มุสลิมมาเธอร์ฮู้ด ยอมคุยรบ.อียิปต์-ไคโรบางส่วนเริ่มคืนสู่ปกติ ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯโทรศัพท์หารือวิกฤติอียิปต์กับผู้นำโลก เน้นย้ำท่าทีต้องการให้เปลี่ยนถ่ายอำนาจโดยสงบเรียบร้อย...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุประชาชนลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคของอียิปต์ วัย 82 ปี ที่ปกครองประเทศแบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จร่วม30ปีที่เริ่มตั้งแต่ 25 ม.ค.ย่างเข้าสู่วันที่ 13 เมื่อวันอาทิตย์ 6 ก.พ. โดยระบุว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 2,000 คน ยังปักหลักอยู่ที่จัตุรัสทาฮ์รีร์ กลางกรุงไคโรตามเดิม แต่เพิ่มจำนวนเป็นหลายพันคนในช่วงบ่าย ท่ามกลางการเสริมกำลังทหารเข้าประจำการณ์ตามจุดต่างๆรอบจัตุรัสทาฮ์รีร์ ป้องกันกลุ่มผู้ประท้วงถูกฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลจู่โจมทำร้าย

กลุ่มผู้ประท้วงประกาศชุมนุมยืดเยื้อต่อไป แม้ฝ่ายรัฐบาลอียิปต์ยอมโอนอ่อนลงเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่นายมูบารัคประกาศไม่ลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้นำสมัยหน้าและจะดำเนินการปฏิรูป จนล่าสุด กลุ่มแกนนำพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติ(เอ็นดีพี) พรรครัฐบาลของประธานาธิบดีมูบารัค รวมทั้งนายกามาล บุตรชายคนเล็กของมูบารัค ซึ่งครั้งหนึ่งถูกมองว่า จะเป็นคนสืบทอดอำนาจต่อจากเขา ยอมลาออกเมื่อวันเสาร์ เพราะเป้าหมายสูงสุดของการประท้วงคือ มูบารัคต้องออกสถานเดียว

สถานการณ์ในวันอาทิตย์ บางพื้นที่ในกรุงไคโรเริ่มคืนสู่ปกติบ้างแล้ว ผู้คนออกมาทำความสะอาดอาคารธุรกิจร้านค้า ธนาคารหลายแห่งเตรียมเปิดทำการ การจราจรเริ่มหนาแน่นในหลายส่วนที่เป็นศูนย์กลางของเมือง แม้วิกฤติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ300คน บาดเจ็บหลายพันคน ยังดำเนินต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน กลุ่ม “ภราดรภาพแห่งมุสลิม”(มุสลิม บราเธอร์ฮู้ด) เครือข่ายพรรคฝ่ายค้าน 1 ในกลุ่มแกนนำชุมนุม ยินยอมนั่งโต๊ะเจรจากับรองประธานาธิบดีโอมาร์ สุไลมานพร้อมกับกลุ่มฝ่ายค้านอื่นๆ หารือแนวทางปฏิรูปประชาธิปไตยนำไปสู่การเลือกตั้งแทนนายมูบารัค แต่ตั้งเงื่อนไขให้นายมูบารัคต้องลาออกโดยทันทีกับต้องเชิญตัวแทนฝ่ายยุวชน ที่่ร่วมชุมนุมมาตั้งแต่ต้นเข้าร่วมด้วย มิเช่นนั้นจะล้มเลิกเจรจาซึ่งเริ่มในเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับ ประมาณ 16.00 น.วันเดียวกัน ตามเวลาในไทย

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ โทรศัพท์หารือวิกฤติอียิปต์กับผู้นำโลกรวมทั้งมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซายเอ็ดแห่งยูเออี นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษและนายกรัฐมนตรี แองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เน้นย้ำท่าทีต้องการให้เปลี่ยนถ่ายอำนาจโดยสงบเรียบร้อย และเริ่มตอนนี้เลย แต่ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ อาจช่วยให้มูบารัคยังคงอยู่ในอำนาจจนกระทั่งหมดวาระใ นก.ย.ศกนี้ ซึ่งขัดแย้งข้อเรียกร้องกลุ่มผู้ประท้วงที่ต้องการให้มูบารัคลาออกโดยทันที

ที่มา ไทยรัฐ

ด้านนสพ.นิวยอร์ค ไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและอียิปต์ ระบุว่านายสุไลมานและผู้นำเหล่าทัพของอียิปต์ต้องการให้มูบารัค ก้าวลงจากอำนาจโดยสง่างาม ด้วยการค่อยๆลดทอนอำนาจ เพื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะการณ์นำโดยนายสุไลมาน ขึ้นมาเปลี่ยนถ่ายอำนาจ และเจรจาการปฏิรูปกับฝ่ายค้าน

ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด เอลบาราเด อดีตผู้อำนวยการทบวงพลังปรมาณูระหว่างประเทศ(ไอเออีเอ) แกนนำกลุ่มผู้ประท้วง ระบุว่า ถ้าสหรัฐฯสนับสนุนให้นายสุไลมาน และมูบารัค เป็นผู้นำรัฐบาลเฉพาะการณ์เพื่อเปลี่ยนถ่ายอำนาจ จะถือเป็นการถอยหลังครั้งสำคัญและน่าผิดวังอย่างมาก

วันเดียวกัน ยังมีรายงานกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านนายมูบารัคในหลายเมืองของสหรัฐฯรวมทั้ง มหานครนิวยอร์ก ซีแอทเทิล และในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เช่นเดียวกับเมืองมอนทรีออล โตรอนโตและเมืองอื่นๆของแคนาดา.