หมวดหมู่
หน้าหลัก       ยินดีต้อนรับสู่มุสลิมไทย โพสต์
 
พิมพ์หน้านี้  |  ส่งให้เพื่อน
เทพเทือก โล่งอกปัญหาคลี่คลาย หลังสมคิดเสียสละ จับตาถก ก.ตร.วันนี้
หลังสมคิดเสียสละ จับตาถก ก.ตร.วันนี้ 

“เทพเทือก” โล่งใจปัญหาคลี่คลาย หลังจาก “พล.ต.ท.สมคิด” ยอมเสียสละ ระบุ ซาอุดีอาระเบียไฟเขียว วีซ่าชาวไทย 12,000 คน ได้บินไปร่วม “พิธีฮัจญ์” ขณะที่สถานทูตซาอุฯ ออกแถลงการณ์ ยินดีดูแลชาวไทยที่เดินทางไปแสวงบุญนครเมกกะ ยืนยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยวโยงการเมือง ต้นตอจากความผิดพลาดทางเทคนิค ส่วน ก.ตร.นัดถกด่วนทันควัน เล็งหาตำแหน่ง “ผบช.” เท่าเดิมให้ ส่วนเก้าอี้ ผช.ผบ.ตร. แนวโน้ม “เจตน์ มงคลหัตถี” ส้มหล่น ขยับขึ้นมาเสียบ “ชัจจ์” ชื่นชมสปิริต แต่ไม่ใช่จะพ้นผิด  ง่าย ๆ ยันต้องตั้ง กก.สอบภาคทัณฑ์วินัย
    
ภายหลังจาก พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ตัดสินใจแถลงข่าวสละตำแหน่งขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยระบุเหตุผลว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องชาวมุสลิมที่กำลังจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการ ก.ตร. เพื่อพิจารณาหาตำแหน่งรองรับ พล.ต.ท.สมคิด ผบช.ภ. 5 ที่ประกาศไม่รับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.
    
นายสุเทพ กล่าวว่า ในเมื่อ พล.ต.ท. สมคิด ได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการช่วยแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นด้านความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งได้แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่รับตำแหน่งที่สูงขึ้นก็ต้องขอบคุณที่แสดงน้ำใจ ช่วยแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุม ก.ตร. วันที่ 24 ก.ย. เวลา 13.00 น. ซึ่งจะทำให้เรื่องทั้งหลายยุติลงได้อย่างรวดเร็ว และจะเกิดผลดีกับการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ทาง ผบ.ตร.จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการพิจารณาแต่งตั้งและ  นำเสนอให้ที่ประชุม ก.ตร. ให้ความเห็นชอบ เมื่อ ก.ตร.พิจารณาอย่างไรแล้วก็จะดำเนินการตามนั้น  
    
รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวต่อว่า ในการพิจารณานั้นคงไม่ใช่ให้ตำแหน่งที่ลดลงกว่าตำแหน่งเดิมเพราะ พล.ต.ท.สมคิด มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการดังนั้นก็ต้องไปเป็นผู้บัญชาการที่ใดที่หนึ่งหรือเป็น ตำแหน่งที่เทียบเท่าจะลดกว่าตำแหน่งเดิมไม่ได้ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเปิดตำแหน่ง “ผบช.” เป็นกรณีพิเศษที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อไม่ให้โผเก่ากระเพื่อม นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ก.ตร.จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจดำเนินการและต้องมีมติออกมาชัดเจน  บางครั้งอาจจะมีวิธีการที่ทำแล้วไม่กระทบภาพรวมมากนัก ขณะนี้ พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช. สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) ซึ่งมีอาวุโสในลำดับถัดไป หากขึ้นไปเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.ตำแหน่งเดิมก็จะว่างลง พล.ต.ท.สมคิด ก็อาจจะได้รับการพิจารณาไปอยู่ตรงนั้นได้
    
ผู้สื่อข่าวถามว่า จริงหรือไม่ที่ข่าวว่าทางการซาอุดีอาระเบีย ยื่นเงื่อนไขไม่ให้มีการเลื่อนชั้นยศ พล.ต.ท.สมคิด ให้สูงขึ้น นายสุเทพ ปฏิเสธว่า ไม่จริงและที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้รับเอกสารใด ๆ จากสถานทูตซาอุฯ วันนี้ต้องขอขอบคุณ พล.ต.ท.สมคิด รู้สึกโล่งใจที่ประเด็นเรื่องศาสนาจะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่โต เมื่อปัญหานี้ได้รับการแก้ไขคลี่คลายไปได้ ผมเหมือนคนไทยทั้งหลายที่รู้สึกดีใจ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอะไรที่ให้เกิดผลในทางบวกเป็นเรื่องที่ดีกับบ้านเมืองและประชาชน ล่าสุดทราบว่า ทางการซาอุฯ ได้เร่งดำเนินการออกวีซ่าให้กับผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมเร็วขึ้นเพื่อไปชดเชยกับการดำเนินการที่ล่าช้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดว่าชาวไทยมุสลิมจำนวน 12,000 คน คงจะได้เดินทางไปแสวงบุญทั้งหมด 
    
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เปิดเผยว่า  เรื่องของ พล.ต.ท.สมคิด ถือว่าเป็นความเสียสละเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องชาวมุสลิม ในวันที่ 24 ก.ย. เวลา 13.00 น. นายสุเทพ รองนายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร.ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ส่วน พล.ต.ท.สมคิด จะอยู่ตำแหน่งใดก็ต้องขึ้นกับการหารือของคณะกรรมการ ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย เพราะถือว่าท่านเสียสละ อาจเป็นไปได้ให้อยู่ในตำแหน่งที่ จเรตำรวจ หรือ ผู้บัญชาการประจำ แต่ขึ้นกับการหารือของคณะกรรมการ
    
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีการประชุมของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายประชา ประสพดี ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณาถึง “พ.ร.บ.ล้างมลทิน” กับการแต่งตั้ง พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. โดยเชิญนายนาบิล อัชรี่ อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงด้วย ทั้งนี้นายประชา ได้ตั้งข้อสังเกตว่ากรณีของ พล.ต.ท.สมคิด เข้าเงื่อนไขของการล้างมลทินอย่างไร ในเมื่อพนักงานสอบสวนและอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ในขณะที่การรื้อฟื้นคดีของกรมสอบ สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จนนำไปสู่ขั้นตอนอัยการส่งฟ้องคดีต่อศาล ตรงนี้ (สตช.) จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขึ้นมาพิจารณาโทษทางวินัยใหม่หรือไม่ 
    
ด้านพล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผบช. ก.ตร. กล่าวชี้แจงว่า ต้องแยกเรื่องการลงโทษทางวินัยกับการดำเนินคดีทางอาญาออกจากกัน พ.ร.บ.ล้างมลทินมีการบังคับใช้กับข้าราชการทุกประเภท ซึ่งกรณีของ พล.ต.ท.สมคิด พนักงานสอบสวนและอัยการยุติการดำเนินคดีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และได้รับประโยชน์จากการล้างมลทิน คือไม่ต้องรายงานตนฐานต้องคดีอาญา และตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 79 (4) ระบุไว้ชัดเจนว่าหากมีคำพิพากษาจนถึงที่สุด ให้จำคุกหรือหนักกว่านั้น การลงโทษมีสถานเดียวคือปลดออก หรือไล่ออก หากเป็นกรณีที่พ้นจากราชการไปแล้วก็ยังมีโทษทางอาญาตามไปอีก
    
ขณะที่นายนาบิล อุปทูตซาอุดีอาระเบียฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันชาติของซาอุดีอาระเบีย ครบรอบ 80 ปี และเป็นวัน สำคัญครบรอบ 50 ปี ในการก่อตั้งสถานทูตในประเทศไทย ถือว่าเราเป็นประเทศแรก ๆ ที่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด แต่ความสัมพันธ์ได้เสื่อมถอยลงจาก 3 คดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตนมีคำถามต่อคณะกรรมาธิการฯ ว่ากรณีที่กรรมาธิการฯจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับกรณีของ พล.ต.ท.สมคิด มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ที่ระบุว่าอีก 2 สัปดาห์จะมาหารือกันใหม่นั้น ขณะนี้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว 
    
อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยไปแล้วว่า การเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ของพี่น้องมุสลิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของ พล.ต.ท.สมคิด เท่าที่ทราบจากการรายงานข่าวของสื่อมวลชนและ หลายฝ่ายที่พยายามเชื่อมโยง 2 เรื่องนี้เข้าไว้ด้วยกันนั้น จึงขอยืนยันว่ารัฐบาลซาอุฯให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวมุสลิม แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันชาติซาอุฯ ซึ่งปกติเจ้าหน้าที่จะหยุดทำการ แต่วันนี้ก็ได้เปิดรับการตรวจลงตราผู้ที่จะไปแสวงบุญจำนวน 1,038 ราย และในวันที่ 27 จะเปิดรับอีก 2,000 ราย เราจะอำนวยความสะดวกและบริการพี่น้องชาวมุสลิมอย่างเต็มที่ 
    
อุปทูตซาอุดีอาระเบียฯ ยังกล่าวด้วยว่า ได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายตำรวจใหญ่กระทำไม่เหมาะสมกับข้าราชการตำรวจหญิง ทาง สตช. ยังดำเนินการทันที แต่กรณี พล.ต.ท.สมคิด ทำไมจึงไม่ดำเนินการเช่นนั้น ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ต้องการแทรกแซงการกิจการ ของไทยแต่เป็นคำถามและข้อสงสัยส่วนตัว ทั้งนี้ทางสถานทูตซาอุฯกับกระทรวงการต่างประเทศไทยมีการหารือและประสานกันตลอด ซึ่งการได้มาพูดคุยกันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เป็นปกติในเร็ววันนี้ และถ้าทุก อย่างคลี่คลายความสัมพันธ์ก็จะกลับมาดีขึ้น ไม่เฉพาะทางด้านการทูตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านอื่น ๆ ด้วย อาทิ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของ 2 ประเทศ 
    
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชี้แจงนายนาบิล ยังได้มอบเอกสารแถลงการณ์ สถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ให้นายประชา เพื่อมอบให้สื่อมวลชนเผยแพร่โดยมีเนื้อหา โดยอ้างอิงกรณีที่มีข่าวใน  ประเทศไทยกรณีการขอวีซ่าของชาวมุสลิมเพื่อไปร่วมประกอบพิธีฮัญจ์ (แสวงบุญ) ในประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น โดยยืนยันว่าชาวมุสลิมทั่วโลกสามารถที่จะเดินทางไปร่วมพิธีแสวงบุญได้ มีการอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าจากสถานทูต รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งได้ทำมาอย่างต่อเนื่องในทุกปี เนื่องจากพิธีกรรมดังกล่าวเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมทั่วโลก เรื่องนี้อุปทูตได้ยืนยันผ่านทางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว. การต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงวัฒนธรรม 
    
แถลงการณ์ยังระบุว่า ในปีนี้ได้มี โควตาการให้วีซ่ากับชาวไทยมุสลิม ราว 13,000 เล่ม และขอยืนยันกับชาวไทยมุสลิมว่า สถานทูตจะให้การบริหารจัดการให้ชาวไทยมุสลิมเดินทางไปร่วมพิธีแสวงบุญด้วยความปลอดภัย ขอยืนยันอีกครั้งว่า ภายใต้การปกครองของกษัตริย์อับดุลราบิล อับดุล อาซิส พร้อมที่จะดูแลพี่น้องชาวมุส   ลิมจากทั่วโลก โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ และประเด็นอื่น ๆ 
    
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ รองอธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) ให้สัมภาษณ์ ว่า จำนวนวีซ่าที่สถานทูตซาอุฯออกให้แล้วขณะนี้มีจำนวน 2,461 คน จากจำนวนผู้แสวงบุญ 13,000 คน ทั้งนี้ ศน. จะเร่งส่งเอกสารเพื่อขอวีซ่าอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ก็ได้ยื่นขอวีซ่า 1,031 คนและในวันที่ 27 ก.ย. จะเพิ่มเป็น 2,000 คน ทั้งนี้อยากชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวไทยมุสลิมได้ทราบถึงเรื่องความล่าช้าการออกวีซ่าของสถานทูตซาอุดีอาระเบีย ขอยืนยันว่าการประกาศไม่ขอรับตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.ของ พล.ต.ท.สมคิด  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาการออกวีซ่าล่าช้า
    
“ความล่าช้าของวีซ่าเกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งทางอุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ยังได้แสดงความไม่พอใจที่  นำปัญหาการออกวีซ่าล่าช้าไปเชื่อมโยงกับประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาสถานทูตได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือชาวไทยมุสลิมอย่างดีที่สุด รวมถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยังคงแนบแน่น” นายกฤษศญพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
    
ด้าน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ว่าที่รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พล.ต.ท. สมคิด ไม่มีสิทธิที่จะออกมาบอกว่าจะรับหรือไม่รับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.เพราะเป็นหน้าที่ของ ก.ตร.ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานโดยตำแหน่งจะพิจารณา ถ้าอนาคตเกิดการโยกย้าย ก.ตร.พิจารณาเลื่อนตำแหน่ง แต่มีนายตำรวจออกมาปฏิเสธว่าไม่ขอรับตำแหน่งนั้น ต่อไปในอนาคตสตช.จะบริหารองค์กรอย่างไร การไม่รับตำแหน่งของพล.ต.ท.สมคิด ถือเป็นสปิริต เสียสละให้รัฐบาลมีทางออก แต่ยังไม่ใช่ว่าจะพ้นผิด เพราะกรณีที่ตกเป็นจำเลยในคดี สตช.ต้องตั้งกรรมการสอบและพิจารณาภาคทัณฑ์ทางวินัย ตาม พ.ร.บ.ตำรวจมาตรา 95 ต่อไป
 
  เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :-
 
  เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :-
บทความที่น่าสนใจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
340 ลาดพร้าว 112 วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 0-2514-0593 แฟ็กซ์ 0-2538-4215 Email : [email protected]

Warning: include(../../main/globalsitemap.php): failed to open stream: No such file or directory in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185

Warning: include(): Failed opening '../../main/globalsitemap.php' for inclusion (include_path='.:/usr/lib/php:/usr/local/lib/php') in /home/muslimpo/public_html/muslimthai/main/index.php on line 185