ยะลา - อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามยะลา ห่วงสถานการณ์การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ หลังมีข่าวสายการบินอิหร่านแอร์ และมาฮานแอร์ ถอนตัวในการรับส่งเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบียของมุสลิมภาคใต้ อีกทั้งบริษัทผู้ประกอบการบางส่วนเอกสารหลายอย่างไม่เรียบร้อยทำให้วีซ่ามีปัญหา จากกรณีที่กรมการศาสนาได้แจ้งว่า การดำเนินการวีซ่าให้กับผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในปีนี้ว่า ทางการสถานทูตซาอุดีอาระเบีย ได้ออกวีซ่าไปแล้ว 7,882 คน ในจำนวนทั้งหมด 13,000 คน และลดจำนวนออกวีซ่าลง จากออกวันละ 1,000 คน เหลือ 634 คน สาเหตุมาจากมีบริษัทผู้ประกอบการนำส่งผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ จำนวน 10 รายยังไม่ส่งคืนเงินกองทุน จากสำนักงานกิจการฮัจญ์ในการนำไปเป็นเงินสำรองจ่ายเป็นค่าเช่าที่พักให้แก่ผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธี ทั้งในนครเมกกะ และเมืองมาดีนา เป็นจำนวน 47 ล้านบาท ในจำนวนนี้ยังมีบริษัทผู้ประกอบการยังไม่ได้จัดการหาเช่าที่พักจำนวน 6 รายด้วย ซึ่งการไม่ส่งคืนเงินกองทุนและยังหาที่พักไม่ได้ ทำให้การดำเนินการยื่นขอวีซ่าจากสถานทูตมีปัญหา เพราะถือว่าหลักฐานยังไม่ครบ และอาจมีปัญหาต่อการเดินทางในบางส่วนที่ไม่ทันกับที่ทางสนามบินในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียเปิดรองรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม เป็นต้นไปนั้น ในเรื่องนี้ นายนิมุ มะกาเจ ประธานเสริมสร้างสังคมสันติสุขจังหวัดยะลาและอดีตประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา กล่าวว่า การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของมุสลิมทั่วโลก รวมทั้งมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นการเตรียมการมานาน ทั้งการเตรียมความพร้อมของสภาพร่างกาย และเงินทองในการนำไปใช้จ่ายในระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังได้พิจารณาไตร่ตรองในการหาบริษัทผู้ประกอบการที่จะนำพาไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย มาเป็นเวลายาวนาด้วยความตั้งใจที่สูงยิ่ง หลังจากได้ทราบข่าวว่ามีบางบริษัทผู้ประกอบการถึง 10 ราย ยังไม่มีการจ่ายเงินทุนให้กับ สำนักงานกิจการฮัจญ์อาจมีผลต่อการเดินทางของผู้ที่ต้องการไปประกอบพิธีอัจย์ในปีนี้ได้นั้น ตนเป็นห่วงมากเพราะว่าการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์นั้น เป็นศาสนบัญญัติที่มุสลิมทุกคนที่มีความพร้อมต้องเดินทางไปประกอบพิธี และการเดินทางต้องผ่านกระบวนการทางธุรกิจของบริษัทผู้ประกอบการทางธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลต้องให้การดูแลให้ดีที่สุด และขอร้องว่าอย่านำเรื่องการประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเกิดผลกระทบจริงกับผู้จะเดินทาง ถือว่า ฮุดยาต หรือผู้จะเดินทางต้องรับกรรมแล้ว ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจ ดังนั้น สถานทูต หรืออุปทูต ต้องพึงระมัดระวังอย่าให้เกิดผลกระทบเป็นอันขาด ในขณะเดียวกันทางกรมการศาสนาเอง ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ เรื่องการออกวีซ่า และเรื่องที่สายการบินอิหร่านแอร์ และสายการบินมาฮานแอร์ มีการถอนตัวในการรับส่งผู้ไปประกอบพิธีฮัจญ์จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทางของผู้จะเดินทางในภาคใต้กว่า 2,600 คน ก็เป็นเรื่องที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการแก้ไขให้ลุล่วงภายในเวลาที่กำหนด เพราะการเดินทางนั้นต้องอยู่ในกรอบของระยะเวลา ที่ทางประเทศซาอุดีอาระเบียกำหนดเท่านั้น นายนิมุยังได้กล่าวย้ำถึงแนวทางของอดีต ประธานคณะอามิรุ้ลฮัจญ์ คือนายลุฟฟี จาปะกียา ที่ได้ย้ำเตือนว่า การดำเนินการของผู้ประกอบการนั้น อย่ามุ่งต่อกำไรมากเกินควร และควรมีความโปร่งใสในการจัดเก็บเงินค่าใช้บริการจากผู้จะเดินทาง โดยให้มีแจ้งในรายละเอียดว่า มีค่าใช้จ่ายในเรื่องของที่พักเท่าไร อาหารกี่มื้อ ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับเท่าไรเป็นต้น เพราะที่ผ่านมาและเกือบทุกปีจะมีการร้องเรียนในเรื่องของการจัดการของผู้ประกอบการที่ไม่เข้าตามกฎเกณฑ์ที่กรมการศาสนากำหนด เช่น ที่พักอยู่ไกลกับสถานที่ประกอบพิธีละหมาด ที่พักมีความคับแคบ อาหารการกินไม่ดีเป็นต้น ซึ่งทั้งหมด ทางกรมการศาสนาต้องเป็นผู้รับผิดชอบ |