|
| ท.ผู้เฒ่าตัวแสบ-นักบินสีม่วง คนหลังฉากปฏิบัติการเผาเมือง |
|
|
ผู้จัดการ : คำประกาศของ พ่อใหญ่จิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมนำทัพเผาไทยกลับมายิ่งใหญ่ทางการเมืองอีกครั้ง ถือเป็นละครโรงเล็กที่ดับฝัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่หวังชิงการนำในพรรคลงจนหมดสง่าราศีไปมาก
ความหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็เลยต้องรอให้ “หิมะตกในเมืองไทย” เสียก่อน
เพราะทายาทตัวจริงเขาเปิดเผยตัวอย่างเป็นทางการแล้ว แม้วัยจะใกล้ฝั่งแต่บารมีก็บดบังรัศมีของ ร.ต.อ.เฉลิม จนอับแสงไปเสียสนิท แต่เชื่อว่าคนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม คงพลิกสถานการณ์จากหวังสูงได้เป็นผู้นำสูงสุดในพรรคมาเป็นขุนพลหลักคนสำคัญที่พรรคขาดไม่ได้แทน
เกมแห่งอำนาจภายในพรรคเผาไทยเพิ่งจะเริ่มต้นเปิดศึก เมื่อ “พ่อใหญ่จิ๋ว”ออกโรงก่อนลงโลงเพื่อปิดปากแผลหยุดเลือดที่กำลังไหลออกถ่ายเทไปยังพรรคภูมิใจไทย ก็น่าจับตาว่า จะสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้นภายในพรรคเผาไทยที่กำลังระส่ำระสายอย่างหนักในเวลานี้ได้หรือไม่
แต่ก่อนที่จะไปไกลถึงขั้นทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้กับพรรคเผาไทย “พ่อใหญ่จิ๋ว” อาจจะพบวิบากกรรมจากผลแห่งการกระทำที่กำลังไล่ล่าเข้ามาชนิดหายใจรดต้นคอ
ถ้ายังจำกันได้ “พ่อใหญ่จิ๋ว” เคยขึ้นเวทีแดงชื่นชม วีระ มุกสิกพงษ์ แกนนำก่อการร้ายแดงว่า “นายแน่มาก”
ตามติดมาด้วยพฤติกรรมดึงฟ้าต่ำร่วมกับ สมชาย ชายกระโปรง ประกาศผ่านสื่อ ประสานขอเข้าเฝ้าในหลวง เพื่อให้ทรงยุติปัญหาในช่วงที่คนเสื้อแดงจับประเทศเศรษฐกิจของชาติเป็นตัวประกัน แถมขู่ว่า ถ้าไม่ทรงยุติปัญหาภายในวันสองวันจะเกิดความสูญเสียจนเป็นตราบาปของชาติ
“หวังในสิ่งนี้ว่าจะมีพระมหากรุณาธิคุณให้พวกเรายุติความขัดแย้งที่มีมานานพอสมควร และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างมหาศาล กระผมคิดว่า ถ้าไม่มีพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว กระผมไม่แน่ใจต่อการสูญเสียภายใน 1-2 วันข้างหน้านี้ มันจะเป็นตราบาป หรือสิ่งที่พี่น้องคนไทยไม่ต้องการจะเห็นในชีวิต" (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ 19 เม.ย. 53)
เป็นการกระทำที่ดึงฟ้าต่ำหวังแยกแผ่นดินอย่างเห็นได้ชัด บีบบังคับให้องค์พ่อหลวงต้องทรงเข้ามาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ด้วยวิธีที่อำมหิตยิ่ง คือแล่เนื้อเถือหนังให้พระองค์ทรงทุกข์ทรมาน โดยเอาประชาชนของพระองค์มาเป็นตัวประกัน เป็นโมเดลเดียวกับที่พยายามจะให้เกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2552 แต่ล้มเหลว จนนำมาสู่การวางแผนให้เลือดนองแผ่นดินเมื่อวันที่ 10 เมษายน ด้วยจุดประสงค์เดียวคือ ดึงในหลวงลงมา หวังให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติ นิรโทษกรรมให้ทักษิณ ชินวัตรพ้นผิด
และจนถึงขณะนี้ คนชื่อ “ชวลิต” ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแนวคิดที่ต้องการตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” และพยายามสานฝันของตัวเองด้วยการใช้พรรคเผาไทยเป็นเครื่องมือเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง
แม้ว่าในภายหลัง “พ่อใหญ่จิ๋ว” จะพยายามตีตัวออกห่างจากการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง แต่กรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา และอาชญากรรมก็มักจะทิ้งร่องรอยให้ตามกลิ่นไปถึงต้นตอได้เสมอ
จากข้อมูลการสืบสวนที่มีการจับกุมทั้ง “เมธี” ดาราก่อการร้ายแดง ตำรวจนอกแถวค้าอาวุธสงคราม คนร้ายที่ยิงระเบิดอาร์พีจีโดยมีเป้าหมายที่วัดพระแก้ว หัวหน้าการ์ด นปช.ที่เป็นผู้ยิงใส่นายทหารบนเฮลิคอปเตอร์จนได้รับบาดเจ็บขณะโปรยใบปลิว รวมไปถึงแขนขาของ “เสธแดง”พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ที่ร่วมเคลื่อนไหวก่อการร้ายช่วงแดงเผาเมือง
ล้วนโยงใยไปถึง กลุ่มรับใช้ ทักษิณ กบฏแดง และนักการเมืองพรรคใหญ่บางพรรค
ถึงขนาดบางงานไปรับคำสั่งตรงจากนายทหารอากาศนักบินสีม่วง อดีตส.ส.ในสังกัดของเจ๊คนดังที่ชอบทำตัวเป็นตุ๊กตาทองสองหน้า ขณะเดียวกันก็ปรากฏความเชื่อมโยงกับเสธ.คนดังว่า เป็นฝ่ายปฏิบัติการ มีนายพล พ.พาน ทั้งในและนอกราชการ เป็นผู้บังคับบัญชาในเชิงยุทธศาสตร์ ขึ้นตรงกับอดีตนายทหารนอกราชการผู้ชราภาพ
สายสืบกระซิบบอกด้วยว่า หากมีการขยายผลเรื่องนี้ทำอย่างเป็นระบบ มีสิทธิ์ได้เห็นคนแก่วัยใกล้ 80 ต้องระเห็จไปใช้ชีวิตในคุก หรือต้องโทษประหารชีวิตในวัยใกล้ฝั่งจากพฤติกรรมก่อการร้ายคิดคดทรยศต่อชาติบ้านเมือง
เส้นแบ่งระหว่างความยิ่งใหญ่กับความตกต่ำที่สุดในชีวิต บางครั้งก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวาสนาแต่ขึ้นตรงกับกงล้อแห่งกรรมต่างหาก
|
|
| |
| เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|
|
พิมพ์หน้านี้
ส่งให้เพื่อน