|
อียิปต์ไชโยลั่นประเทศ! ไล่รบ.เผด็จการสำเร็จ มูบารัค ยอมลาออก |
|
|
อียิปต์ไชโยลั่นประเทศ! ไล่รบ.เผด็จการสำเร็จ "มูบารัค"ยอมลาออก |
 |
|
 |
ชาวอียิปต์ที่สนับสนุนการประท้วงในอียิปต์ ฉลองชัยชนะ การปฏิวัติสีขาว หลังโค่นล้มประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ได้สำเร็จหลังยอมลาออกจากตำแหน่งถ่ายโอนอำนาจให้กองทัพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวอียิปต์ทั่วประเทศออกมาเฉลิมฉลองการโค่นล้มประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ตามท้องถนนในเมืองต่างๆ ด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า จุดพลุ เต้นรำและบีบแตรรถ ในเมืองอิสไมเลีย ชาวเมืองไชโยโห่ร้องและโบกธงชาติอียิปต์ ในเมืองสุเอซ
กองทัพอียิปต์กลายเป็นจุดศูนย์กลางของการเฉลิมฉลอง ประชาชนปีนขึ้นไปบนรถถังเพื่อแสดงความชื่นชมทหารอียิปต์ ที่ปกป้องผู้ประท้วงตลอดการชุมนุม 18 วัน เมืองสุเอซและอิสไมเลีย เป็น 2 เมืองที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายมูบารัค ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงขับไล่นายมูบารัค จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนที่เมืองอเล็กซานเดรีย เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอียิปต์ รถติดยาวเหยียดทั่วเมือง เมื่อชาวเมืองพากันขับรถออกมาฉลองชัยชนะด้วยการบีบแตรรถ มีการจุดพลุฉลองกันที่ริมทะเล
ขณะที่ชาวอียิปต์ในต่างประเทศ ตั้งแต่ในชาติอาหรับอย่างตูนิเซีย เยเมน จอร์แดน โมร็อคโค ซาอุดิอาระเบีย เลบานอนและฉนวนกาซ่า จนถึงชาติตะวันตกอย่างกรีซ นครนิวยอร์กและลอนดอน ต่างออกมาฉลองการลาออกของนายมูบารัคตามท้องถนน และที่หน้าสถานทูตอียิปต์ในประเทศเหล่านั้น ด้วยการจุดพลุ ร้องรำทำเพลง และบีบแตรรถ โดยมีประชาชนในประเทศเหล่านั้น ซึ่งสนับสนุนการประท้วงในอียิปต์ ร่วมฉลองด้วย
ก่อนหน้านี้ โอมาร์ ซุไลมาน รองประธานาธิบดี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ (11 ก.พ.) ว่าประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ยอมลงจากตำแหน่งแล้ว หลังอยู่ในตำแหน่งมาเกือบ 30 ปีตั้งแต่ปีคศ. 1981 และส่งมอบอำนาจแก่คณะผู้บัญชาการทหารระดับสูง ส่วนนายมูบารัคและครอบครัวมีรายงานว่าเดินทางออกจากกรุงไคโรไปยังเมืองตากอากาศชาร์ม เอล เช้ค ริมทะเลแดง ที่เขามีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั่น แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันว่า นายมูบารัคและครอบครัวจะเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวออกมาว่า เขาและครอบครัวอาจเดินทางไปลี้ภัยทางการเมืองในอังกฤษหรือมอนเตเนโกร แต่ก่อนหน้านี้ อดีตผู้นำอียิปต์ยืนยันมาตลอดว่า เขาจะไม่เดินทางออกนอกประเทศและจะขอตายในอียิปต์
ด้านแถลงการณ์ของกองทัพอียิปต์ กล่าวยกย่องการตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งของนายมูบารัค พร้อมกับชื่นชมคุณงามความดีของอดีตผู้นำอียิปต์ผู้นี้ แต่ระบุว่า ท้ายที่สุดทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามเสียงเรียกร้องของประชาชน โดยนายพลโมฮัมเหม็ด ฮุสเซน ทันทาวี รัฐมนตรีกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพ จะทำหน้าที่บริหารประเทศชั่วคราวแทนนายมูบารัค
ส่วนนายโมฮัมเหม็ด เอลบาราเด อดีตเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำฝ่ายค้าน ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นหนึ่งในวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา เพราะอียิปต์สามารถหลุดพ้นจากการปกครองที่กดขี่ข่มเหงมาตลอด 30 ปี พร้อมเรียกร้องให้กองทัพจัดสรรอำนาจการบริหารประเทศกับพลเรือนอย่างเหมาะสม
การสละอำนาจของนายมูบารัค ยังสร้างความปลอดโปร่งโล่งใจแก่นานานาชาติ โดยทาง โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐ ยกย่องว่านี่คือวันประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวอียิปต์ และบอกว่า มูบารัค ควรเป็นผู้นำในการเจรจาเบิกทางไปสู่ประชาธิปไตย ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงท่าทีในเวลาต่อมาว่าประชาชนชาวอียิปต์ได้ส่งเสียงของพวกเขาและไม่มีอะไร หยั่งลึกเท่าประชาธิปไตยที่แท้จริง พร้อมเรียกร้องกองทัพสร้างความเชื่อมั่นต่อการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยที่น่าเชื่อถือ
ด้านนายบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่าเสียงของประชาชนชาวอียิปต์ได้รับการขานรับแล้ว พร้อมเรียกร้องทางกองทัพจัดการเลือกตั้งที่เป็นอิสระและยุติธรรมเพื่อคืนสู่ การปกครองโดยพลเรือน |
ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า |
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|