|
แฉ นาธาน ครบสูตรนรก ด่าคนแก่ เ - ี้ ย หลอกเงินเด็ก หิ้วเด็กวัด หลอกเงินพระ |
|
|
แฉ “นาธาน” ครบสูตรนรกแตก นอกจากจะหลอกเงินญาติ ”ครูแหม่ม” 7 แสนแล้ว ก็ยังมีนิสัยก้าวร้าวด่า “พ่อกับแม่ครูแหม่ม” ผู้ให้ที่พักพิงว่า เ - ี้ ย พูดอะไรก็ไม่ฟังบอกมีเงินแล้วค่อยมาพูดกัน สุดอนาถขอแม้กระทั่งเงินเด็ก 20 บาทก็ยังเอา ล่าสุดไปบอกพระว่าจะสร้างเครื่องกระจายเสียงเรียกเก็บเงิน 4 หมื่น ซ้ำมีพฤติกรรมสนิทสนมกับเด็กวัดถึงขั้นพาไปนอนที่บ้าน เปิดมหากาพย์นรกไม่เอาอีกรอบแล้วสำหรับ “นาธาน โอร์มาน” อดีตนักร้องผู้อื้อฉาวที่มีข่าวเน่าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โกงหุ้นส่วนร้านกาแฟ โกงเงินพี่เลี้ยงที่อยู่ร่วมกับมานานนับ 10 ปีอย่าง “แม่บ้านสมาน สุขเสริม” ล่าสุดก็ถึงคิว “ครูแหม่ม พิสมัย ศรีกระบุตร” แม่บุญธรรมที่เคยรักนาธานนักหนา ถึงกับหอบหิ้วนาธานไปอยู่ที่เชียงคานบ้านเกิด หวังจะให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังจากรอดคุกกรณีโกงเงินแม่บ้านมาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ล่าสุดนาธานก็ไปก่อเรื่องอีกจนได้ คราวนี้ครอบครัวของครูแหม่มผู้มีพระคุณโดนกันถ้วนหน้า จนต้องขึ้นโรงพักไปแจ้งความฉ้อโกงที่สภ.เชียงคานเมื่อวันก่อน เรื่องนี้เป็นเหตุให้เอเอสทีวีบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ต้องลงพื้นที่เพื่อตามล่าหาความจริงที่เกี่ยวข้องกับนาธานอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ครูแหม่มที่เคยวิ่งหนีนักข่าว เอาผ้าคลุมหน้าบังกล้อง ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม เชื้อเชิญเข้าไปพูดคุยในบ้าน ทำให้ทีมข่าวได้พูดคุยกับครอบครัวของครูแหม่มอย่างหมดเปลือก ไม่ว่าจะเป็น “น้ามด สิทธิพร โคตรอุดมพร” หนึ่งในเหยื่อของนาธานที่โดนเชิดเงินไปถึง 7 แสน และ “ต้อม” ลูกชายคนโตที่ต่อต้านนาธานมาโดยตลอด รวมไปถึงลูกชายอีก 2 คนของน้ามดที่น้ามดบอกว่า ทำหน้าที่เป็นเสนาน้อยคอยรับใช้นาธานอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี“น้าต่าย” ญาติของครูแหม่ม ช่างเสริมสวยที่นาธานไปใช้บริการทำสวยอยู่เป็นประจำก็มาร่วมด้วยช่วยแฉว่าโดนยืมเงินไปเหมือนกัน เรียกว่าโดนกันแล้วถ้วนหน้า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เราได้รู้ว่า ผู้ชายที่ชื่อ นาธาน โอร์มาน ครบสูตรนรกแตกจริงๆ ครูแหม่ม :“ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เกิดขึ้นเพราะเรารักเขาเมตตาเขาเหมือนแม่ที่คลอดออกมา ไม่คิดว่าเขาจะทำกับเราแบบนี้หรอก คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับคนอื่นคงไม่ได้เกิดกับเรา ตอนนั้นกระแสสังคมแรงมากแต่เราก็ไม่ฟังเนื่องจากรักเขารักเหมือนลูกเหมือนหลาน รักเหมือนคลอดเขาออกมาเลย ความผูกพันมันเอื้อกันมา เมื่อก่อนเขาไม่มีบ้านอยู่เราแต่เรามีลูกศิษย์เยอะ แล้วลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นเจ้านายเก่าพี่เต็ม(แม่บ้านสมาน สุขเสริม) พอเจ้านายเก่าเลิกจ้างพี่เต็มเราก็ให้นาธานไปอยู่กับพี่เต็ม ก็เรียกว่าดูแลเขามา10 กว่าปีแล้ว” “ดูแลตั้งแต่เขายังไม่ได้เป็นนักร้องให้กำลังใจเขาสู้ๆ นะ กินอยู่ยังไงไม่มีเงิน 100-200 เราก็ให้เขาเพราะเราก็ไม่ได้มั่งมีอะไร เวลาเขาขอเงินมาก็ให้เป็นหลักร้อยหลักพันก็มี โทรศัพท์มือถือไม่มีก็ซื้อให้ เหมือนเราเป็นแม่ของเขาจริงๆ เลยมันซึมซับผูกพันธ์กันมาเรื่อยๆ พอเขาได้เป็นนักร้องเขาก็ห่างๆ ไปบ้างเพราะเขามีงานแต่เวลาที่เขามีปัญหาเดือดร้อนไม่มีเงินเขาก็โทรมา แต่ถึงเขาจะเป็นนักร้องเขาก็ไม่ได้เอื้ออะไรเรานะ มีแต่เรานี่แหละให้เขาคนอย่างนาธานไม่มีทางเอื้อใคร เราก็พึ่งมารู้ตอนนี้นี่แหละ” “พอนึกถึงวันนี้ที่เราจะต้องไปนั่งอยู่ในโรงพักกับเมื่อปีก่อนที่เราก็มานั่งอยู่ตรงนี้เหมือนกัน แต่มันมากันคนละสถานะเลยนะ ในวันนั้นเรามาในฐานะแม่จริงๆ ลูกเราเดือดร้อนปกป้องลูกทุกอย่าง วันนั้นที่เขาโดนจับเขาก็นั่งอยู่ในบ้าน น้ามดก็กำลังทำก๋วยเตี๋ยวให้กิน” น้ามด : "ก่อนที่จะโดนจับก็มีตำรวจมาถามว่ามีดารามาอยู่ที่บ้านหรือเปล่า ได้อำนวยความสะดวกให้เขาไหม เราก็บอกมีนาธานแต่เขาเป็นหลานผัวตอนนี้ไปเมืองเลย พอตอนเช้าเขาก็มาตะคุบเอาที่นี่ กำลังจะทำก๋วยเตี๋ยวให้เขาทานพอดี เขาชอบทานก๋วยเตี๋ยว” ครูแหม่ม: “เขายังไม่ทันจะกินเลย กำลังเอาใส่ปากมันน่าสงสารนะ เมื่อก่อนนี่น้ามดเขาเชื่อข่าวนะ แต่พอมาเห็นตัวจริงนาธานน้ามดเปลี่ยนเลย มาเจอคำหวานๆ เปลี่ยนเลยรักเหมือนลูก วันที่โดนจับน้ามดก็เอาเงินยัดใส่มือเรา 8,000เอาไปช่วยหลานนะลูก แกเสียใจที่นาธานมาโดนจับที่บ้าน เสียใจมากรู้สึกว่าตัวเองผิด เราเองก็สงสารเขารู้สึกผิดเขามาโดนจับที่บ้านเรา เราจะต้องช่วยเหลือเขา” “แต่พอปีนี้เราก็มานั่งในตำแหน่งเดิมอีก แต่มันเป็นคนละหน้าที่ คิดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านาธานมาทำอย่างนี้กับผู้มีพระคุณได้ยังไง เมื่อเช้าก่อนจะไปโรงพักหมาของน้ามดเนี่ยก็มาสะกิดขามายกมือไหว้มาเกาะมือน้ามด เหมือนเขาจะให้กำลังใจ เราก็ยังพูดกันอยู่เลยว่า เลี้ยงหมาก็ยังดีกว่าเลี้ยงนาธานเนอะ มาถึงวันนี้บอกได้เลยว่าเสียใจมาก ชีวิตเราตกต่ำสุดๆ เราเป็นครูบาอาจารย์มีลูกศิษย์เยอะ วันนั้นเราเอาเกียรติของความเป็นครูการันตีเขาหมด แต่วันนี้เขากลับมาทำอย่างนี้กับเรา แทนที่เราจะไปการันตรีให้พ่อแม่พี่น้องที่คลอดเรามา เงินที่เราให้พ่อแม่ก็ยังไม่ได้ให้เท่านาธาน โอร์มานนะ” “พี่น้องของเราที่อยู่ที่นี่ก็เสียใจหมดก็คนบ้านนอกน่ะ รักและดูแลเขาอย่างดีน้ามดให้นาธานกินอยู่ตั้งแต่เช้ายันนอน ขนาดโกรกผมยังต้องมาเอาเงินกับน้ามดเลย น้ามดขายของอยู่นาธานโทรบอกน้ามดเติมน้ำมันรถ น้ามดก็ต้องวิ่งเอาเงินมาให้ กลายเป็นแม่บุญธรรมโดยที่ไม่ต้องมีคนแต่งตั้ง เขารู้ว่าน้ามดใจดีมีเงินเข้าออก ถึงจะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็มีรายได้ทุกวัน” น้ามด : “บางทีก็เห็นเขานั่งซึมๆ เราก็ไปถามไม่มีเงินหรอลูก เราก็เอาเงินใส่มือทีละ 1,000 - 2,000 บาท ขายของมาได้ก็เอาเงินมาให้เขาใช้จ่าย” ครูแหม่ม : “แล้วดูสิทำไมมาทำแบบนี้ เรานึกว่าเขาจะเป็นคนดี นึกว่าเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้ ตกทุกข์ได้ยากมาอยู่บ้านเราพ่อแม่พี่น้องเราก็ไม่เคยรังเกียจ มีแต่ให้กำลังใจเอาใหม่นะสู้ๆ นะ คิดว่าเขาคงไม่มีอะไร คงไม่ทำอะไรเราเพราะเขาก็ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่กับพ่อแม่เราแล้ว และเขาก็เรียกพ่อแม่เราว่าตากับยาย ก็คิดว่าเขาจะมาตั้งรกตั้งฐานที่นี่ พ่อกับแม่รักเขามากเขาขอที่มาทำรีสอร์ทพ่อกับแม่ก็ให้ แต่ก็ยังมาหลอกพ่อกับแม่ให้ขายวัวไปทำทัวร์อีก 5 หมื่น” “พอเขามาอยู่ที่นี่ในระหว่างที่เราไม่อยู่เขาก็มาสร้างความหวังให้กับน้ามด เขาบอกจะพาน้ามดไปทัวร์ต่างประเทศ 20 ประเทศ น้ามดซ้อมจะสะพานกระเป๋าคล้องแขนไว้ให้ดี แตะไม่ต้องใส่ต้องใส่รองเท้าส้นสูง ซ้อมดีๆ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวเมืองนอก จะพาไปสวิตเซอร์แลนด์” “เขาพูดทั้งๆ ที่อยู่ที่นี่เขาไม่ได้ทำงานอะไร มีแต่ญาติๆ ของเรานี่แหละจุนเจือเขา แม่เราก็ทำกับข้าวให้เขากิน แต่ส่วนใหญ่เขาจะมากินกับน้ามด เช้ายันค่ำมากินกับน้ามด ไม่มีเงินก็ขอน้ามดอยู่จนเหมือนลูกคนหนึ่งของน้ามด นอกจากนั้นแล้วเขาก็มีผู้ใหญ่คนหนึ่งคอยซัพพอร์ทให้เขา ขอไม่เอ่ยถึงละกันว่าชื่ออะไร แต่ผู้ใหญ่ใจดีของเขาคนนี้ก็เป็นคนเอาเงินมาลงทำรีสอร์ทที่นี่” “และในระหว่างที่เขาอยู่บ้าน เราก็อยากจะสร้างบ้านให้พ่อให้แม่ก็ให้นาธานมาเป็นคนดูแลให้ เราก็ไปกู้เงินมาได้ 9 แสนแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ตากับยายก็จะไปเอากับธนาคารมาให้ นาธานเขาก็ขอเป็นคนดูแลเอง บิลต่างๆ เขาก็เก็บไว้เอง เขาบอกว่าเดี๋ยวจะเอาไปให้ครูแหม่มดู เราเองตอนนั้นก็อยากสร้างเครดิตให้เขา อยากให้ญาติพี่น้องรักเขา อยากให้รู้ว่าเขามีเงินนะ บางคนก็เข้าใจว่าเขาเป็นคนช่วยเราด้วยซ้ำ ยาย(แม่ของครูแหม่ม) ก็อยากสร้างเครดิตให้หลาน(นาธาน) ก็เลยเอาเงินยัดใส่มือให้ คือทุกคนรักเขาหมดไว้ใจเขาหมด” “แต่เงินก็ไม่พอหลอกเราก็เอาที่ตรงไร่มะม่วงไปจำนอง เพราะนาธานบอกว่าอยากให้ยายเอาที่ไปจำนองนะ 4 แสนบาทจะได้สร้างบ้านให้เสร็จ ก็เอาไปจำนองใช้จ่ายไป 3 แสนเหลือ 1 แสนเขาก็เป็นคนเก็บไว้ แปลนบ้านเราก็มีก็ให้ แต่พอกลับมาบ้านเรากลับกลายเป็นอีกแบบหนึ่งไม่เหมือนในแปลนเลย เขาคงคิดว่าจะอยู่ด้วยก็เลยสร้างตามใจตัวเอง สุดก้าวร้าว ด่า “พ่อแม่ครูแหม่ม” ที่รักเหมือนลูกว่า เ - ี้ ย “พ่อแม่เห็นบ้านแล้วก็โกรธมาก เพราะเขาอยากได้ตามแปลน อยากได้ 3 ห้องนอน นาธานก็มาสร้างเป็นแบบนี้ตะคอกใส่ คือพ่อเขามีแปลนบ้าน 3 ห้อง แล้วนาธานมาเปลี่ยนเป็น 6 ห้อง เขาก็เลยเถียงกัน ทะเลาะกันแล้วเขาก็บอกว่า ค่าใช้จ่ายที่เกินไปเขาจะออกเอง แต่จริงๆ เราก็เป็นคนออกนั่นแหละ พอสร้างบ้านเสร็จเขาก็เอาตุ๊กตาผู้หญิงใส่อันเดอร์แวร์ไปวางไว้ตรงประตูทางเข้า ตาก็เลยห้ามเพราะเวลาเดินเข้าเดินออกผู้ชายบางคนเขาถือ ก็เลยทะเลาะกันด่าเ - ี้ ยด่าสัตว์ต่อหน้าต่อตาพ่อแม่เราเลย เราก็รู้สึกว่า โห...ด่าพ่อด่าแม่เราเลยเหรอ” “และเขาก็โทรมาบอกว่าป๋าจะเอามีดแทงเขา แล้วโดนนิ้ว นิ้วหลุด แต่คนที่เห็นบอกว่าเป็นรอยนิดเดียว ผู้ใหญ่เราไปขอดูนิ้วเขาก็ไม่ให้ดู แต่ก็ไม่หลุดหรอกยังอยู่เหมือนเดิม แหม่มก็ถามป๋านะว่าไปทำแบบนั้นทำไมมันผิดกฎหมาย พ่อก็บอกว่าแกไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้จะทำร้าย เหมือนแกโมโหหยิบอะไรได้ก็หยิบ แต่ไม่ได้จะทำร้ายหรอก เหมือนเอามาขู่” “เขาไม่น่าทำแบบนี้เลยตกทุกข์ได้ยากมาถ้าไม่มีตากับยาย ถ้าตากับยายไม่อนุญาตก็ไม่ได้นะ เพราะมันเป็นที่ของเขา ตากับยายรักเขาจะตายซื้อกับข้าวหาข้าวให้กินตลอด แล้วเขายังเอาไปพูดกับญาติเราคนอื่นอีกว่า ตาไม่เหมือนสมัยเมื่อก่อนแล้วนะ คือเมื่อก่อนพ่อมีรถลางซุง ลากไม้ซุงตามโรงเลื่อย เป็นธุรกิจที่พ่อทำที่ลาว เขาก็บอกว่าตอนนี้ป๋าไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วนะ ป๋ามีเงินเหรอ ไม่ต้องมาพูดเลย ถ้าป๋ามีเงินค่อยมาพูดด้วย ถ้ามีเงินแล้วจะคลานไปกราบ ถ้าไม่มีเงินไม่ต้องมาคุย” |
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|