โศกนาฏกรรมรถตู้ ใครต้นเหตุ (ผู้จัดการ)
โศกนาฎกรรมเมื่อเย็นวันฮาโลวีน 31 ตุลาคม ที่เพิ่งผ่านมา บริเวณถนนพระราม 6 หน้าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. รถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ออ-3153 กทม. ตกลงมาจากทางด่วน ทำให้แก๊สระเบิด เพลิงลุกท่วมรถ ย่างสดผู้โดยสารเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 8 คน บาดเจ็บ 7 ราย ใน 7 รายนั้นไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้นอีก 1 คน เมื่อมองดูข้อเท็จจริง จะเห็นได้ว่า รถตู้คันดังกล่าว ทั้งโชเฟอร์และผู้โดยสาร อัดรวมกันทั้งหมด 15 ชีวิต สภาพรถตู้คันที่เกิดเหตุ เป็นรถตู้รุ่นเก่า ซึ่งผู้โดยสารนั่งได้เต็มที่ 11 ที่ ข้างหลังมี 3 แถวๆละ 3 คน บวกข้างคนขับอีก 2 คน เป็น 11 ที่ แต่รถตู้คันที่เกิดเหตุ ข้างหลัง 3 แถว ถูกอัดให้นั่งแถวละ 4 คน ในขณะที่หากเป็นรถตู้รุ่นใหม่ ที่เห็นวิ่งกันเกลื่อนกลาด ข้างหลัง 4 แถว ถูกอัดให้นั่งแถวละ 4 คน ข้างคนคับอีก 2 รวมเป็น 18 ที่ และด้วยจำนวนที่ซึ่งมากกว่ารถตู้รุ่นเก่า ทำให้เราได้เห็นรถตู้โดยสารรุ่นใหม่คันใหญ่ ออกมาวิ่งทุกเส้นทางราวดอกเห็ด ดูเหมือนว่า ข้อบังคับของกรมการขนส่งทางบก ตามมาตรฐาน 2 จ ที่ระบุว่า รถโดยสารปรับอากาศไม่เกิน 20 ที่นั่ง ซึ่งหมายถึงรถตู้นั้น "ความสูงภายในต้องไม่น้อยกว่า 1.60 เมตร หรือสูงน้อยกว่า 1.60 เมตร ก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1.20 เมตร กรณีรถที่มีช่องทางเดินไม่เกิน 2 เมตร หรือไม้น้อยกว่า 0.90 เมตร เมื่อวัดจากกึ่งกลางเบาะนั่งที่ติดประตูทางขึ้นลง เรียงติดกันไม่เกิน 3 ที่นั่ง" ซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่า "เรียงติดกันไม่เกิน 3 ที่นั่ง" รถตู้คันที่เกิดอุบัติเหตุ จึงเป็นรถตู้ที่ทำผิดกฏระเบียบแน่นอน แต่สิ่งเหล่านี้ ใครเป็นผู้ตรวจตรา หรือเข้าไปดูแล ซึ่งต้องยอมรับว่า ทั้งเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก รวมถึงตำรวจเอง ไม่สามารถที่จะดูแลได้ทั่วถึงแน่นอน แต่ด่านตรวจของขนส่งที่ทำงานร่วมกับตำรวจ (ด่านตรวจควันดำ) ก็เห็นปล่อยให้รถตู้ที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ ผ่านด่านไปได้โดยง่าย อย่างนี้ ต้องมีเรื่องของ"ผลประโยชน์"เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน บรรดา"คิว"หรือ"วิน"รถตู้นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ย่อมต้องมีประดาคนมีสีเข้าไปเป็นผู้ควบคุมและดูแลผลประโยชน์ เมื่อก่อนก็ติดสติ๊กเกอร์กันชัดเจน ทั้งเสธ.นั่น เสธ.นี่ จนมั่วกันไปหมด ไม่รู้ว่าเสธ.จริงหรือเสธ.ปลอม แต่ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีให้เห็นกันแล้ว แต่ก็ยังมีสติ๊กเกอร์รูปสัญญลักษณ์อื่นๆ พอให้เป็นที่สังเกตได้บ้างว่า คิวนี้ วินนี้ใครคุม? ว่ากันด้วยเรื่องผลประโยชน์จากรถตู้ ที่ต้องวิ่งผ่านตามเส้นทางของสถานีตำรวจต่างๆนั้น หัวหน้าวิน จะเป็นผู้ดำเนินการไปจัดการให้กับท้องที่นั้นๆเอง ส่วนเบี้ยใบ้รายทาง โชเฟอร์ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบกันเอาเอง แล้วแต่ว่า ใครจะดวงซวย ในขณะที่กรมการขนส่งทางบกเอง เมื่อก่อน ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นผู้โดยสาร ขึ้นไปบนรถตู้ ถ่ายรูปตอนผู้โดยสารจ่ายค่ารถไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดี ฐานเป็นรถตู้วิ่งทับเส้นสัมปทานผู้อื่น แต่ปัจจุบัน ดูเหมือนว่า รถตู้ ถูกยกระดับให้กลายเป็นรถถูกกฏหมายไปแล้ว และเป็นสิ่งจำเป็นของผู้บริโภคที่จะขาดเสียมิได้เช่นกัน อย่าว่าแต่เส่นทางในกทม.เลย แม้ตามต่างจังหวัด คิวรถตู้ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แถมบริการดีเสียกว่ารถทัวร์ รถบัสโดยสารของ"เจ๊เกียว"เสียอีก เพราะมีบริการรับส่งถึงที่ ค่าโดยสารแม้จะแพงกว่านิดหน่อย แต่ถือว่าคุ้ม เพราะหากนั่งรถทัวร์มาลงที่หมอชิตแล้ว ยังต้องต่อรถแท็กซี่เสียเงินเพิ่มขึ้นอีก แต่รถตู้ที่วิ่งรับมาจากต่างจังหวัด ไปส่งถึงหัวบันไดบ้าน ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา โศกนาฏกรรมจากรถตู้ที่เพิ่งเกิดขึ้น หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้รับผิดชอบ คิดหาหนทางแก้ไข โดยเฉพาะกรมการขนส่งทางบก ที่ปล่อยปละละเลยให้มีการดัดแปลงห้องผู้โดยสารได้ตามใจชอบของเจ้าของรถ เพียงเพื่อให้มีที่นั่งบรรจุผู้โดยสารให้ได้มากๆ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ไม่มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามคิวและวินต่างๆ เพราะมี"ผลประโยชน์"เข้ามาบังตา ซึ่งอันที่จริง กรมการขนส่งทางบกเอง น่าจะจัดอบรมให้โชเฟอร์รถตู้โดยสาร ได้มีสำนึกเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้โดยสารให้มากกว่าที่เป็นอยู่ โดยอาจจะออกเป็นข้อบังคับเลยก็น่าจะได้ อีกทั้งอบรมมรรยาทในการขับรถให้ด้วยก็จะดีไม่น้อย ในขณะที่ตำรวจเอง ก็คอยรับแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว เพราะ"สารวัตร"สั่งมา รถตู้วินนี้ คิวนี้ ปล่อยผ่านไปได้ ไม่ต้องเรียก แม้จะทำผิดกฏจราจรซึ่งหน้า ทั้งจอดแช่ จอดขวาง ปาดหน้าชาวบ้าน และหากเกิดอุบัติเหตุก็อาศัยลูกนักเลงข่มขู่! ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องสังคายนาผู้เกี่ยวข้องกับรถตู้โดยสารทั้งระบบ! อุบัติเหตุครั้งนี้ อย่าโยนผิดให้ความประมาท ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั่นแหละ คือต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมครั้งนี้ !
http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1288615780
ภาพคลิปVDO - นาทีชีวิตรถตู้ชนเข้ากับขอบทางทางด่วน
ภาพคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดบนทางด่วน ที่บันทึกภาพ นาทีสยอง รถตู้ประสบอุบัติเหตุตราโล่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชนเข้ากับขอบทางลงพระราม 6 จนลอยข้ามที่กั้น และตกลงมาจากทางด่วนช่วงด้านหน้าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยถนนพระราม 6 เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2553 เกิดอุบัติเหตุรถตู้ตราโล่ ตกทางด่วนบริเวณถนนพระรามหก ซอย 35 สุดเขตรั้วโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. รุดไปสอบสวนพร้อมชุดกู้ภัยทางด่วน 2 ที่เกิดเหตุ พบรถตู้ตราโล่สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮง 6911 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยิน เนื่องจากชนป้ายบอกทางด่วน มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ศีรษะแตก เลือดไหลท่วมตัวและปวดแผ่นหลังแต่ยังมีสติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่ง รพ.วิชัยยุทธ ทราบชื่อภายหลังคือ ส.ต.ท.มงคล กะทาง อายุ 24 ปี ผบ.หมู่ สภ.บางพลี สมุทรปราการ และนายดนุชา ยุกตะทัต บุตรชายของ พล.ต.ต.ชินณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ
|