โผทหารสะดุด “ป๋าเปรม” ปิดบ้าน-ความผิดปกติที่ไม่ธรรมดา !!
ผ่าประเด็นร้อน ปีนี้ในวันที่ 26 สิงหาคม 2553 ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ นอกเหนือจากเป็นปีที่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีอายุ 90 ปี แล้วหลายคนคงจะเตรียมฟังโอวาทของท่านที่กล่าวต่อผู้เข้ามาแสดงความปรารถนาดีและขอพร อวยพร ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองเป็นประจำแทบทุกปี แต่ปีนี้อาจน่าสนใจไปกว่านั้นก็คือการสยบข่าวลืออัปมงคลที่มีการปล่อยข่าวกันก่อนหน้านี้ลงได้อย่างสิ้นเชิงอีกด้วย แทบทุกปีจะมีบรรดานายทหารตำรวจ รวมทั้งข้าราชการพลเรือน รวมไปถึงรัฐบาลที่เข้าไปนำกระเช้าดอกไม้ไปอวยพรวันเกิดมาตลอด อย่างไรก็ดีในปีนี้กลายเป็นอีกปีหนึ่งที่ พล.อ.เปรม ปิดบ้านพักสี่เสาเทเวศร์งดรับอวยพรอย่างเป็นทางการในวันนี้ (26 สิงหาคม) ซึ่งเป็นวันที่ตรงกันวันเกิด เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติ ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2550 หรือเมื่อ 3 ปีก่อนล่วงมาแล้ว ในครั้งนั้นยังอยู่ในช่วงบรรยากาศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานและเป็นผู้บัญชาการทหารบก ขณะเดียวกันก็มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่คราวนี้มันเกิดอะไรขึ้น เพราะถ้าพิจารณาจากสถานการณ์บ้านเมืองโดยรวมถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และรัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทุกอย่างสามารถควบคุมอยู่ในมือได้แล้ว อย่างไรก็ดีเมื่อจับสัญญาณจากการปิดบ้านสี่เสาอีกรอบนั่นบรรยากาศเหมือนกับว่า “ป๋าเปรม” ไม่อยากพบปะพูดจาหรือตอบคำถามกับใคร “บางคน” หรือไม่ รวมทั้งสะท้อนให้เห็นว่ายังมี “บางอย่าง” ยังไม่ปกติแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงบุคลิกและภาพลักษณ์ที่เป็นนายทหารเก่าที่มีบารมีในกองทัพ บรรดาขุนทหารให้ความเคารพยำเกรง สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันกับกองทัพเสมอมา อีกด้านหนึ่งเมื่อโฟกัสลึกลงไปในรายละเอียดมันก็เห็นร่องรอยผิดปกติเกิดขึ้นนั่นคือ “โผทหาร” ในปีนี้ที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เคยเปิดเผยว่าได้ส่งไปแล้ว แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการประกาศออกมานั่นก็แสดงให้เห็นว่าต้อง “สะดุด” ตรงไหนสักแห่ง เพราะถ้านับจำนวนเวลามาจนถึงวันนี้ก็ถือว่าผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากเสียงวิจารณ์ก่อนหน้านี้ว่าโผโยกย้ายนายทหาร โดยเฉพาะในกองทัพบกยุคที่ว่ากันว่าเป็นยุคของ “บูรพาพยัฆค์” นำโดย “พี่ใหญ่” คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก ที่กำลังเปลี่ยนผ่านอำนาจหลังจากต้องเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เสียงวิจารณ์ดังกล่าวก็คือความพยายามรุกคืบเข้ามาสร้างฐานอำนาจจนเกินพอดีทำให้สูญเสียความสมดุลในกองทัพ ในลักษณะ “ป.ปลา” กินรวบ นั่นคือ “ป.ป้อม-ป.ป๊อก” หลายคนยังมองว่าการจัดโผทหารเที่ยวนี้ยังหวังผลไปถึงการวางรากฐานทางการเมืองในภายหน้า เพื่อรองรับความทะเยอทะยานทางการเมืองของบางคน เพื่อให้จิ๊กซอร์มาต่อเชื่อมกับฝ่ายการเมือง “สีน้ำเงิน” ได้อย่างลงตัวอีกด้วย หากความเป็นจริงในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นนั่นย่อมหมายความว่า “ดุลอำนาจ”ในกองทัพก็จะเสียไป หลังจากที่มีความพยายามปลดล็อกมาได้สำเร็จเรื่อยๆตั้งแต่ยุค จปร. 7 จปร.5 ที่เคยขึ้นมาเป็นแผงจนสร้างความอึดอัดกันไปทั่ว แต่มาบัดนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งกับ ตท.12 ที่ผูกติดอยู่กับ “บูรพาพยัฆค์” ที่นำโดย ประวิตร-อนุพงษ์ นั่นเอง อย่างไรก็ดีเมื่อกล่าวถึง ตท.12 ที่คาดหมายว่ากำลังจะขึ้นอยู่อำนาจในกองทัพบกในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ต้องคัดแยกออกมาเฉพาะบางคนที่ถือว่ามีความเหมาะสมและได้รับการสนับสนุนจากแทบทุกฝ่ายโดยเฉพาะกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่ากันว่าทุกโผล้วนตรงกันไม่น่ามีปัญหา แต่ปัญหาก็คือหลายตำแหน่งที่เหลือที่ยัง “ไม่ผ่าน” มันทำให้ต้องลุ้นระทึกกันทุกวินาที เพราะก่อนหน้านี้ที่ว่าแน่ เอาเข้าจริงมันทำท่าไม่ชัวร์จนได้ การที่ พล.อ.ประวิตรนำผู้บัญชาการเหล่าทัพตบเท้าเข้าพบ “ป๋าเปรม” ที่บ้านสี่เสาล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดวันเกิดวันที่ 26 สิงหาคม ก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้หลายคนคิดกันไปต่างๆนานา และที่น่าสังเกตก็คือในการเข้าพบครั้งนี้ยังไม่มีการถ่ายภาพขณะที่เข้าพบรวมไปถึงไม่มีการถ่ายทอดเสียงการให้โอวาทกับบรรดานายทหารที่เข้าไปอวยพรเช่นทุกปี บรรยากาศที่ออกมามีลักษณะเหมือนกับเข้าไป “สอบถาม” อะไรบางอย่างเท่านั้น นาทีนี้ไม่ว่าการตบเท้าของบรรดาขุนทหารที่นำโดย พล.อ.ประวิตร จะมีเจตนาแบบไหนก็ตาม แต่ในเมื่อ พล.อ.เปรม ปิดบ้านสี่เสาไม่รับอวยพรอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางโผโยกย้ายนายทหารที่ยังไม่ออกมา ทำให้หลายคนมีการคาดเดากันไปต่างๆนานา และช่วยไม่ได้ที่จะต้องจับตาตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น !! |