คาร์บอมบ์ ถล่มยะลา เจ็บสาหัส18ราย โจรชั่วผสมปมน้ำมัน หวังเผาเมืองวอดวาย

เมื่อเวลา 09.45น.วันที่ 13กุมภาพันธ์ ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกธนาคาร นครหลวงไทย สาขายะลา เขตเทศบาลนครยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงแจ้งไปยัง พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จ.ยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก. สภ.เมืองยะลา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร มูลนิธิกู้ภัย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครยะลา รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้านค้าและบ้านเรือนชาวบ้านถูกไฟไหม้จำนวน 15หลัง เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้ลุกลามตัวอาคารโดยใช้เวลากว่า1ชั่วโมง จึงสกัดเพลิงไว้ได้นอกจากนี้ยังพบซากรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็กซ์ หมายเลขทะเบียน บต.6817ปัตตานี สภาพพังยับเยิน พร้อมรถยนต์เก๋ง รถกระบะและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนหลายสิบคัน   ทหาร-ชาวบ้านบาดเจ็บ18ราย   ส่วนผู้บาดเจ็บมี 18ราย ทราบชื่อคือ ส.อ.ชานนท์ สองแก้ว จ.ส.ท.ประสิทธิ์ อิสโร ส.ต.ชาติชาย ประไมยะ พลทหาร วรินทร์รัตน์ จันทร์ดี ทหารสังกัด ร.15พัน 2 ค่ายวชิราวุธ อ.เมืองนครศรีธรรมราชนายเดชณรงค์ พันโท น.ส.อังคณางค์ ภัทรพงศ์ นายเดชณรงค์ พันโท น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม นายสมศักดิ์ รักษ์พงษ์ นางศิริพร เรือนธรรม นางทักษิณา วงศ์จุมปู นายหมู แซ่เสี้ยว ด.ช.นิลพัทธ์ แก้วเกาะสะบ้า นายสุวัฒน์ ไตรรงค์เจริญสุข นายสมมาตร บุญรุ่ง นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์ นางปภาดา ผิวเกลียง และ นางเตือนใจ กลัดทอง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และระดมทีมแพทย์ให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน   จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.30น.คนร้ายได้ขับรถกระบะแล่นเข้ามาในเขตเทศบาลนครยะลา โดยขับวนเวียนอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุแล้วแล้วจอดไว้ที่หน้าร้านเฮนเบเกอรี่ จากนั้นคนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรอไว้ก่อนหน้านี้หลบหนีไป จนกระทั่งมีรถปิกอัพเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร.15 พัน2 แล่นผ่านมา คนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นอีกชุดที่ซุ่มดูพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ทหารได้จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือจนเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารในรถพร้อมชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บดังกล่าว   เผยใช้น้ำมันผสมหวังเผาเมือง   ด้าน พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบหลักฐานในที่เกิดเหตุน่าตกใจมาก เนื่องจากคนร้ายมีการวางแผนมาโดยได้นำระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิกจำนวน 4 ลูก น้ำหนักไม่ต่ำกว่าลูกละ 20 กิโลกรัมมาซุกซ่อนไว้ในรถ ขณะเดียวกันยังได้นำแกลอนน้ำมันซึ่งมีน้ำมันอยู่เต็มแกลลอนอย่างน้อย 2 แกลลอนมาวางร่วมกับจุดที่ซุกระเบิดเพื่อหวังผลให้แรงระเบิดเกิดเป็นเปลวไฟคล้ายกับระเบิดเพลิงขึ้นเพื่อเผาผลาญบ้านเรือนของชาวบ้านในจุดที่อยู่ในรัศมีที่รถยนต์ของคนร้ายนำมาจอดได้รับความเสียหาย ทั้งนี้โชคดีที่ระเบิดทำงานเพียง 3 ลูก ส่วนอีก1 ลูกวงจรทำงานไม่สมบูรณ์ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยการก่อเหตุครั้งนี้นับเป็นการก่อเหตุที่วางแผนมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจุดที่คนร้ายเลือกเป้าหมายในการก่อเหตุเป็นจุดชุมชนหลักกลางเมือง ประกอบกับเป็นบ้านเรือนเก่าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งย่านการค้าขายสำคัญของเมืองยะลา   เป้าหมายชุมชน-สัญลักษณ์สำคัญ   "คนร้ายมีเป้าหมายที่ชัดเจนเข้าทำนองยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือ การลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่ต้องผ่านในจุดที่เป็นเป้าหมาย ขณะเดียวกันจุดเป้าหมายที่คนร้ายเลือกเป็นพื้นที่ย่านชุมชนที่ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองยะลาที่คนร้ายต้องการทำลายทิ้ง ทำให้การลอบวางระเบิดครั้งนี้มีการปรับยุทธวิธีโดยการนำน้ำมันมาช่วยสร้างอานุภาพความรุนแรงเพราะคนร้ายทราบดีว่าจุดดังกล่าวเป็นบ้านไม้เรือนเก่าที่น่าจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สะท้อนถึงความบกพร่องและช่องโหว่ต่างๆในการดูแลความปลอดภัยและการวางมาตรการต่างๆในเขตพื้นที่ชุมชนเมือง ซึ่งจะได้เรียกประชุมหารือเพื่อทบทวนแผนการดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น"พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร กล่าว   แม่ทัพ4ประณามพวกนอกศาสนา   ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่4 กล่าวว่า หลังจากที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า ได้ปฏิบัติงานด้านการเมืองและการทหารในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมกับทางภาครัฐมากขึ้น ประกอบกับเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและวิสามัญกลุ่มคนร้ายในพื้นที่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเป็นเหตุให้กลุ่มคนร้ายพยายามที่จะทำลายฐานการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อตอบโต้การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการเข้ามาก่อเหตุร้ายในย่านเศรษฐกิจการค้า เพื่อสร้างให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามการกระทำของกลุ่มคนที่ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์เมืองยะลาครั้งนี้ ถือเป็นฝีมือพวกนอกศาสนา   พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า ในส่วนลักษณะของระเบิดที่ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ คนร้ายได้ใช้ระเบิดบรรจุในถังแก็สปิคนิค 4ลูก หนักลูกละประมาณ 30กิโลกรัม ซุกซ่อนมากับรถกระบะอีซูซุ ดีแมค แบบแค็ป จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ระเบิดไม่ทำงาน 1ลูก จากการตรวจสอบมีการตัดเหล็กเส้นบรรจุอยู่ภายในจำนวนมาก ส่วนเพลิงที่ลุกไหม้บ้านเรือนเสียหายกว่า 15คูหา เกิดจากภายในรถระเบิดของคนร้าย มีถังน้ำมันขนาด 5 ลิตรที่ใส่ไว้ในรถ จำนวน 8ถัง เพื่อหวังทำลาย   ตั้งเต้นท์รับแจ้งความเสียหาย   ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผวจ.ยะลา กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าว ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 11 คูหา ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้น ทางจังหวัดยะลาจะร่วมกับเทศบาลนครยะลา ตั้งเต็นท์รับแจ้งความเสียหาย โดยผู้ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง ทางจังหวัดจะจ่ายเงินให้ร้อยละ 25 ก่อน หลังจากนั้นจะให้ทางเจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลากับศูนย์เยียวยาจังหวัดประเมินมูลค่าความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง โดยจะนำเงินเยียวยาที่ทางจังหวัดมีอยู่มาช่วยเหลือในทันที ซึ่งการเยียวยาในครั้งนี้ ไม่ได้เยียวยาเฉพาะความเสียหายบ้านเรือนเท่านั้น แต่จะเยียวยามูลค่า สินค้าที่ได้รับความเสียหายด้วย หากร้านค้าใดมีใบสั่งของ และหลักฐานสามารถที่จะนำมาขอรับความช่วยเหลือได้   สั่ง จนท.เข้มงวดธุรกิจไทยพุทธ   ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากการตั้งจุดตรวจจุดสกัดแล้ว จะมีกำลังเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่ด้วยรถจักรยานยนต์มารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดด้วย โดยเฉพาะย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนร้ายมุ่งให้เกิดความแตกแยก โดยมุ่งทำร้ายชุมชนชาวไทยพุทธกับชุมชนคนไทยเชื้อสายจีน เพราะฉะนั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องดูแลชาวไทยพุทธ และคนไทยเชื้อสายจีนเป็นกรณีพิเศษ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก   ประวิตรเชื่อล้างแค้น จนท.รัฐ   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะเกี่ยวเนื่องจากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกวาดล้างที่หลบซ่อนของผู้ก่อความไม่สงบบนเขา และได้จับผู้ก่อความไม่สงบได้ และทำครั้งที่มีการจับได้ เขาก็จะแก้แค้นในลักษณะนี้ แต่ครั้งนี้ ใช้คาร์บอมในการวางระเบิด โดยใช้รถยนต์ จึงเป็นสาเหตุให้ทหารบาดเจ็บประมาณ3คนและประชาชนเป็นจำนวนมาก เราจึงต้องระมัดระวัง และทาง ผบ.ทบ ได้เน้นย้ำให้ใช้เครื่องมือในการตรวจจับให้มากขึ้น และก็ได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องแก้สถานการณ์ไปตามกรณีและพยายามดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับกำลังของฝ่ายเราให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้บริสุทธิ์   คนร้ายรอจังหวะจนท.เผลอ   พล.ต.ดิษฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่า หากเราดูแลและป้องกันเป็นอย่างดี จะสามารถสกัดกั้นเหตุการณ์ได้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ผู้พยายามจะก่อเหตุรอจังหวะที่เจ้าหน้าที่เผลอ หรือมีช่องโหว่ อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยกำลังพลและประชาชนในพื้นที่และกำชับผ่านทาง ผบ.ทบ.ว่า ให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่เพิ่มมาตรการดูแลให้เข้มงวด อย่าประมาทในเรื่องต่างๆที่ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะลวงเจ้าหน้าที่ อาทิ การที่เขาเคยใช้รถเก่าๆในการดำเนินการมาตลอดและเปลี่ยนมาใช้รถใหม่ เจ้าหน้าที่จึงไม่สงสัย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องระแวงต้องสงสัยตลอดเวลา จะประมาทไม่ได้

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า