 |
|
 |
ทันทีที่ได้เงินมา แทนที่เขาจะนำไปจ่ายชำระหนี้ของบัตรเครดิตแต่ละใบให้หมด แล้วเลิกใช้งานบัตรเครดิตเหล่านั้น เริ่มต้นชีวิตใหม่ เขากลับนำเงินบางส่วนมาใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่ยอดหนี้ก็ยังเดินหน้าคิดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง คุณเอกบอกว่า เขารอจนถึงวันครบกำหนดชำระ จึงค่อยไปจ่ายเงิน แต่ทันทีที่จ่ายเงินชำระหนี้ไปแล้ว บัตรเครดิตใบนั้นของเขาก็ประหนึ่งกลับมามีชีวิต เขาสามารถรูด-กดเงินสำรองมาใช้ได้อีกครั้ง!! เขาทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด เงิน 1 ล้านบาทที่ได้รับมาก็หมดลง โดยที่หนี้ของเขาไม่ได้หมดตามไปด้วย อย่างไรก็ดี หนี้ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาไม่สามารถจะบากหน้ากลับไปหาคุณลุงท่านเดิมได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงมองหาญาติพี่น้องของพ่อคนต่อไป รายแล้วรายเล่า จนทุกคนได้แต่ส่ายหน้าเมื่อเขาและพ่อแวะเวียนไปหา "หลัง ๆ ไม่มีใครช่วยแล้ว ก็ต้องหาทางช่วยตัวเอง แต่ก็ยังดีที่คุณลุง (คุณลุงท่านแรกที่เคยให้ยืมเงิน 1 ล้านบาท) ยังช่วยค่าใช้จ่ายของพ่อบ้าง ตอนนี้งานที่ทำอยู่ก็ต้องลาออก เพราะบริษัททวงหนี้ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือของเราหมดลง คนในองค์กรก็ไม่ยอมรับอีกต่อไป เลยก็ต้องมองหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไปก่อน" คุณเอกเล่า ส่วนครอบครัวนั้น เขาเล่าว่า กำลังมีปัญหากับภรรยา จากที่ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของภรรยาเชื่อว่าเขาเป็นคนมีฐานะดี มีรายได้สูง จึงตั้งความหวังกับเขาเอาไว้มาก เมื่อทราบความจริงว่า เขาในตอนนี้อยู่ในสภาพเกือบ ๆ จะล้มละลาย เงินไม่มีให้เหมือนเดิม ก็ปฏิบัติต่อเขาเปลี่ยนไป "ตอนนี้ก็แยกกันอยู่ กลับมาอยู่บ้านพ่อ แล้วให้พ่อช่วยเลี้ยงลูกให้ เงินที่ใช้ก็เป็นของคุณลุง แล้วก็พยายามหางานทำอยู่" คุณเอกยอมรับแบบไม่อาย หลายคนที่เคยประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับคุณเอก อาจมีทางออกให้กับตัวเอง ทั้งการหักดิบ ตัดบัตรทิ้ง ยกเลิกทุกอย่าง และก้มหน้าก้มตาใช้หนี้จนหนี้หมด จนสามารถเริ่มต้นชีวิตได้ใหม่ แต่สำหรับคุณเอกนั้น แม้ครึ่งชีวิตที่ผ่านมา เขาได้ทำลายมันให้ย่อยยับลงไปจากพฤติกรรมการใช้เงินที่ผิดพลาด ทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่แน่ใจกับตัวเองนักว่าจะสามารถเข้าใจ หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินได้หรือไม่ "อยากฝากถึงคนที่เริ่มต้นใช้บัตรเครดิต ขอให้ใช้อย่างระมัดระวัง อย่าคิดว่าจ่ายขั้นต่ำก็พอ เพราะจะทำให้วินัยทางการเงินเราเสีย และอาจส่งผลถึงครอบครัวได้ในที่สุด" คุณเอกกล่าวทิ้งท้าย
จากผู้จัดการ
|