลอมละลายของโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น" แถลงการณ์ของที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุ
ยันกัมมันตภาพรังสีไม่ถึงไทย สำหรับการระเบิดของโรงไฟฟ้าโรงที่ 1 ในบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukushima-Daiichi นั้น ศ.ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ได้ประเมินการฟุ้งกระจายของกัมมันตภาพรังสีในเวลา 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ของวันที่ 12 มี.ค.ถึง 06.30 น. วันที่ 13 มี.ค. พบว่าการเคลื่อนของกัมมันตรังสีฟุ้งกระจายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเข้า สู่มหาสมุทรแปซิฟิกไม่มีโอกาสฟุ้งกระจายมายังไทย ศ.ดร.ชัยวัฒน์กล่าว ว่า สำนักงานได้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลจากสถานีเฝ้าระวังภัยทางรังสีของไทยที่ มีอยู่ทุกภาคตลอดเวลา ซึ่งผลการตรวจวัดรังสีแกมมาในอากาศยังปกติ และจะรายงานความคืบหน้าหากเปลี่ยนแปลงใดๆ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ยืนยันว่า ยังไม่มีแผนทบทวนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพราะญี่ปุ่นแตกต่างกับไทย เนื่องจากตั้งอยู่บนเกาะและอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวจึงมีความเสี่ยง แต่ไทยเสี่ยงเรื่องแผ่นดินไหวน้อย จึงไม่น่ากระทบ แต่กระทรวงก็ติดตามความเคลื่อนไหวเหตุการณ์ในญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ไม่ได้นิ่งนอนใจ
“แผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กระทรวงยังไม่ได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่พร้อม หากพร้อมเมื่อไหร่ก็จะส่งให้ ครม.ตัดสินใจทันที” นพ.วรรณรัตน์กล่าว ด้าน นายเทียนไชย จงพีร์เพียร นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน มองว่า จะทำให้แผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทยตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี 2010) คงทำได้ยากขึ้น จากที่ทำยากอยู่แล้ว ทั้งเรื่องทำประชาพิจารณ์และการหาพื้นที่ ทำให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องทำงานกันหนักขึ้น
นายชวลิต พิชาลัย รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ กล่าวถึงความคืบหน้าแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทยว่า คืบหน้าไปมากแล้ว โดยช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ จะมีการประมวลผลและทบทวนแผนอีกครั้ง เนื่องจากไอเออีเอจะส่งผลรายงานความพร้อมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใน ไทยกลับมา
มาร์คแย้มทบทวนโรงไฟฟ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีก็ระบุว่า มีความเห็นมาตลอดว่าพอเอาเข้าจริงๆ ก็จะมีเรื่องต้นทุนที่มักสูงกว่ามีการประเมิน ซึ่งเป็นประสบการณ์โลก อีกทั้งระบบความปลอดภัยก็เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในระยะหลังมีเรื่องภัยพิบัติ ภัยก่อการร้าย สร้างความเสี่ยงเพิ่มเติมขึ้นมา แต่เราก็อยู่ในช่วงการศึกษาเตรียมการต่างๆ ซึ่งประสบการณ์จากญี่ปุ่นครั้งนี้คงมีผลต่อการตัดสินใจต่อไป นายอดิชาติ สุรินทร์คำ ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงการเคลื่อนตัวของเกาะญี่ปุ่นจากเหตุแผ่นดินไหวว่า ไม่กระทบกับไทยในระยะสั้น เพราะห่างกันมาก แต่ระยะยาวต้องนำข้อมูลที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกันอีกครั้ง เพราะปกติแผ่นเปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวในทุกวันๆ อยู่แล้ว แต่คนเราไม่รู้สึก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้การเคลื่อนตัวเกิดเร็วขึ้น ใน รายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” นายกฯ ยังกล่าวถึงความช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นว่า ในการประชุม ครม. 14 มี.ค. คงอนุมัติการให้การช่วยเหลือมากว่าเกณฑ์ปกติที่กำหนดไว้ รวมถึงการเปิดรับบริจาคจากคนไทยที่จะส่งไปทางญี่ปุ่น
ส่วนที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ได้เข้าพบกับนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เพื่อหารือถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยใช้เวลาการหารือ 30 นาที ซึ่งนายกษิตกล่าวภายหลัง ในวันที่ 14 มี.ค. จะเสนอ ครม.ของบประมาณ 100-200 ล้านบาท ในการจัดซื้อสิ่งของช่วยเหลือ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จะไปปฏิบัติงานช่วยเหลือครั้งนี้
นายกษิตกล่าวว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นแจ้งว่าอากาศในญี่ปุ่นหนาวเย็นมาก จึงต้องการอุปกรณ์กันความหนาวเย็นเป็นอันดับแรก ซึ่งสิ่งของที่เราจะส่งไปช่วยเหลือนั้นได้ประสานงานกับกองทัพอากาศในการ เตรียมเครื่องบิน ซี 130 บรรทุกสิ่งของไปแล้ว คาดว่าจะจัดส่งไปได้ใน 1-2 วันนี้ และได้ให้นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว ได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับสิ่งของ รวมทั้งขอความอนุเคราะห์เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ จัดเตรียมพื้นที่ในกรณีดังกล่าวด้วย
“ที่เรายังไม่ส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสุนัขดมกลิ่นไป เนื่องจากญี่ปุ่นแจ้งว่ามีทีมกู้ภัยจากต่างประเทศมาทำงานมากพอ และยังไม่พร้อมต้อนรับทีมอีกหลายประเทศ แต่ขอให้แต่ละประเทศส่งสิ่งของมาช่วยเหลือเป็นหลัก” นายกษิตระบุ นายวีระ ศักดิ์กล่าวถึงการค้นหาคนไทยในเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น ล่าสุดสามารถติดต่อนักเรียนไทย 20 คน ที่เมืองเซ็นได จังหวัดมิยากิได้แล้ว โดยไปรวมตัวกันที่ร้านอาหาร ซึ่งชุดให้ความช่วยเหลือทีมแรกได้เดินทางเข้าไปยังพื้นที่แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมง เนื่องจากต้องเดินทางอ้อมจังหวัดฟุกุชิมะ และยังได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีคนไทย 40 คน ร้องขอการอพยพออกจากเมืองเซ็นได เช่นเดียวกัน ซึ่งจะเตรียมขบวนรถอพยพชุดที่ 2 เดินทางไปรับ คาดว่าจะออกเดินทางได้ในบ่ายวันที่ 15 มี.ค.ที่จะถึงนี้
“ส่วนพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดนั้น มีคนไทยยังไม่สามารถติดต่อได้ 250 คน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังอพยพประชาชนประมาณ 210,000 คนออกจากพื้นที่ คาดว่าคนไทยอาจจะถูกอพยพไปแล้ว” นายวีระศักดิ์กล่าว วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลได้สำรวจความเห็นคนกรุงเทพฯ และจังหวัดที่อยู่ตามชายฝั่งอ่าวไทยจำนวน 1,359 คนเรื่องคนไทยกับภัยพิบัติธรรมชาติ พบว่า ภัยพิบัติที่กลัวมากที่สุดคือ สึนามิ 34.78% ตามมาด้วยแผ่นดินไหว 30.43% น้ำท่วม 15.94% และโรคระบาด 11.60%
โพลยังสอบถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่ามีผลต่อความเครียดอย่างไร 51.92% เผยว่าค่อนข้างวิตก, 30.76% บอกไม่ค่อยวิตก มีเพียง 7.69% ที่บอกว่าไม่วิตกกังวล และเมื่อถามว่าไทยควรมีแนวทางป้องกันภัยเหล่านี้อย่างไร ส่วนใหญ่ 33.19% เสนอว่าต้องติดตั้งระบบเตือนภัย โดยเฉพาะจุดเสี่ยง, 19.38% ติดตามข่าวสาร, 17.22% ให้ความรู้ คำแนะนำเมื่อเกิดเหตุการณ์ และเมื่อถามถึงสิ่งที่อยากฝากรัฐบาล 26.63% บอกว่าจัดตั้งศูนย์เรื่องโดยเฉพาะ, 23.59% ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม และ 20.80% นำเหตุการณ์ญี่ปุ่นมาเป็นกรณีศึกษา.
ตายพุ่งหมื่นศพ
"แดน ปลาดิบ" ระทมหนัก ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเกินหมื่นศพแน่นอน เตือนภัยระวังเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 เข้าขั้นวิกฤติ หวั่นบึ้มอีกระลอก เร่งอพยพชาวบ้าน 2 แสนคนหนีภัย แฉมีเหยื่อกัมมันตภาพรังสีแล้ว 160 คน ด้านมะกันนำทีมนานาชาติช่วย ใช้เรือบรรทุกเครื่องบินสำหรับส่งบำรุงกำลัง เผยแรงสั่นสะเทือนทำแผ่นดินเลื่อนจากจุดเดิม 2.4 เมตร แถมแกนโลกยังเอียง 10 ซม. ขณะที่ทีมกู้ภัยพบคุณปู่ใจเด็ดเกาะขอนไม้รอดตายกลางทะเล 2 วัน “มาร์ค” เผยยังไม่มีข้อมูลคนไทยได้รับผลกระทบ ชี้จับตายางพาราราคาตก เหตุญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ เตรียมทบทวนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทย ระบุ ครม. เตรียมอนุมัติเงินช่วยเหลือญี่ปุ่นเพิ่ม สธ. ส่งทีมแพทย์ช่วยคนไทยและครอบครัว “กรมธรณี” ชี้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ยังไม่กระทบไทย เลขาฯ “สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ” ยันไทยปลอดภัยกัมมันตภาพรังสี เหตุฟุ้งกระจายเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก จากกรณีแผ่นดินไหวรุนแรง 8.9 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แต่ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศยกระดับแรงสั่นสะเทือนเป็น 9.0 ริคเตอร์แล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างจากคลื่นยักษ์สึนามิและการระเบิดของ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ภายในโรงไฟฟ้าฟูกูชิมา ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าจะรุนแรงคล้ายกับเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในยูเครนระเบิดเมื่อปี 2529 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อาฟเตอร์ช็อก6.2ริคเตอร์ ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 มี.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่าได้เกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือ แรงสั่นสะเทือนตามหลังแผ่นดินไหว นอกชายฝั่งด้านทิศตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ใกล้กับกรุงโตเกียว เมื่อเทียบกับแผ่นดินไหวรุนแรง 8.9 ริคเตอร์จนเกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอาฟเตอร์ช็อกล่าสุดนี้ยังทำให้อาคารสูงในกรุงโตเกียวเกิดการสั่นไหว โดยสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า เมื่อเวลา 10.26 น. เช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 08.26 น. เช้าวันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.2 ริคเตอร์ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ 179 กม.ทางทิศตะวันออกของกรุงโตเกียว และในระดับความลึก 24.5 กม. นับตั้งแต่แผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดอาฟเตอร์ช็อกไปแล้วกว่า 150 ครั้ง แฉเตาปฏิกรณ์ฯอาจบึ้มอีก โฆษกของบริษัทการไฟฟ้าโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ (เทปโก) แถลงว่า ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา หมายเลข 1 ไม่ทำงาน มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระเบิดขึ้นมา ดังนั้นจึงต้องฉีดน้ำทะเลเข้าไปข้างในและความดันเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจวัดกัมมันตภาพรังสี พบว่า มีระดับสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากผลของการระเบิดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้วยังมีส่วนบนของแท่งเชื้อเพลิงโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ 3 เมตร เป็นสัญญาณบ่งบอกเรื่องการหลอมละลายของเตาปฏิกรณ์ แต่ต่อมา แท่งเชื้อเพลิงดังกล่าวก็ถูกครอบเอาไว้ได้แล้ว ยอมรับรั่วจริงแต่ไม่อันตราย ขณะเดียวกัน นายยูคิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า ระดับของกัมมันตภาพรังสีได้ลดลงมาแล้ว สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวขึ้นไปทางเหนือ 270 กม. มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ด้วยกัน 3 เตา ซึ่งทั้ง 3 เตานี้ต่างก็ไม่มีระบบหล่อเย็นทำงาน อันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสึนามิ ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้อง อย่างไรก็ตาม ทางการได้อพยพประชาชน 200,000 คน ในรัศมี 20 กม.รอบโรงไฟฟ้าออกไปหมดแล้ว ตามมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัย เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ปริมาณของกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมาสู่อากาศนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่ก็ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการหลอมละลายในเตาปฏิกรณ์ตัวหนึ่งของโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ฟูกูชิมา และอาจจะเกิดขึ้นกับเตาปฏิกรณ์อีกตัวหนึ่งเผยสเกลวัดระดับอยู่ที่ 4 เจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาหมายเลข 1 อันเนื่องจากผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นสึนามินั้น อยู่ในระดับ 4 ของมาตรฐานสากล ซึ่งมีตั้งแต่ 0-7 และระดับที่ 4 นั้นหมายความว่าอุบัติเหตุจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะมีผลกระทบตามมาต่อคนใน ท้องถิ่น ส่วนที่เคยเกิดอุบัติเหตุที่ผ่านมาในอดีตนั้น ในปี 2522 ที่โรงไฟฟ้าเกาะทรี ไมล์ ในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ระดับ 5 และ โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล เมื่อปี 2529 อยู่ในระดับสูงสุดคือ ระดับ 7 สำหรับญี่ปุ่นเองก็เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เมื่อปี 2542 เมื่อเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ขั้นร้ายแรงกับโรงงานผลิตยูเรเนียม ส่งผลให้กัมมันตภาพรังสีรั่วไหล ถูกกัมมันตภาพรังสี160คน เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งของสำนักงานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และอุตสาหกรรม ของญี่ปุ่น กล่าวว่า จำนวนผู้ได้รับกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอาจสูงถึง 160 คน ทั้งนี้มี 9 คนแล้วที่แสดงอาการของการได้รับกัมมันตภาพรังสี จากข้อมูลการตรวจวัดโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและอื่น ๆ จึงประเมินได้ว่าตัวเลขผู้ได้รับกัมมันตภาพรังสีอาจสูงจาก 70 คนเป็น 160 คน ลมอาจพัดรังสีตกในแปซิฟิก นายอังเดร-เคลาด์ ลาคอสต์ แห่งองค์การความปลอดภัยนิวเคลียร์ฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เมื่อพิจารณาจากทิศทางลมขณะเกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาหมาย เลข 1 ระเบิดนั้น อาจพัดพามลพิษจากนิวเคลียร์ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก สถานการณ์เรื่องนี้ค่อนข้างร้ายแรง ทีมงานขององค์การความปลอดภัยนิวเคลียร์ฝรั่งเศสได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จากทางญี่ปุ่น เพราะมีคนที่ดูแลรับมือกับเรื่องนี้มากหลายคนสหรัฐส่ง2ผู้เชี่ยวชาญไปช่วย นายเกรกอรี่ แจคโก้ ประธานคณะกรรมการควบคุมด้านพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญ 2 คนเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งทางการญี่ปุ่นพยายามอย่างยิ่งที่จะคลี่คลายความหวาดวิตกของผู้คนหลัง อุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด โดยผู้เชี่ยวชาญ 2 คนนี้ อยู่ในทีมความช่วยเหลือของสหรัฐที่ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย และมีความชำนาญในเรื่องระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ซึ่งสหรัฐพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในทุกวิถีทาง สำหรับคณะกรรมการควบคุมด้านพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐนี้ เป็นหน่วยงานอิสระ ได้รับการแต่งตั้งจากสภาคองเกรสของสหรัฐ เพื่อดูแลในด้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เพื่อการพาณิชย์และอื่น ๆ ออสซี่ต้องการข้อมูลด่วน นายเควิน รัดด์ รมว.ต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียต้อง การข้อมูลอย่างเร่งด่วนจากทางการญี่ปุ่นเกี่ยวกับภัยคุกคามหลังการระเบิดของ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้วยการส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปช่วย ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศออสเตรเลียได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายทาเคอากิ มัตซึโมโต้ รมว.ต่างประเทศของญี่ปุ่น เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาระบุว่า ยังไม่มีอันตรายร้ายแรงนอกเขตรัศมี 20 กม.จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ออสเตรเลียและทั่วโลกต่างต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ นายกฯยุ่นโดนสื่อจวกยับ หนังสือพิมพ์โยมิยูริ ชิมบุน หนังสือพิมพ์รายวันที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น รายงานในบทบรรณาธิการว่า การให้ข้อมูลของรัฐบาลในเรื่องอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดเป็นไป อย่างล่าช้าและยังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เมื่อมีกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมา แต่รัฐบาลก็พยายามที่จะคลายความวิตกว่าไม่ถึงขั้นหลอมละลาย โดยระบุว่า แรงระเบิดไม่ได้ทำให้อาคารที่ครอบเตาปฏิกรณ์ฉีกขาด และกัมมันตภาพรังสีได้ลดระดับลงมาแล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมงเพื่อปฏิเสธเรื่องการหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิงภายในเตาปฏิกรณ์ ส่วนหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน รายงานในเชิงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่า ไม่กล้าตัดสินใจและให้ข้อมูลล่าช้ามากเรื่องการขยายพื้นที่อพยพสำหรับ ประชาชนในรัศมีโดยรอบโรงไฟฟ้า นอกจากนั้น ยังกล่าวโจมตีบริษัทโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ (เทปโก) ซึ่งดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เกิดเหตุว่า ยังใช้มาตรการไม่เต็มกำลังสามารถกับการรับมืออุบัติเหตุร้ายแรงเช่นนี้ บอกแต่เพียงว่า เป็นเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือการคาดหมาย ไม่เห็นด้วยใช้น้ำทะเลฉีด อย่างไรก็ตาม นายอิชิโร ฟูจิซากิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า ยังไม่เห็นหลักฐานว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เกิดเหตุอยู่ในภาวะหลอมละลาย แต่ยอมรับว่ามีบางส่วนที่ละลายไปบ้าง ขณะที่นายโรเบิร์ต อัลวาเรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ ของสหรัฐ ซึ่งทำงานอยู่ที่สถาบันนโยบายศึกษา และดูแลเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ กล่าวเตือนว่า การปั๊มน้ำทะเลเข้าไปเพื่อลดความร้อนของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แสดงให้เห็นถึงการหมดหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว และอาจเกิดเป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงเหมือนกับที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ระเบิด ไอเออีเอรับแจ้งอุบัติเหตุดับ1 ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) แถลงว่า ได้รับแจ้งจากทางการญี่ปุ่นว่า มีคนงานเสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บ 4 คนจากอุบัติเหตุเครนปฏิบัติการพังลงมา ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาหมายเลข 2 ทางชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หมายเลข 1 ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ทางการญี่ปุ่นกำลังหาทางแก้ปัญหาการหลอมละลายของเตาปฏิกรณ์ 2 เตา ซึ่งมีคนงาน 8 คนได้รับกัมมันตภาพรังสี แยกเป็น 4 คนบาดเจ็บจากเตาหมายเลข 1 และอีก 3 คนบาดเจ็บจากเหตุอื่น ๆ นอกจากนั้น ยังพบว่ามีคนงาน 1 คนได้รับกัมมันตภาพรังสีในปริมาณที่สูงกว่าปกติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ของไอ เออีเอ มะกันนำทีมนานาชาติช่วย ปฏิบัติการกู้ภัยจากนานาชาติต่างเร่งรีบเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยในประเทศ ญี่ปุ่น นำโดยสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน มาถึงนอกชายฝั่งของญี่ปุ่นแล้วเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อให้การสนับสนุนด้านการส่งบำรุงกำลังกับทหารญี่ปุ่น ซึ่งก็ระดมกำลังมาเพิ่มอีกเป็น 100,000 คนแล้ว สำหรับภารกิจกู้ภัยและฟื้นฟู เช่น การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงการขนส่งทหารเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย นอกจากนั้นในวันเดียวกันนี้ สมาชิกทีมกู้ภัย 144 คนของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ (ยูเสด) ก็จะมาร่วมปฏิบัติการภาคพื้นดินด้วย นอกจากนั้นก็มี ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ อังกฤษ ฝรั่งเศส และ สิงคโปร์ ต่างส่งทีมกู้ภัยพร้อมสุนัขดมกลิ่นมาช่วยเหลือแล้ว อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น สรุปว่ามี 69 ประเทศทั่วโลกและองค์การระหว่างประเทศ 5 องค์กร ที่เสนอให้ความช่วยเหลือกับญี่ปุ่น แผ่นดินญี่ปุ่นเลื่อน2.4เมตร นายพอล เออร์ล นักธรณีฟิสิกส์ซึ่งศึกษาเรื่องแผ่นดินไหวแห่งสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ เปิดเผยว่า ผลจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงของญี่ปุ่นและเป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ใหญ่ที่สุด อีกครั้งหนึ่งเท่าที่ได้มีการบันทึกมา ทำให้แผ่นดินของญี่ปุ่นมีการเคลื่อนตัวประมาณ 8 ฟุต หรือ 2.4 เมตร สาเหตุมาจากแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนเปลือกโลกเกิดการเคลื่อนไหวเพราะรอย เลื่อนย้อนมุมต่ำตามแนวเขตของเปลือกโลกแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ ซึ่งปกติแล้วรอยเลื่อนเปลือกโลกแปซิฟิกจะเคลื่อนตัวเฉลี่ยแล้วปีละ 3.3 นิ้ว แต่หากมีแผ่นดินไหวรุนแรงก็อาจทำให้ขยับรอยเลื่อนไปได้แรง ซึ่งอาจมีผลทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงตามมา และการเคลื่อนตัวของแผ่นดินนี้ก็เคยปรากฏให้เห็นในประเทศชิลี และ อินโดนีเซีย ซึ่งต่างเคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิตามมา นอกจากนั้น สถาบันธรณีวิทยาของอิตาลีระบุด้วยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ทำให้แกนของโลกเอียงไป 10 ซม. พบศพเพิ่มเติมอีกเพียบ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า จากรายงานเบื้องต้นทราบว่าพบอีก 400-500 ศพในสองจุดด้วยกัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ส่วนแถลงการณ์ที่ยืนยันได้แล้วระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 688 ศพ สูญหาย 642 คน และบาดเจ็บ 1,570 คน แต่โฆษกรัฐบาลแถลงว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศกว่า 1,000 ศพ บ้านเรือนราษฎรและอาคารถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายกว่า 12,250 หลัง จมน้ำอีก 2,400 หลัง และถูกไฟไหม้อีกกว่า 100 หลัง มีแผ่นดินถล่มด้วย 60 ครั้ง ประชาชน 380,000 คน อพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ส่วนใหญ่ไม่มีไฟฟ้าใช้เพราะต้องปิดเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่ง
แฉยอดตายอาจทะลุ1หมื่นศพ โทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายนาโอโตะ ทาเคคูชิ หัวหน้าตำรวจจังหวัดมิยางิ ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ญี่ปุ่นอาจสูงถึง 10,000 ศพ เฉพาะในจังหวัดมิยางิจังหวัดเดียว ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบภัยที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด หลายเมืองริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ถูกคลื่นสึนามิซัดพังราบไปทั้งเมือง แล้วยังมีเพลิงไหม้ตามมาอีกด้วย ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเกียวโดได้ประเมินไว้ว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,800 ศพ เจอคนรอดตายเกาะขอนไม้ ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ทราบชื่อในภายหลังว่าชื่อ นายฮิโรมิตซึ ชินกาวะ อายุ 60 ปี ซึ่งถูกคลื่นยักษ์สึนามิพัดออกทะเลไปไกล 15 กม. ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัยแล้ว หลังจากพบว่ากำลังเกาะเศษขอนไม้ซึ่งเป็นแผ่นกระดานมุงหลังคาลอยอยู่กลางทะเล โดยเรือพิฆาตลำหนึ่งของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลพบตัวเขาลอยอยู่ในทะเล นอกชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมา 2 วันหลังแผ่นดินไหว โดยตัวเขาอาศัยอยู่ที่เมืองมินามิโซมะซึ่งถูกทำลายโดยราบคาบ ช่วงที่พบตัวเขานั้น ยังมีสติดีอยู่ ก่อนเกิดเหตุทราบแล้วว่า คลื่นสึนามิกำลังจะมา จึงวิ่งหนีออกจากบ้าน แต่นึกขึ้นมาได้ว่า ลืมของ วิ่งกลับไปที่บ้าน คลื่นก็ซัดเข้ามาพอดี จึงปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านตัวเอง และรอดมาได้ในที่สุด เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากเรือพิฆาต และนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งโรงพยาบาลต่อไป ยอมรับผลกระทบวงกว้าง นายยูคิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิบัติภัยครั้ง นี้ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมากในพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ สถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานนิวเคลียร์ คาดว่าจะก่อให้เกิดผล กระทบเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า อาจต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์กว่าจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าความเสียหาย และผลกระทบทางเศรษฐกิจรวมไปถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต่อไป ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลอาจจะต้องอัดฉีดเม็ดเงินเป็นจำนวนมากถึง 1 แสนล้านเยน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และ บริษัทธุรกิจชั้นนำของญี่ปุ่น เช่น ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้ประกาศระงับการผลิตไว้ก่อน และบางบริษัทตัดสินใจปิดโรงงานผลิตก็มี นิชชินบริจาคบะหมี่ล้านห่อ บริษัทนิชชิน ฟู้ดส์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จะบริจาคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวน 1 ล้านห่อ ให้กับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ พร้อมกันนั้นก็จะส่งรถครัวเคลื่อนที่หลายคัน เดินทางเข้าไปในพื้นที่ด้วย ภายในรถจะมีห้องครัวเล็ก ๆ ติดแก๊ส และบริการน้ำร้อนสำหรับปรุงบะหมี่ให้ด้วย นอกจากนั้นแล้ว บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม ซันโตรี่ โฮลดิ้งส์ จำกัด ก็จะนำน้ำดื่ม 360,000 ขวด ไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยเช่นกัน ยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบ ส่วนของประเทศไทย ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ไทยที่จะเริ่มเข้าไปยังเมืองที่ ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ เพราะทางญี่ปุ่นเริ่มที่จะเปิดพื้นที่บ้างแล้ว แต่อาจจะต้องใช้เวลาเป็น 10 ชั่วโมง ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เราจะส่งไปจากประเทศไทยนั้น ยังต้องรออยู่ เพราะทางญี่ปุ่นขอเวลาอีกเล็กน้อยในการที่จะเตรียมความพร้อมในการจัดระบบของ การประสานการช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้สิ่งสำคัญคือการติดตามว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบหรือไม่ ซึ่งฐานข้อมูลของเราค่อนข้างดีว่ามีคนไทยอยู่ที่ไหน อย่างไร และกำลังใช้วิธีการไล่ตามเครือข่ายต่าง ๆ ให้ยืนยันว่าทุกคนอยู่ครบและปลอดภัย อาจจะมีคนที่เข้าไปแบบผิดกฎหมายบ้างเท่านั้น ที่เราจะไม่มีฐานข้อมูลอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับผลกระทบ แต่บางเมืองยังไม่ค่อยมีข้อมูลที่ชัดเจนนัก เพราะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาจจะยังเข้าไปได้ไม่หมด เมื่อถามว่าตอนนี้มหันตภัยใหญ่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกบ่อยครั้ง ในส่วนของประเทศไทยได้เตรียมรับมืออย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องภัยพิบัติเป็นเรื่องที่เราได้มีการซักซ้อมอยู่ตลอดเวลา และได้มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นศูนย์กลางและได้มีการปรับปรุงกฎหมาย และระบบการป้องกันภัยมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามคงต้องฝึกฝนในแง่การประสานงานกันมากขึ้น เพราะเหตุที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นก็เห็นกันแล้วว่าไม่ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ครั้งเดียว แต่จะมีอะไรหลายอย่างตามมาด้วย เมื่อถามว่ามั่นใจเครื่องเตือนภัยที่ติดตั้งในประเทศได้มากน้อยแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขามีการตรวจสอบและทดสอบเป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว จับตาราคายาง-น้ำมันตก นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้พบว่าแนวโน้มราคาน้ำมันและราคา ยางพาราจะตกต่ำลง ซึ่งกำลังติดตามดูต่อไปว่าจะมีผลกระทบรุนแรงแค่ไหน ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นตลาดใหญ่ และเป็นผู้ใช้ยางพารารายใหญ่ เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แนวคิดที่จะมีการผลักดันให้ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทยควรจะพับไป หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงศึกษาเตรียมการ ตนคิดว่าประสบการณ์ที่เกิดกับประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้คงมีผลต่อการตัดสินใจ ต่อไป เพราะเราจำเป็นต้องพิสูจน์ระบบความปลอดภัยค่อนข้างมาก เพราะระยะหลังทั้งภัยพิบัติและภัยก่อการร้ายได้สร้างความเสี่ยงเพิ่มเติม ขึ้นมา อีกทั้งต้นทุนก็มักจะสูงกว่าการประมาณการ เตรียมอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่ม นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้สถานการณ์ที่ญี่ปุ่นยังไม่ถึงกับนิ่ง เพราะมีอาฟเตอร์ช็อกอยู่ ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศในญี่ปุ่นจำนวนมากได้รับผลกระทบ ประเทศไทยได้ส่งสารแสดงความเสียใจและได้แสดงความจำนงที่จะช่วยญี่ปุ่นซึ่ง เป็นทั้งมิตรและหุ้นส่วนในการพัฒนามาเป็นเวลายาวนาน โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศ ไทย และในวันที่ 14 มี.ค. ครม.จะอนุมัติการช่วยเหลือเช่น เรื่องตัวเงิน โดยคงทำมากกว่าเกณฑ์ปกติที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันได้มีการเปิดรับบริจาคความช่วยเหลือต่าง ๆ จากคนไทยที่จะส่งไปช่วยญี่ปุ่นด้วย ในส่วนของรัฐบาลไทยได้เสนอการช่วยเหลือตามความต้องการของญี่ปุ่น โดยได้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัย สุนัข พิสูจน์หลักฐาน และเรื่องอื่น ๆ ส่วนจะส่งไปช่วยเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของญี่ปุ่น ชงของบ100-200ล้านช่วยยุ่น ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเซอิจิ โคจิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทยได้เข้าพบกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เพื่อหารือถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ และแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น โดย นายกษิตให้สัมภาษณ์ถึงการหารือดังกล่าวว่าเป็นการเชิญเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ มาพบเพื่อยืนยันความพร้อมและความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและประชาชนไทยที่จะให้ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ญี่ปุ่น โดยขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้เปิดบัญชีรับเงินบริจาค และเตรียมนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 มี.ค.นี้ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากเดิมที่ได้ช่วยเหลือญี่ปุ่น 5 ล้านบาท โดยจะของบประมาณ 100-200 ล้านบาท ในการจัดซื้อสิ่งของช่วยเหลือและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่ จะไปปฏิบัติงานช่วยเหลือครั้งนี้ ส่งทีมแพทย์ช่วยคนไทย นายกษิต กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯได้ประสานที่จะส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสุนัขดมกลิ่น รวมทั้งแพทย์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม อีกทั้งจะจัดส่งเครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อาทิ อาหารสำเร็จรูป ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ถุงมือ รองเท้าบู๊ตยาง เป็นต้น ซึ่งทางเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น แจ้งว่าอากาศในญี่ปุ่นขณะนี้หนาวเย็นมาก จึงต้องการอุปกรณ์กันความหนาวเย็นเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสิ่งของได้ประสานงานกับกองทัพอากาศในการเตรียมเครื่องบิน ซี 130 บรรทุกสิ่งของไปยังญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะจัดส่งไปได้ใน 1-2 วันนี้ และเราได้ขอให้ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว ได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับรองรับสิ่งของเหล่านี้ทั้งในพื้นที่ของสถานเอก อัครราชทูตไทยฯ และขอความอนุเคราะห์ไปยังเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ คุมได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ส่วนการที่เรายังไม่ส่งทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสุนัขดมกลิ่นไปยังญี่ปุ่นใน ตอนนี้ เนื่องจากทางญี่ปุ่นแจ้งว่ามีทีมกู้ภัยจากต่างประเทศมาทำงานร่วมกับทีมของ ญี่ปุ่น ซึ่งมีมากพอ และทางการญี่ปุ่นยังไม่พร้อมที่จะต้อนรับทีมเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมากจากหลาย ประเทศ จึงขอให้แต่ละประเทศส่งสิ่งของมาช่วยเหลือเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ยังระบุว่าตอนนี้มีตัวเลขของผู้เสียชีวิต จำนวน 689 คน และผู้บาดเจ็บ 639 คน ส่วนกรณีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาระเบิด ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ ไม่น่าวิตกแต่อย่างใด ใช้พื้นที่วัดปากน้ำรวมพลคนไทย ด้านนายวีระศักดิ์ กล่าวผ่านทางโทรศัพท์จากญี่ปุ่น ว่า กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นได้แสดงความขอบคุณประเทศไทยที่จะจัดส่งความ ช่วยเหลือต่าง ๆ มายังญี่ปุ่น นอกจากนี้ เราได้ประสานงานกับวัดปากน้ำมาก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน จะขออาศัยพื้นที่ของวัดเป็นพื้นที่รวมพล เพราะอยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ ซึ่งเจ้าอาวาสวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยขณะนี้เราได้ตรวจสอบกับทางเครือข่ายชุมชนคนไทยในแต่ละจังหวัด อาทิ จ.ชิบะ ซึ่งมีคนไทยประมาณ 5,500 คน นากาโนะ ประมาณ 2,000 คน เป็นต้น โดยยังไม่มีรายงานว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนที่เมืองเซนได ที่มีคนไทยอยู่ประมาณ 200 กว่าคนนั้น เรายังไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่ได้พบคนไทยแล้วกว่า 20 คน ซึ่งทางการญี่ปุ่นให้การดูแลตามสภาพที่เป็นอยู่เช่นเดียวกับชาวญี่ปุ่นทั่ว ไป ให้พักอาศัยอยู่ในอาคารยิมเนเซียม และมีอาหารพร้อมน้ำดื่มจัดเตรียมไว้ให้ด้วย ถกด่วนแผนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ด้านนายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า เตรียมหารือกับกระทรวงพลังงาน, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ว่าจะมีแผนจะดำเนิน การอย่างไรต่อไปหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น จนส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เนื่องจากการสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจด้านความ ปลอดภัยแก่ประชาชน เพราะหากประชาชนในพื้นที่ไม่ยอมรับก็ไม่สามารถก่อสร้างได้ไม่ว่าจะเป็นโรง ไฟฟ้าประเภทใดก็ตาม แต่หากไม่ดำเนินการใด ๆ เชื่อว่าในอนาคตประเทศไทยคงประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าแน่นอน เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าในบ้านเราขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) จะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 5 โรง โรงละ 1,000 เมกะวัตต์ จะเข้าระบบโรงแรกในปี 2563 และโรงที่ 2 ปี 2564 หากคณะรัฐมนตรีตัดสินให้เดินหน้าต้นปี 2554 แล้ว การก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะเสร็จสิ้นตามแผนปี 2563 แต่หากยังไม่ตัดสินใจและเลื่อนออกไปทางกระทรวงพลังงานคงจะต้องมีการปรับแผน นำโรงไฟฟ้าประเภทอื่นเข้ามาทดแทน ชี้เปลือกโลกเคลื่อนไม่กระทบไทย นายอดิชาติ สุรินทร์คำ ผู้ตรวจราชการกรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกรมทรัพยากรธรณี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อมูลจากนักธรณีวิทยา สหรัฐอเมริกา ระบุว่าการเกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 8.9 ริคเตอร์ และตามด้วยสึนามิ ได้ทำให้เกาะฮอนชูของญี่ปุ่น ขยับไปทางตะวันออก 8 ฟุต และทำให้แกนโลกเปลี่ยนว่า ปกติแผ่นเปลือกโลกมีการเคลื่อนตัวในทุกวัน ๆ อยู่แล้ว ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่เป็นไปโดยที่เราไม่รู้สึก ซึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้การเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกเกิด เร็วขึ้น และเมื่อเกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกในบริเวณใดก็จะกระทบกับพื้นที่ ใกล้เคียงเท่านั้น ซึ่งการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่กระทบ กับประเทศไทยแต่อย่างใดในระยะสั้นเพราะห่างไกลกันมาก แต่ในระยะยาวต้องมีการนำข้อมูลความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์เปรียบ เทียบกันอีกครั้ง ยันไทยปลอดภัยกัมมันตรังสี ศ.ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เปิดเผยว่า สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับแจ้งจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศได้ยืนยันมายังประเทศสมาชิก รวมทั้งประเทศไทย ว่า การระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นั้นเกิดจากก๊าซไฮโดรเจนภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเกิดภายนอก และบริษัทเทปโกได้แจ้งว่าจะใช้มาตรการโดยนำน้ำทะเลผสมสารโบรอน เติมเข้าไปในตัวครอบชั้นต้น เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายของแท่งเชื้อเพลิงที่อยู่ภายใน จากนั้นเวลา 00.30 น. วันที่ 13 มี.ค. ตามเวลาในประเทศไทย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม จากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ถึงการประเมินการฟุ้งกระจายโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประมวลผลคาดการณ์ค่า กัมมันตภาพของวัสดุกัมมันตรังสีที่กระจายในบรรยากาศ ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง พบว่าการเคลื่อนที่ของวัสดุกัมมันตรังสีฟุ้งกระจายไปทางทิศตะวันออกเฉียง เหนือ เข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ไม่มีโอกาสที่จะฟุ้งกระจายมายังประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ ได้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลจากสถานีเฝ้าระวังภัยทางรังสีของประเทศไทยที่มี อยู่ในทุกภาคของไทยตลอดเวลา ซึ่งล่าสุดผลการตรวจวัดระดับรังสีแกมมาในอากาศ ยังอยู่ในระดับปกติ และจะรายงานความคืบหน้าหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้นจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป สั่งเปิดสายด่วน1169ดูแลส่งออก นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ สั่งการให้กรมส่งเสริมการส่งออกเปิดสายด่วนฮอตไลน์ 1169 เพื่อช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพิบัติภัยสึนามิ ประเทศญี่ปุ่น อาทิ สินค้าตกค้างที่ท่าเรือ และสินค้าส่งออกไม่ได้ ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ที่ญี่ปุ่นให้เร่งตรวจสอบกรณีสินค้าตก ค้างที่ท่าเรือญี่ปุ่น โดยขอให้ช่วยประสานงานแจ้งปัญหาไปยังสายเรือต่าง ๆ เพื่อช่วยตรวจสอบและเก็บรักษาสินค้าให้กับผู้ส่งออกอย่างปลอดภัย รวมทั้งขอให้ปรับแผนการส่งออกในระยะกลางและยาว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกในปี 54 นอกจากนี้ เตรียมขอความช่วยเหลือไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ผ่อนผันการชำระเงินกู้แก่ผู้ส่งออกตลาดญี่ปุ่น โดยให้ธนาคารต่าง ๆ อนุญาตให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาตัดแพ็คกิง เครดิต จาก 4 เดือนเป็น 6 เดือน แบงค์ วงแคลช แถลงข่าวทวีต ที่ชั้น 30 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลส นายปรีติ บารมีอนันต์ หรือ แบงค์ วงแคลช ได้เปิดแถลงข่าวกรณีที่ไปทวีตข้อความในทวิตเตอร์ ถึงเหตุการณ์สึนามิถล่มญี่ปุ่นในลักษณะไม่เหมาะสมหลายข้อความ อาทิ “ทางการญี่ปุ่นกล่าวตอนนี้หงอคงผู้เฒ่าเต่า อุลตร้าแมน นินจาฮาโตริและโดเรมอนได้ประชุมข้อตกลงร่วมกันเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว” “อิคคิวซังประกาศออกโปรดสัตว์ทุกพื้นที่ที่ประสบภัยทั่วญี่ปุ่น” “กลุ่มอัลกออิดะออกโรงปัดไม่มีส่วนในเหตุการณ์ครั้งนี้ เผยต้นตอมาจากก๊อตซิล่าตดแตกระหว่างเดินทางใต้น่านน้ำญี่ปุ่นห่างจากเมือง เซนได 10 KM” ซึ่งหลังจากโพสต์ข้อความไปแล้วก็มีกระแสต่อว่าถึงความไม่เหมาะสมดังกล่าวและ นักร้องคนดังก็ถูกชาวเน็ตถล่มด่ายับ โดยทันทีที่ลงเครื่องบินจากการไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ จ.นครศรีธรรมราช นักร้องคนดังได้เดินทางเข้าตึกแกรมมี่ทันทีเพื่อเปิดแถลงข่าวดังกล่าว ยืดอกขอโทษ-ไม่เจตนาซ้ำเติม แบงค์ เปิดเผยว่า “ทวิตเตอร์ของผมจะออกมาเป็นแนวสนุก เอาไว้คุยกับแฟนคลับ เรื่องโพสต์ข้อความนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะซ้ำเติมใคร เราแค่คิดว่าเดี๋ยวมันต้องเครียดแน่เลย แค่อยากให้ทุกคนผ่อนคลาย ก็ต้องยอมรับความผิดพลาด เราไม่คิดว่าจะมีคนเอาข้อความนี้ไปเผยแพร่สู่สาธารณชน มิหนำซ้ำยังทำให้แฟนเพลงของผมถูกต่อว่าอีก ฉะนั้นถ้าจะว่าอะไรให้ว่าผมคนเดียว วันนี้ที่ออกมาพูด เพราะทุกคนได้รับผลกระทบหมด แม้กระทั่งวงแคลชเอง พล มือกีตาร์ (คชภัค ผลธนโชติ) ก็ติดต่อญาติที่ญี่ปุ่นไม่ได้เช่นกัน ผมเข้าใจในสถานการณ์และเห็นอกเห็นใจ ผมขอยอมรับข้อผิดพลาดทุกข้อกล่าวหา เป็นลูกผู้ชายก็ต้องยอมรับผิด ฝากขอโทษทุกคนด้วย ไม่ได้มีเจตนาจะซ้ำเติมใคร มันเกิดจากความซุกซนและทะเล้นทะลึ่งของผมกับแฟนคลับ ผมเสียใจกับการกระทำที่ไม่ได้ยั้งคิดครั้งนี้ และถ้าหน่วยงานไหนที่จะให้การช่วยเหลือญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นกระทรวงต่าง ประเทศหรือหน่วยงานใดก็ตาม ผมยินดีจะช่วยด้วย”.
ที่มา นสพ.เดลินิวส์ และไทยโพสต์
เตาปฏิกรณ์ 3 ส่อบึ้ม เร่งอพยพ 2 แสนหนี
|