หมวดหมู่
หน้าหลัก       ยินดีต้อนรับสู่มุสลิมไทย โพสต์
 
พิมพ์หน้านี้  |  ส่งให้เพื่อน
อาถรรพณ์ทารกน้อยแรง ช่างภาพเจอดี-เตรียมสเกตช์ภาพมือฝากอีก 1

อาถรรพณ์ทารกน้อยแรง ช่างภาพเจอดี-เตรียมสเกตช์ภาพมือฝากอีก 1

ตร.เตรียมสเกตช์ภาพชายไทยไม่ทราบชื่อมือฝากทำลายซากทารกเพิ่มอีก 1 ตามคำให้การของสัปเหร่อวัด ก่อนขออนุมัติหมายจับ ด้านมือทำแท้งยังให้การป้องนางสมบัติว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่ประชาชนและองค์กรเอกชนต่างพากันมาเซ่นไหว้ดวงวิญญาณทารกน้อยไม่หยุด ส่วนอาถรรพณ์วิญญาณเด็กยังแรง ช่างภาพ นสพ.กดชัตเตอร์กล้องแต่ไม่ทำงาน ก่อนยกมือไหว้ขอขมาจึงใช้งานได้
       
       วันนี้ (24 พ.ย.) พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพบซากทารก จำนวน 2002 ศพ ในวัดไผ่เงินโชตนาราม ว่า หลังจากนายสุเทพ หรือ “รอด” ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม หนึ่งในผู้ต้องหา เคยให้การไว้ว่ายังมีผู้ที่นำซากทารกมาให้เจ้าตัวทำลายอีกหนึ่งคน คือ ชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ตัดผมรองทรง ซึ่งทุกครั้งชายคนดังกล่าวจะนัดให้นายสุเทพ ไปรับซากทารกที่บริเวณหน้าศาลาสำเนียงใกล้กับเมรุวัด ก่อนจะจ่ายค่าจ้างให้ครั้งละ 100-500 บาท ตามจำนวนซากทารกที่นำมาให้นั้น ในประเด็นนี้จะสั่งการให้ ร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รอง สว.สส.สน.วัดพระยาไกร คุมตัวนายสุเทพไปทำการสเกตช์ภาพตามชายคนดังกล่าวตามคำให้การ เพราะเจ้าตัวยืนยันว่าจำใบหน้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหากภาพสเกตช์ชายผู้ต้องสงสัยดังกล่าวออกมาแล้ว ก็รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
       
       พ.ต.ท.ดิลกกล่าวต่อว่า ส่วนผลการสอบปากคำ น.ส.ลัญฉกร หรือ “โกะ” จันทมนัส อายุ 33 ปี ภายในเรือนจำนั้น น.ส.ลัญฉกร ยังคงให้การปกป้อง นางสมบัติ หรือ “อารัตน์” สิโนทก อายุ 60 ปี ผู้เป็นแม่อยู่เช่นเดิม โดยเจ้ายอมรับว่า ลงมือทำเพียงคนเดียว ส่วน นางสมบัติ ไม่มีส่วนรู้เห็น สำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในความอุปการะของ น.ส.ลัญฉกร กับนางสมบัติ ทั้งหมด 7 คนนั้น น.ส.ลัญฉกร ยอมรับว่า ทั้งหมดเป็นเด็กที่รอดจากการทำแท้งจริง โดยเจ้าตัวเลี้ยงดูเอง 3 คน และแบ่งไปให้นางสมบัติดูแล 4 คน
       
       พ.ต.อ.ดิลกกล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นเรื่องการจดสูติบัตรของเด็กทั้งหมดนั้น น.ส.ลัญฉกร ให้การว่า นางสมบัติ เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่านางสมบัติไปติดต่อขอทำเรื่องจดสูติบัตรที่ใดบ้าง ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เด็กทั้ง 7 คน มีการแจ้งเกิดไว้ที่ใดบ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบปากคำ เด็กๆ แต่อย่างใด เพราะยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม ยังได้ประสานมาขอตัว นายสุชาติ ภูมี อายุ 38 ปี ผู้ช่วยสัปเหร่อวัดไผ่เงิน ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวนการดำเนินคดีกับ น.ส.ลัญฉกร ต่อไป
       
       ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดไผ่เงินโชตนารามว่า ในเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา นายบัณฑิต สิทธินามสุวรรณ ผอ.สำนักงานเขตบางคอแหลม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดของสำนักงานเขตบางคอแหลม จำนวน 30 คน พร้อมรถน้ำ 2 คัน และรถเก็บขนขยะขนาดเล็ก 1 คัน เข้ามาเก็บกวาดและฉีดน้ำทำความสะอาดบริเวณรอบโกดังเก็บศพและเมรุของวัด เพื่อเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลครั้งใหญ่ ในวันเสาร์ที่ 27 พ.ย.นี้
       
       นอกจากนี้ก็ยังมีประชาชนเดินทางมาวางเครื่องเซ่นให้กับซากทารกทั้ง 2,002 ศพ ที่บริเวณหน้าโกดังเก็บศพอยู่ไม่ขาดสาย พร้อมทั้งแวะซื้อลอตเตอรี่ที่มีแม่ค้ามาวางแผงขายจนเลขดังๆ หมดไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพากันกล่าวขวัญถึงประสบการณ์สยองที่เกิดขึ้นจากการที่ดวงวิญญาณทารกไปเข้าฝันให้เห็นกันเป็นจำนวนมาก
       
       อีกทั้งยังมีองค์กรภาคเอกชนและมูลนิธิเพื่อการกุศลแห่กันเข้ามาทำพิธีและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านร่วมบริจาคเงินทำบุญกันทำ ซึ่งขณะช่างภาพจากหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งกำลังบันทึกภาพการร่วมบริจาคเงินดังกล่าวอยู่นั้น ก็ต้องพบกับเรื่องอาถรรพณ์ขึ้นมา เนื่องจากกดชัตเตอร์แล้วแต่กล้องไม่สามารถบันทึกภาพได้ เมื่อมีผู้แนะนำให้ลองยกมือไหว้ขอขมาและขออนุญาตดวงวิญญาณทั้งหมด กล้องก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติในทันที
       
       ด้าน พระทิวา ธมฺมชโย เลาขานุการเจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า ในส่วนขององค์กรการกุศลที่เข้ามาขอมีส่วนร่วมกับการทำบุญใหญ่ในวันเสาร์ที่ 27 พ.ย.นี้ ส่วนใหญ่ได้ติดต่อประสานทางวัดมาแล้ว แต่กรณีที่มีการตั้งโต๊ะประชาสัมพันธ์เรี่ยไรเงินจากประชาชนด้วยนั้น ทางวัดไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะไม่มีนโยบายส่งเจ้าหน้าที่ไปเรี่ยไรให้ชาวบ้านบริจาคเงินทำบุญ หากผู้ใดมีความประสงค์จะร่วมกันอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณทารกจริงๆ ก็ขอให้เดินทางมาที่วัดในวันที่ 27 พ.ย.นี้ โดยทางวัดจะจัดให้มีการวางตู้บริจาค และต้นผ้าป่าตั้งไว้ให้ โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องบริจาคเงินเท่าใด หรือเรียกรับสิ่งของประเภทใด ขึ้นอยู่กับกำลังศรัทธาของญาติโยมทั้งสิ้น
       
       ส่วน นายหมอเอก พินิจพงศ์ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลวิหารหลวงสัมฤทธิ์ซึ่งคลุกคลีอยู่กับทางวัดมานาน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันที่วัดจัดงานลอยกระทงนั้น มีหญิงสาวหน้าตาดีอายุประมาณ 20-25 ปี คนหนึ่งเข้ามาขอร้องให้ตนเดินไปเป็นเพื่อนเพื่อวางเครื่องเซ่นที่หน้าช่องเก็บศพหมายเลข 9 และหมายเลข 10 เพราะเวลานั้นไม่มีใครอยู่ด้วยเลย แต่ช่วงหญิงคนดังกล่าวกำลังจุดธูปไหว้ศาลตายายอยู่ พวกตนรู้สึกเหมือนกับมีบางอย่างวิ่งผ่านในระยะประชิดจนหญิงคนดังกล่าวร้องกรี๊ดลั่นวัด ตนจึงแนะนำให้รีบวางเครื่องเซ่น ก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าวด้วยความสยองขวัญ
       
       ต่อมา นายธนาพร ปลื้มผล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตพระนครใต้ แต่งกายเครื่องแบบนักศึกษาหญิง นำชุดเด็ก 1 ชุด พร้อมด้วยนมอีก 2 กล่อง มาจุดธูปวางเป็นเครื่องเซ่นให้วิญญาณทารกภายในวัด โดยนายธนาพร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ก็ชักชวนเพื่อนนักศึกษาทั้งชายและหญิง รวม 3 คน มาวางเครื่องเซ่นแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากได้ติดตามข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วเกิดรู้สึกสงสารเด็ก วันนี้ตนจึงตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าเด็กผู้หญิงกับนมมาเพิ่มให้อีก เพราะคิดว่าหากวิญญาณเหล่านี้ยังวนเวียนอยู่จริงจะต้องรู้สึกหิวและหนาวมากอย่างแน่นอน
       
       นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายอาดิษฐ์ กัลยาณมิตร อดีต ส.จ.พิจิตร ถึงความคืบหน้ากรณีคณะของ พล.อ.ชัยพัฒน์ ธีระธำรงค์ อดีตผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ นายทหารรุ่นน้องคนสนิท ของ พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.และ พลโท ประสูติ รัศมีแพทย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงกลาโหม ได้นิมนต์พระสงฆ์ภายในวัดและเกจิอาจารย์จากต่างจังหวัดมาทำพิธีสวดส่งวิญญาณให้กับทารกทั้งหมดอีกครั้ง
       
       นายอาดิษฐ์เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้พิธีการเริ่มตั้งแต่ประมาณ 19.00 น.และไปเสร็จสิ้นช่วง 23.00 น.โดยมี พระครูพิพิธศาสนการ หรือหลวงพ่อบุญเหลือ เจ้าอาวาสวัดช่องลม จ.ชลบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยหลังจากมีการทอดผ้าบังสุกุลและพิธีแก้อาถรรพ์ปลดปล่อยดวงวิญญาณแล้ว ทางหลวงพ่อบุญเหลือ ก็แจ้งให้คณะนายทหารว่า ระหว่างทำพิธีเห็นเด็กสภาพเนื้อตัวมอมแมม มารอรับส่วนบุญกลุ่มใหญ่ คาดว่า น่าจะมีมากกว่า 2,002 คนอีก แต่สามารถส่งวิญญาณทารกไปเกิดใหม่ได้แค่ 722 ดวงเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังยึดติดอยู่กับสังขารต้องการตามหาแม่ผู้ให้กำเนิด ขณะที่มีบางส่วนถูกเจ้ากรรมนายเวรดึงวิญญาณเอาไว้ ทางหลวงพ่อบุญเหลือ จึงแนะนำให้ทางคณะนายทหารทราบว่า หากต้องการให้เด็กๆ ที่เหลือหลุดพ้นต้องหมั่นทำบุญให้บ่อยๆ แต่ทั้งนี้ก็มีอุปสรรคอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะต้องทำให้ตรงกับวันคืนที่มีฤกษ์ยามในการสวดส่งวิญญาณได้เท่านั้น
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในเวลา 15.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีพระสงฆ์ฝ่ายมหายานจากวัดธรรมปัญญาราม ต.บางม่วง อ.สามพราน จ.นครปฐม นำโดยพระอาจารย์คงศักดิ์ ขันธวิชัย พร้อมคณะพระสงฆ์จีนมาติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในละแวกวัดร่วมพิธีกรรมโปรดดวงวิญญาณทารกที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรตามแบบฉบับของชาวจีน โดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ และพระมหาคณานัมธรรมปัญญาธิวัตร เจ้าคณะใหญ่อนัมนิกายแห่งประเทศไทยเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

 
  เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :-
 
  เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :-
บทความที่น่าสนใจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
340 ลาดพร้าว 112 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 0-2514-0593 แฟ็กซ์ 0-2538-4215 Email : [email protected]

Warning: include(../../main/globalsitemap.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185

Warning: include(): Failed opening '../../main/globalsitemap.php' for inclusion (include_path='.:/usr/lib/php:/usr/local/lib/php') in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185