เปิดโลกการศึกษามุสลิม-อุทาหรณ์สอนใจประเทศไทยมิใช่"ธนาคารโลก"
คมชัดลึก : กระเป๋าเดินทางยังไม่ทันเปิด ก็ต้องรีบเดินทางกลับมายังอียิปต์อีกแล้ว สำหรับนักศึกษาทุนที่พำนักอยู่ใน "หอพักนานาชาติ บูอูสอิสลามียะห์" หลังจากมีป้ายประกาศยึดหอพักจากผู้ดูแลหอพัก หากเข้าหอล่าช้าไปหนึ่งสัปดาห์ หลังการเปิดเรียน ซึ่งได้ทำการเปิดเรียนไปแล้วเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554
อะไรจะเกิดขึ้นกับนัก ศึกษาต่อไป รวมถึงจะได้ตั๋วฟรีกลับอียิปต์อีกหรือไม่ ผมไม่กล่าวถึง แต่ขอกล่าวถึงความตื่นตูม และความคิดที่นักศึกษาไทยในต่างประเทศพึงจะมี เพราะพวกเขาเหล่านี้คือทรัพยากรที่ดี มีมุมมองไกลในอนาคต เพื่อการพัฒนาสังคมประเทศไทยต่อไป
การใช้ชีวิตการศึกษาในต่างประเทศไม่ใช่เพียงการอ่านตำรา จับกลุ่มกันเองก็เพียงพอแล้ว แต่ต้องมีการพัฒนาด้านมุมมองการสื่อสาร การสนใจข่าวสารทั้งในประเทศที่ตัวเองอาศัยอยู่ และประเทศอื่นๆ รวมถึงการมองอนาคตของปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองและการวิเคราะห์ ความคิดถึงจะคงที่ ไม่เตลิดเปิดเปิงเชื่อกระแสข่าวจนเกิดปัญหามีผลกระทบกันหลายๆ ฝ่ายอย่างนี้
50 ล้านบาทที่เสียไปสำหรับเสียงเรียกร้องให้นำนักเรียนไทยและคนงานไทยจำนวน 2,260 คนเดินทางกลับประเทศไทยฟรีๆ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่คิดว่ามากพอแล้ว และคงเป็นที่พอใจของพ่อแม่พี่น้องและญาติที่ได้พบหน้าลูกหลานด้วยความ ปลอดภัย สำหรับการเรียกร้องต่างๆ ของสังคมนักศึกษาไทยในอียิปต์ ผมเองเป็นคนรู้ดี และรู้ลึกด้วยซ้ำ นักศึกษาศาสนามุสลิมสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง
สมัยนี้มีความเจริญเข้ามาแทรกทุกสถานที่ การเป็นอยู่นักศึกษาไทยก็ดีขึ้น ถ้าหากคิดตามความเจริญเพราะทุกคนส่วนใหญ่จะมีคอมพิวเตอร์ใช้ มีอินเทอร์เน็ตใช้ถึงในบ้าน หากไม่เชื่อมโยงมากับร้านอินเทอร์เน็ตก็มีการใช้ระบบยูเอสบี การใช้โทรศัพท์ยี่ห้อดังๆ ทันสมัย การติดต่อสื่อสารกับทางเมืองไทยสะดวกขึ้น ความเจริญนี้เข้ามาทำให้สังคมนักศึกษาส่วนใหญ่ไม่พัฒนาเรื่องภาษาและสังคม อาหรับดีเท่าที่ควร นักศึกษาไทยในอียิปต์ที่ศึกษาอยู่ในระดับต่างๆ ไม่ต้องจ่ายค่าหน่วยกิตหรือค่าเทอม จ่ายเพียงแค่การทำบัตรและค่าบำรุงต่างๆ 90 ปอนด์ และค่าออกหนังสือยืนยันการเป็นนักศึกษาอีก 35 ปอนด์ ถ้าคิดเงินไทยประมาณหนึ่งพันกว่าบาทเท่านั้น
นอกจากนั้นก็จ่ายค่าหนังสือเรียน และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นักศึกษาจะไปเรียนหรือไม่ไปก็ได้แต่ขอให้สอบผ่าน นักศึกษามุสลิมส่วน ใหญ่ที่มาอียิปต์ก็ไม่ใช่เพราะความยากจนเป็นหลักแล้วในสมัยนี้ ถ้าวัดกันถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้านพักในอียิปต์ของแต่ละคน แต่เพราะที่นี่ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม อยากเรียนศาสนา อยากมีความรู้ทางด้านภาษาอาหรับโดยเฉพาะการรับประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัย ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก
และอีกหลายคนที่มาเรียนที่นี่เพราะต้องการอิสระ ตามเพื่อน หรือเพื่อหนีสังคมที่ไม่ดีจากเมืองไทย ที่ประเทศแห่งนี้บางทีก็เสมือนหนึ่งเป็นที่บำบัดของหลายๆ โรคเลยทีเดียว
สังคมนักศึกษาไทยในอียิปต์มีสมาคมนักเรียนไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นตัว กลางที่จะคอยดูแลให้การช่วยเหลือเสมอมา มีนักศึกษาไม่เข้ากับสมาคมก็มี แต่สมาคมก็ยังเปิดกว้างรับเรื่องต่างๆ ด้วยดีเสมอมาตั้งแต่สมัยผมเมื่อก่อนจนถึงสมัยนี้ก็ยังคงความเป็นสมาคม อุดมการณ์เดิม สถานทูตเป็นแม่เรือใหญ่ให้การช่วยเหลือรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะของสมาคม เปิดกว้างรับตลอด 24 ชั่วโมง นโยบายเดิมก็ยังคงใช้อยู่ โดยผมจะเป็นตัวกลางในการเข้ามามีส่วนทั้งสถานทูตและสมาคมเพื่อความเข้าใจ เป็นอันหนึ่งเดียวกัน งานต่างๆ ของสมาคมก็ดำเนินไปด้วยดีเสมอมา
"ถึงเวลาแล้วที่จะต้องคิด หากทุกคนที่เป็นเยาวชนคนไทยทำแบบนี้กันทุกคนทั่วโลกโดยไม่สนใจความเป็นจริง ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ แล้วไม่คิดกันบ้างหรือว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยของเรา เพราะประเทศไทยไม่ใช่ธนาคารโลก"
ผมเป็นมุสลิมคนหนึ่งที่หยิ่งในศักดิ์ศรีความเป็นมุสลิมแต่ ศักดิ์ศรีที่ว่านี้ต้องอยู่กับพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่ใช่หวังชื่อเสียงหรือความโด่งดังโดยการฉวยโอกาสต่างๆ เพราะอิสลามคือการสร้างคนไม่ดีให้เป็นคนดีและช่วยคนดีให้เป็นคนดีมีทางเดิน ที่ถูกต้องและมีแก่นแท้ของอิสลามอยู่เสมอ