เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 30 ก.ค. พ.ต.ท.ภาณุภัค  สืบปรุ พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง นครราชสีมา รับแจ้งเหตุพบศพคนถูกรถไฟแล่นเหยียบร่างเสียชีวิต ที่บริเวณรางรถไฟ บ้านโคกกรวด หมู่ 2 ต.โคกกรวด อ.เมือง ฯ จึงรุดไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุอยู่ระหว่างสถานีรถไฟโคกกรวด กับสถานีรถไฟภูเขาลาด บริเวณช่วงหลักเสาโทรเลขรถไฟที่ 249/6 ด้านห่างตลาดสดเทศบาลตำบลโคกกรวด พบภาพที่สยดสยอง จนทุกคนต้องเบือนหน้าหนี โดยเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ และอวัยวะภายในแหลกเละกระจัดกระจาย ตรวจสอบเป็นศพนายไกร  ใจรักษ์เรียน อายุ 27 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 195 หมู่ 3 ต.โคกกรวด อ.เมือง นครราชสีมา ถูกขบวนรถไฟแล่นเหยียบร่างจนขาดเป็นสองท่อน ท่อนบนสวมเสื้อยืดสีเขียว ท่อนล่างเปลือยกาย มีลายสักยันต์อยู่หลายแห่ง ใกล้กันพบเศษผ้ากางเกงยีนส์สีน้ำเงิน กองอยู่ที่ข้อเท้าด้านซ้าย แขนข้างซ้าย และขาข้างขวา ที่ขาดออกจากร่าง อยู่บนรางรถไฟ โดยมีเศษเชือกไนล่อนสีขาวมัดกับข้อต่อรางรถไฟ และเชือกไนล่อนสีแดงมัดที่ข้อเท้าด้านซ้าย จนท.จึงมอบหมายให้หน่วยกู้ภัยฮุก.31 เคลื่อนย้ายศพไปเก็บรักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา เพื่อให้แพทย์เวรนิติเวช รพ.มหาราชนครราชสีมา ชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

พ.ต.ท.ภาณุภัค ฯ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า รับแจ้งเหตุจากนายสถานีรถไฟภูเขาลาด ว่า ขบวนรถไฟ หมายเลข 535 บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง จากต้นทางสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย ไปส่งปลายทางสถานีรถไฟขอนแก่น ได้แล่นเหยียบร่างมนุษย์ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟได้แจ้งเหตุให้ นายสถานีรถไฟภูเขาลาด เมื่อเวลา 23.50 น. ก่อนจะเคลื่อนขบวนรถออกตามปกติ

 จากการสอบปากคำ นางโสพิศ  คานสูงเนิน อายุ 31 ปี พี่สาวของนายไกร ฯ ผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาดูศพน้องชาย ให้การว่า นายไกร  ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีพฤติกรรมไม่เรียบร้อย มักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับผู้อื่น และกินเหล้าเป็นประจำ เมื่อมีอาการเมาก็จะมีอาการเพี้ยน เหมือนคนเสียสติ หลุดโลก ทำอะไรไม่มีการยั่งคิด จนเป็นที่เอือมระอา ก่อนเกิดเหตุประมาณช่วงเย็นที่ผ่านมา  น้องชาย ได้ออกไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนชายวัยไล่เลี่ยกันที่ร้านในตลาดสดเทศบาลตำบลโคกกรวด จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ตนรับโทรศัพท์จากเพื่อนๆที่นั่งกินเหล้าด้วยกัน ให้ช่วยนำตัวน้องชาย ที่เมาเหล้านอนฟุบหมดสติที่ร้านค้า กลับไปนอนที่บ้านพักด้วย แต่ตนติดธุระ จึงบอกให้ช่วยกันหามร่างไปนอนหลังตลาด ฯ ซึ่งติดกับรางรถไฟ จนกระทั่งได้รับแจ้งจาก จนท.ตำรวจ ว่าน้องชายถูกขบวนรถไฟชนเสียชีวิต  

พนักงานสอบสวนเวร กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนพยานผู้ใกล้ชิดของนายไกร ฯ ประกอบกับรอผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์นิติเวช ว่าสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงมาจากอะไร เบื้องต้นนางโสพิศ ฯ พี่สาว ไม่ติดใจกับการเสียชีวิต ส่วนการสอบถาพยานแวดล้อม ซึ่งเป็นพ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ ทุกคนให้การตรงกัน ไม่พบเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นแต่อย่างใด รวมทั้งเพื่อนชายที่นั่งกินเหล้ากับผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุ ก็ไม่พบเงื่อนงำ และพิรุจ ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม การเสียชีวิตครั้งนี้ ผิดธรรมชาติ โดยเฉพาะการพบเชือกมัดที่ข้อเท้า และข้อต่อรางรถไฟ กระบวนการสอบสวน จึงจะต้องสรุปให้ชัดเจน เบื้องต้นตั้งประเด็นไว้ 3 ประเด็นคือ 
1.ผู้เสียชีวิตถูกรถไฟแล่นเหยียบร่าง  จากอาการเมาแล้วขาดสติ ฯ 
2.ผู้เสียชีวิตถูกรุมทำร้ายจนหมดสติ จากนั้นกลุ่มคู่อริได้อุ้มร่างไปพาดรางให้รถไฟทับเพื่ออำพรางคดี 
และ 3.ผู้เสียชีวิตถูกฆ่าโดยถูกบังคับให้นอนพาดกับรางรถไฟให้รถไฟเหยียบร่างจนเสียชีวิต ขณะนี้ พนักงานสอบสวนยังคงให้น้ำหนักในประเด็นแรกมากที่สุด และรอรายงานการสืบสวนอีกครั้ง