ผล เลือกตั้งซ่อม แรงสะเทือน ลึก กว้าง ไปยัง "เพื่อไทย"

ชัยชนะของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ที่ขอนแก่น อาจถือเป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง

เพราะว่าเป็นชัยชนะในพื้นที่เดิมซึ่ง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เคยกำชัยมาแล้วจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550

เป็นชัยชนะที่รู้ล่วงหน้า

เหมือนกับชัยชนะของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ในพื้นที่กทม.ซึ่งประกอบส่วนขึ้นจากคะแนนนิยมทั้งต่อพรรคประชาธิปัตย์และต่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน

กระนั้น ชัยชนะที่นครราชสีมา ชัยชนะที่สุรินทร์ ต้องยอมรับว่ามีผลสะเทือน

เพราะไม่เพียงเป็นชัยชนะของพรรคภูมิใจไทยเหนือพรรคเพื่อไทย หากยังเป็นชัยชนะอันมีส่วนประกอบจากสถานะแห่งการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อันมีส่วนเอื้ออำนวยมาจากนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นปัจจัยสำคัญ

นั่นก็คือ ชัยชนะของผู้อยู่ในสถานะอันเป็น "ผู้กุม" อำนาจรัฐอยู่ในมือ

จะมองชัยชนะที่พรรคภูมิใจไทยได้มาจากนครราชสีมาและสุรินทร์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งต้องมองเชิงเปรียบเทียบกับชัยชนะซึ่งพรรคไทยรักไทยได้มาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548

ตอนนั้นพรรคไทยรักไทยอยู่ในสถานะเป็นผู้กุมอำนาจรัฐ

พรรคการเมืองต่างๆ นอกเหนือจาก พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมวลชน ล้วนถูกพรรคไทยรักไทยดูดไปจนหมดสิ้น

ไม่ว่าพรรคเสรีธรรมของ นายพินิจ จารุสมบัติ ไม่ว่าพรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ไม่ว่าพรรคชาติพัฒนาของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ

อำนาจรัฐอันทรงความหมายยิ่งคือ อำนาจอันมาจากฝ่ายปกครองประสานกับฝ่ายตำรวจ

ผลจากการได้รับเลือก 347 เสียงจากทั้งสิ้น 500 ของพรรคไทยรักไทยนอกจากผลงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ การอยู่ในสถานะอันเป็นผู้กุม "อำนาจรัฐ"

อย่าลืมเป็นอันขาดว่ากระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยยึดครองอยู่ คือ กระทรวงมหาดไทย

ไม่เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยจะไปยึดกุมการโยกย้ายระดับปลัดกระทรวง ระดับอธิบดี หากแม้กระทั่งระดับ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ

ก็มิได้ละเว้น การออกคำสั่งกระทรวงมหาดไทยเพิ่มเงินค่าตอบแทนผู้บริหารอบต. คือส่วนอันเย้ายวนใจยิ่งในการปลุกกระแสระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง

ขณะเดียวกัน สายสัมพันธ์อันดีระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้มีส่วนในการจัดวางตำแหน่งของตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อันทำให้การขยับตัวของพรรคเพื่อไทยเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ขณะเดียวกัน ภายในของพรรคเพื่อไทยเองก็ใช่ว่าจะเป็นเอกภาพและมีความแข็งแกร่ง

ตราบใดที่รัฐบาลยังอยู่ในฐานะกุมอำนาจรัฐ ตราบนั้นโอกาสของพรรคเพื่อไทยก็ยิ่งจะถดถอย

มองในภาพรวมการเลือกตั้งใหญ่ ความได้เปรียบยังเป็นของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ความฝันที่จะได้รับเลือกมากถึงเกินกึ่งหนึ่งมีความเป็นไปได้น้อยลงเป็นลำดับ

เว้นแต่ภายในพรรคเพื่อไทยจะปรับขบวนกันใหม่ให้คึกคักและคล่องตัวกว่าที่เป็นอยู่

ที่มา : ข่าวสด