"สุเทพ"แจงอุปทูตซาอุฯปม"สมคิด"
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่า อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย เดินทางมาพบตนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) ขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) ตนได้อธิบายว่าการกล่าวหา พล.ต.ท.สมคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เป็นเรื่องเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา และรัฐบาลชุดก่อนๆ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนดำเนินคดี และสอบสวนทางวินัยกับพล.ต.ท.สมคิด โดยผลการสอบสวนได้ข้อยุติว่า พล.ต.ท.สมคิดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายและวินัย ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงต้องพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายตามกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)
นายสุเทพกล่าวว่า อธิบายให้อุปทูตซาอุดีอาระเบียทราบว่าการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิดครั้งนี้ เนื่องจาก พล.ต.ท.สมคิดอยู่ในอาวุโส 11 คนแรก ในลำดับที่ 2-3 ตามกฎ ก.ตร.ระบุชัดเจนว่าเมื่อมีตำแหน่งว่างลง การแต่งตั้งโยกย้าย 33% ต้องจัดให้ผู้อาวุโสตามลำดับ ไม่สามารถปฏิบัติเป็นทางอื่นได้ อีกทั้งกรณีนี้มีคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาก่อนส่งให้ ก.ตร.พิจารณาขั้นสุดท้าย จึงขอให้อุปทูตซาอุฯเข้าใจว่ารัฐบาลไม่ได้แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย และไม่ได้ช่วยเหลือ เข้าข้าง หรือแทรกแซงคดีของพล.ต.ท.สมคิด ขณะนี้มีการรื้อฟื้นคดีดังกล่าวมาดำเนินคดีอีกครั้ง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่ามีหลักฐานใหม่จะให้ดำเนินคดีไป ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทยว่าพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน
ข้องใจซาอุฯแถลงก่อนฟังคำชี้แจง
"ผมจะทำบันทึกถึงอุปทูตซาอุฯเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมกับกฎ ก.ตร.แปลเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายถึงขั้นตอนการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด เพื่อให้นำไปรายงานต่อรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดสถานทูตซาอุฯจึงออกแถลงการณ์เรื่องนี้มา ทั้งที่ผมยังไม่ได้ส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปให้"
ผู้สื่อข่าวถามว่า แถลงการณ์ของซาอุฯอ้างว่าตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ตำรวจคนใดถ้ายังมีคดีความติดตัว ไม่เป็นที่สิ้นสุด จะต้องถูกออกจากราชการไว้ก่อน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ แถลงการณ์ดังกล่าวผิด เพราะเข้าใจข้อกฎหมายไม่ถูกต้อง เมื่อถามว่า การแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิดเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.จะกระทบต่อการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ปัญหาความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯมีมา 20 ปีแล้วจากกรณีปัญหา 3-4 เรื่อง ซึ่งรัฐบาลทุกชุดพยายามฟื้นความสัมพันธ์ สามารถทำได้ระดับหนึ่ง แต่การฟื้นสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามหลักกฎหมาย ต้องแยกประเด็นกันให้ชัดเจน
ปธ.กมธ.ตร.สวน"ซาอุฯ"ล้ำเส้น
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรค ปชป. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์คัดค้านมติ ก.ตร.ที่พิจารณาเลื่อน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้ต้องหาในคดีการหายตัวของนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่า การพิจารณาของ ก.ตร.ครั้งนี้ ยึดตามหลักเกณฑ์ใหม่ คือหลักความอาวุโส 30% ซึ่ง พล.ต.ท.สมคิดมีอาวุโสระดับต้นๆ เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว
ดังนั้น แถลงการณ์ของสถานทูตซาอุฯเป็นสิ่งที่ ก.ตร.และผู้เกี่ยวข้องควรรับฟัง แต่สถานทูตซาอุฯล้ำเส้น เข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติงานของ ก.ตร. รวมถึงการบริหารราชการในประเทศไทย ที่บอกว่า ก.ตร.เลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท.สมคิดไม่ได้ โดยอ้างถึง พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 95 ที่ระบุว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดถูกฟ้องคดีอาญาจะต้องถูกสั่งพักราชการจนกว่าการพิจารณาคดีจะสิ้นสุดโดยสมบูรณ์ ขอชี้แจงว่าคดีของ พล.ต.ท.สมคิดยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นเท่านั้น คดียังไม่ถึงสุด จึงยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว เชื่อว่าอะไรที่ผิดกฎหมาย ก.ตร.คงไม่ทำ และเป็นไปได้ที่จะหยิบเรื่องนี้ไปพิจารณาในการประชุม กมธ.ตำรวจ
กมธ.เชิญอุปทูตซาอุฯให้ข้อมูล
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ตนจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงและให้ข้อมูล รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศว่าได้ดำเนินการประสานงานในเรื่องนี้อย่างไร มีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนการทำหน้างานของกระทรวงการต่างประเทศ จะให้ความสนใจกับการไล่ล่าบุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่หรือไม่
"ผมจะเรียนเชิญอุปทูตซาอุฯประจำประเทศไทยเข้าให้รายละเอียดหรือทำหนังสือให้ข้อมูลมายัง กมธ.ต่างประเทศว่ามีสาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ จึงต้องออกแถลงการณ์แสดงท่าทีในเรื่องดังกล่าว