|
ไทยมุสลิม นับพันเคว้ง ซาอุเลื่อนออกวีซ่า มาตรการชัดเจนกดดันรัฐบาล |
|
|
"ไทยมุสลิม"นับพันเคว้ง |
 |
|
 |
ซาอุเลื่อนออกวีซ่าอ้างคนไม่พอ นายกฯจี้กต.เร่งแจงปม"สมคิด"
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งเอกสารขอวีซ่าให้ชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานของชาวไทยมุสลิมส่งไปยังสถานทูตซาอุฯ เพื่อขอวีซ่าให้กับผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญ จำนวน 1,000 ราย เป็นครั้งที่ 2 แต่ได้รับทราบจากกรมการศาสนาว่า สถานทูตซาอุฯ แจ้งมาว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตได้ขอลาหยุด จึงทำให้มีอัตรากำลังไม่เพียงพอต่อการทำวีซ่าให้ชาวไทยมุสลิม และขอให้มีการเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก 1-2 วัน เพื่อรอเจ้าหน้าที่กลับมาทำงานเต็มอัตราก่อน จึงจะออกวีซ่าให้ได้
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อในสิ่งที่สถานทูตแจ้งเหตุผลมาทั้งหมด ขณะเดียวกันทางกรมการศาสนาก็พยายามที่จะช่วยเหลือและดูแลผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้น เราจะต้องรอการพิจารณาภายใน 1-2 วันนี้
"ที่น่าเสียใจที่สุดขณะนี้คือ มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามปล่อยข่าวและสร้างกระแสความบาดหมางให้เกิดขึ้น จนกลายเป็นความขัดแย้งทางการเมือง และส่งผลกระทบต่อตัวผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญ ซึ่งตรงนี้ผมอยากขอร้องให้บุคคลที่ไม่หวังดี เห็นแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญในครั้งนี้ด้วย เพราะในชีวิตหนึ่งจะสามารถเดินทางไปได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น"นายนิพิฏฐ์ กล่าว
และว่า การแก้ปัญหาดังกล่าว กรมการศาสนาร่วมกับกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศ กำลังเร่งติดต่อประสานกับทางอุปทูตซาอุฯ เพื่อหารือในการแก้ปัญหาดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด คาดว่าคงต้องใช้เวลา 2-3 วัน หากเรื่องดังกล่าวไม่เรียบร้อยตามเวลาดังกล่าวนั้น จะทำให้ผู้ที่เดินทางไปแสวงบุญได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะมีกำหนดเดินทางรอบแรกในวันที่ 8 ตุลาคมนี้
ด้านนายกฤษศญพงษ์ ศิริ รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวภายหลังเข้าพบนายนาบิล ฮุสเซน อัชรี อุปทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย เพื่อหารือถึงความล่าช้าในการออกวีซ่าว่า ทางอุปทูตซาอุฯ ได้แจ้งมายังกรมการศาสนาว่า เนื่องจากต้องการเคลียร์เรื่องการขอวีซ่าของชาวไทยมุสลิมที่ค้างอยู่รอบแรก จำนวน 392 คนให้เรียบร้อยก่อน จึงไม่อยากให้นำเอกสารชุดใหม่มาเพิ่มอีก ขณะเดียวกันได้ชี้แจงว่า การล่าช้าครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองแต่อย่างใด ยืนยันว่าจะดำเนินการออกวีซ่าให้กับผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญคณะแรก ซึ่งจะเดินทางในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ทันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอการออกวีซ่าครั้งใหม่นี้ อยากให้กรมการศาสนาจัดเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วในการออกวีซ่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกระแสข่าวที่ระบุว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการสั่งปิดสถานทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจกรณีการตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 เป็น ผช.ผบ.ตร. เป็นจริงหรือไม่ รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายนาบิล ทราบว่ายังไม่ได้มีการแจ้งเรื่องการปิดสถานทูตซาอุฯ แต่อย่างใด
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานทูตซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์คัดค้านการแต่งตั้งพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ขึ้นเป็นผช.ผบ.ตร. จนอาจเป็นชนวนที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศลดลงว่า ขณะนี้ตนยืนยันว่าจะมีการประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ว่าความเข้าใจ ไม่เข้าใจ ตนอาจจะไปตอบแทนท่านอุปทูตไม่ได้ แต่ว่าก่อนหน้าที่จะพบกับตน อาจจะมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกับข้อกฎหมายที่ตนได้เคยชี้แจงไป
เมื่อถามว่า หนังสืออย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย เมื่อไหร่จะถึงอุปทูตซาอุฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เร่งรัดอยู่ครับ แต่ว่าเขาไปกังวลเรื่องการแปล เพราะเกรงว่าถ้าไปแปลถ้อยคำมันคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะในทางกฎหมายจะยิ่งทำให้เกิดปัญหามากขึ้น แต่ได้เร่งรัดไปแล้ว และถึงขนาดที่ว่าเราได้เชิญมาพูดคุยกันแล้วก็น่าจะทราบชัดเจนอยู่แล้วถึงท่าทีของรัฐบาลไทย
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึง การพูดคุยกับนายนาบิล ฮุสเซน อัชรี อุปทูตซาอุฯ ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมาด้วยว่า เขาเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เพราะว่าเห็นว่าเราทำอะไรกันมาเยอะ และเรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันยาก
เมื่อถามว่า ความเป็นห่วงนั้น จะนำไปสู่การปิดสถานทูตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า เราก็บอกแล้วว่าน่าจะมาช่วยกันแก้ไขปัญหากันมากกว่า
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนต้องระมัดระวังการพูดจาเพื่อไม่ให้เป็นประเด็น ที่ต้องมาเอาชนะกัน แต่ที่ผ่านมา ตนได้พบอุปทูต ได้ชี้แจงข้อมูลทุกอย่างทุกประการ และได้ทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร เอกสารสาระสำคัญของเนื้อหาการชี้แจงก็แจกสื่อไปแล้ว เป็นข้อเท็จจริง เพียงแต่ว่าต้องให้ทางกระทรวงการต่างประเทศไปตรวจสอบคำแปล และทางกระทรวงการต่างประเทศเองก็ได้ดำเนินการ ตนได้ตรวจสอบกับกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ยืนยันว่าได้ลงนามในเอกสาร และนำส่งสถานทูตซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ถ้าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาของเอกสารที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่เป็นความไม่เชื่อมั่นในการกระทำของรัฐบาลไทยจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้ตั้งสติตรงนี้ก่อน
"นี่เป็นประเทศเรา เรามีกฏหมายของเรา เรามีกฎเกณฑ์กติกาที่เราต้องทำ ถ้ารัฐบาลทำตามกฎเกณฑ์กติกา ตามประมวลกฎหมายครบถ้วน รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงอธิบายให้มิตรประเทศเข้าใจ แต่พวกเรากันเองก็ต้องช่วยรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่า ชาวไทยมุสลิมรู้สึกไม่สบายกับปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจาก อาจจะส่งผลกระทบต่อการออกวีซ่าให้เดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ ในประเทศซาอุฯ รัฐบาลจะให้ความมั่นใจในเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องยกระดับการชี้แจงมากขึ้นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาถึงขนาดที่นายกฯต้องเชิญอุปทูตซาอุฯมาชี้แจงแล้ว แต่ปัญหาความสัมพันธ์ก็ยังไม่ดีขึ้น นายสุเทพ ตอบว่า กระทรวงการต่างประเทศจะรายงานกับสื่อมวลชนว่าจะทำอย่างไรต่อไป |
|
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|