ครึ่งปีแรกมีลุ้นเห็นทองแตะ 1,500 ดอลลาร์ฯ
วายแอลจี เผยราคาทองคำใน-นอกประเทศพุ่งสูงสุดทำสถิติใหม่ เชื่อครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะระยะสั้นเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอยู่ที่ระดับ 1,434.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งขายออกในประเทศได้พุ่งสูงสุดเช่นเดียวกัน ที่ระดับบาทละ 20,500-20,600 บาท เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าวิกฤติการเมืองในลิเบียอาจลุกลามไปยังอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หลังจากเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลและกองกำลังความมั่นคงของอิหร่าน โดยมีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวได้ตอกย้ำถึงปัญหาในตะวันออกกลาง ที่ยังไร้วี่แววว่าจะได้ข้อสรุป
ขณะที่การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต ยิ่งเป็นการซ้ำเติมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงอยู่แล้วในปัจจุบันให้สูงขึ้นไปอีก ทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาดังกล่าว นอกจากนั้นแล้วหากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันส่งผลกระทบถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ยิ่งทำให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อเป็นแหล่งพักเงินอีกทางทันที หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้นจะยิ่งถีบให้ราคาทองคำขยับสูงขึ้นต่อไป
นางพวรรณ์ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนทองคำช่วงนี้ว่า นักลงทุนระยะสั้นทางวายแอลจียังคงแนะให้เน้นการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวโดยเบื้องต้นประเมินแนวรับระยะสั้นอยู่บริเวณ 1,410-1,420 ดอลลาร์สหรัฐฯออนซ์ หรือบาทละ 20,200-20,300 บาท ส่วนนักลงทุนระยะยาวแนะนำเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวมาบริเวณบาทละ 20,000 บาท ขณะที่เป้าหมายของราคาทองคำในครึ่งปีแรกนั้นทางวายแอล จียังคงไว้ที่ระดับ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์.
ที่มาไทยรัฐ
|