|
ควบซาเล้งบอมบ์ถล่มภูมิใจไทย |
|
|
พรางเป็นรถขายผลไม้ แต่บึ้มก่อนคนขับเจ็บ
ระเบิดกลางกรุง คนร้ายใส่ระเบิดในถังแก๊ส ซุกมากับรถผลไม้ แล้วนำมาจอดข้างทางเข้า พรรคภูมิใจไทย เป็นเส้นทางที่แกนนำ “เนวิน-อนุทิน” เข้า-ออก จุดระเบิดด้วยรีโมต แต่เกิดพลาดคนนำรถมาเจอแรงระเบิดเจ็บสาหัส ด้าน ดีเอสไอ เผยกำหนดวันให้ 83 รายชื่อ เข้ามาชี้แจงกับ พงส.ดีเอสไอ ที่ศูนย์ราชการฯ กลุ่มแรกเป็นนิติบุคคล ตามด้วยกลุ่มญาติ “แม้ว” นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ และ นปช. “ธาริต” เชื่อส่วนใหญ่จะมาด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ขณะที่ คนเสื้อแดง-แฟนคลับ-ประชาชน หลายพัน แห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ “เสธ.แดง” เผยสั่งตร.ดูแลความสงบเรียบร้อยงานพระราชทานเพลิงศพ “เสธ.แดง” จนเกิดโกลาหลยื้อแย่งหนังสืออนุสรณ์ ส่วนคนที่ไม่ได้ยอมควัก 500 บ. ซื้อไว้เป็นที่ระลึก
หลังจากที่สำนักงานป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจสอบพบ 83 รายชื่อ มีการทำธุรกรรมการเงินผิดปกติ ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อเรียกตัวมาชี้แจงเป็นรายบุคคล ตั้งแต่ 28 มิ.ย.เป็นต้นไป หากพบว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มเสื้อแดงจะเจอข้อหาร่วมก่อการร้าย สนับสนุนให้ก่อความไม่สงบในบ้านเมืองด้วย ขณะที่งานศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ก็คึกคัก เตรียมรับพระราชทานเพลิงศพ โดย ผบช.น. สั่งกำลังชุดปราบจลาจลเข้าดูแลเต็มพิกัด เชื่อเสื้อแดงจะมารวมตัวกันนับหมื่น
* “เทพเทือก” ชี้ไม่มีอะไรน่าห่วง ความคืบหน้า เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่วัดโสมนัสราชวรวิหารว่า คาดว่าคงจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมงานกันเป็นพันคน และขณะนี้ไม่มีการข่าวอะไรเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับงานพระราชทานเพลิงศพ เสธ.แดง เป็นเรื่องงานศพธรรมดาปกติ คนก็ไปร่วมงานกันเป็น ปกติ แต่เราได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปดูแลอำนวยความสะดวกและดูแลความ สงบเรียบร้อย เพราะสถานที่ที่วัดโสมนัสฯคับแคบ และที่จอดรถมีจำกัด ถ้ามีคนมาจำนวนมากก็ทำให้ยุ่งยากลำบากได้เหมือนกัน จึงได้ให้ทาง บช.น.ไปดูแล ทั้งนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้สารวัตรทหารเข้าไป ช่วยเสริม แต่อาจจะมีเจ้าหน้าที่ของกทม. ที่อาจเข้าไปอำนวยความสะดวกเรื่องน้ำ และห้องสุขา เมื่อถามว่า นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่สนิทสนมกันจะไปร่วมในงานศพ เสธ.แดง หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า น่าจะไปเพราะเขาสนิทกัน เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลจะมีใครไป ร่วมงานหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่กล้าไป * 2สัปดาห์รู้ต่อหรือไม่ พ.ร.ก. นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม. ถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน ว่า ในที่ประชุม ศอฉ.ได้มีการพิจารณาและประเมินสถานการณ์เป็นระยะตลอด แต่จนถึงวันที่ 21 มิ.ย. ก็ยังไม่มีข้อยุติ แต่ พ.ร.ก.ดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 7 ก.ค. เพราะยังมีเวลาที่จะนำเสนอ ครม. อีก 2 สัปดาห์ คาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 6 ก.ค. เมื่อถามเป็นไปได้หรือไม่ที่จำเป็นต้องต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะต้องอาศัยอำนาจ พ.ร.ก. ในการดำเนินคดีกับแกนนำ นปช. นายถวิล กล่าวว่า เรื่องการต่อหรือไม่ต่อนั้น เรากำลังพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยอยู่ ทั้งเรื่องสถาน การณ์ว่ามีความสงบเรียบร้อยดีหรือไม่ รวมทั้งเรื่องคดีต่าง ๆ เช่น อาวุธยังไม่ได้คืนมา หรือไอ้โม่งยังไม่ได้ตัวมา รวมทั้งการดำเนินคดีต่าง ๆ เมื่อถามว่าถ้าคดีไม่เสร็จก็จำเป็นต้องต่อ พ.ร.ก. ไปเรื่อย ๆ ใช่หรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า คงจะต่อไปชั่วฟ้าดินสลายเพื่อ ให้คดีทุกอย่างเสร็จคงไม่ได้ เราพยายามจะยกเลิกให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว
* ระเบิดถล่มพรรคภูมิใจไทย เมื่อเวลา 10.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดที่ซอยพหลโยธิน 43 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ. และกองพิสูจน์หลักฐาน ไปที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นซอยข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทย พบซากรถเข็น (ซาเล้ง) ขายผลไม้ ถูกแรงระเบิดแหลกยับเยิน จอดอยู่ใกล้กับรถเก๋งนิสสัน สีน้ำเงิน ทะเบียน ธต 7963 กรุงเทพมหา นครซึ่งจอดอยู่ข้างรั้วพรรคเสียหาย กระจกแตกด้วย ในซากรถเข็นพบถังแก๊สสีส้ม ขนาด 15 กก. ยี่ห้อเวิลด์แก๊ส ถังฉีกขาด ฝั่งตรงข้ามซากรถเป็นร้านขายอาหารตามสั่งได้รับความเสียหายด้วย ในที่เกิดเหตุพบผลไม้กระจายเกลื่อนซอย พบร่างของนายเอนก สิงขุนทด อายุ 27 ปี ถูกแรงระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนร้องครวญครางอยู่ จึงรีบประสานรถพยาบาลนำส่ง รพ.ภูมิพล
* ระเบิดทีเอ็นที 4-5 ปอนด์ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น. 2 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้น่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งหลังจากหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วพบว่า คนร้ายได้ใช้ถังแก๊สเปล่าบรรจุ น้ำมันเบนซิน และมีระเบิดทีเอ็นทีสำเร็จรูป น้ำหนักประมาณ 4-5 ปอนด์ วางประกบอยู่ด้านข้างถังแก๊ส มีรัศมีการทำลายล้างประมาณ 20 เมตร ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะจุดชนวนด้วยระบบรีโมต อย่างไรก็ตามจะ รวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด อีกครั้ง พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำ นายเอนก เบื้องต้นให้การว่าเดินทางมาที่เกิดเหตุกับเพื่อนอีกคนหนึ่งเพื่อจะนำรถเข็นมาจอดไว้ที่ด้านหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยรู้อยู่ก่อนแล้วว่าในรถเข็นมีระเบิดอยู่ แต่เกิดฝนตก เลยเข็นรถไปไว้ ที่เพิงขายอาหารตามสั่งจนเกิดระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวนายเอนกไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจแล้วในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง นอกจากนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุแล้วว่าสามารถจับภาพรถกระบะที่คนร้ายใช้บรรทุกรถเข็นเดินทางมาก่อเหตุได้หรือไม่
* เดชะบุญไม่มีการประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามปกติในเวลา 10.00 น. ผู้บริหารพรรคฯ จะทยอยเดิน ทางมาที่ทำการพรรค โดยเฉพาะแกนนำคนสำคัญ คือนายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก่อนที่จะเริ่มการประชุม รัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคในเวลา 13.00 น. แต่ เนื่องจากอยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภา ทางพรรคจึงได้ยกเลิกการประชุมในวันนี้ โดยในช่วงที่เกิดเหตุมี นายทศพล สังขทรัพย์ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ นายธีระชัย แสนแก้ว กรรมการบริหารพรรคอยู่ที่ทำการพรรค โดย นายทศพล ให้สัมภาษณ์ว่า อยู่ในเหตุการณ์ ขณะนั้นได้ยินเสียงดังสนั่น ซึ่ง ก็คิดว่าหม้อแปลงระเบิด แต่จากการลงไปดูที่เกิดเหตุ ตำรวจได้รายงานว่า แก๊สระเบิด แต่ตนตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นแก๊สระเบิด ทำไมถึงมีกลิ่นน้ำมันคละคลุ้งไปหมด ที่สำคัญ ตนมองว่า หากเป็นแก๊สระเบิดไม่น่ามีความรุนแรงมากถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ขอให้ผลพิสูจน์หลักฐานออกมาก่อน แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคภูมิใจ ไทย เปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองใน 2 ประเด็น คือ 1.ฝ่าย ตรงกันข้ามต้องการสร้างความวุ่นวาย เนื่อง จากช่วงเย็นวันนี้จะมีการเผาศพ เสธ.แดง 2.ต้องการข่มขู่สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เพราะมีการประชุมพรรค แต่ได้แจ้งยกเลิกประชุมกันเป็นการภายในเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้รับทราบรายงานเบื้องต้นจากตำรวจว่า ข้าง ๆ ถังแก๊สมีน้ำมันโซล่า และปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทด้วย อย่างไรก็ตามจะสามารถตามหาผู้บงการและผู้จ้างวานได้ เพราะว่าขณะนี้ได้มีการสารภาพในเบื้องต้นแล้ว
* โฆษกพรรคเชื่อมุ่งทำร้าย นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรค ภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน ว่า หลังการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีก็ได้สอบถามเรื่องนี้เหมือนกัน ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ซึ่งตนก็ได้รายงานให้ท่านทราบแล้ว ซึ่งในระหว่างเกิดเหตุหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคอยู่ระหว่างการประชุมครม. แต่ก็ได้สอบถามไปยังผู้ใหญ่ที่อยู่ที่พรรค ก็ทราบว่าระเบิดมาจากรถเข็นผลไม้ แต่ในรถเข็นดังกล่าวกลับมีถังแก๊สขนาด 15 กก. อยู่ด้วย และมาจอดที่บริเวณด้านข้างติดกับรั้วของพรรค ซึ่งเป็นประตูทางเข้าอีกด้านหนึ่ง และเป็นที่ผิดสังเกตคือ บริเวณตรง นั้นปกติแล้วจะไม่ใช่เป็นที่ขายของ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า น่าเชื่อว่ามีการบรรทุก ปุ๋ยยูเรียอยู่บางส่วน มีกลิ่นน้ำมันโซล่าอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นจากพฤติการณ์ก็น่าเชื่อได้ว่า อาจจะเป็นผู้ที่ต้องการมาก่อเหตุร้าย มุ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อที่ทำการพรรค แต่สาเหตุจะมาจากอะไรนั้น ยังไม่ทราบ เพียง แต่ทราบว่าตำรวจได้จับกุมตัวผู้ที่น่าจะเป็นผู้กระทำความผิดไว้ได้แล้ว
* เส้นทาง “เนวิน” เข้า-ออก นายศุภชัย กล่าวว่า โดยปกติแล้วทุกบ่ายวันอังคารพรรคจะมีการประชุม ส.ส. และผู้บริหารของพรรค แต่ในวันนี้เราได้ยกเลิก เพราะสภาปิดสมัยประชุม ดังนั้นคง ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาสาเหตุต่อไปว่ามาจากอะไร หากผู้ที่ถูกจับกุมให้การอย่างไรก็เชื่อว่าน่าจะขยายความไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังและจ้างวานต่อไปได้ “แต่เป็นที่น่าสังเกต ว่าวันนี้ก็เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ เสธ. แดง ด้วย ก็ไม่ทราบว่ามีเจตนา หรือมีเรื่องโยงกันหรือไม่ ไม่มั่นใจ” เมื่อถามว่าบริเวณที่เกิดระเบิดปกติแล้ว นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคใช้เป็นเส้นทางเข้าออกพรรคเป็นประจำใช่หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวยอมรับว่า ประตูเข้าพรรคภูมิใจไทยมีทางเข้า ออก 2 ด้านคือ ด้านถนนพหลโยธิน และอีกด้านหนึ่งอยู่ในซอยซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งในจุดนี้ปกติแล้วผู้ใหญ่ของพรรคจะใช้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงนายเนวินด้วย อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เกิดเหตุนายเนวินไม่ได้อยู่ ที่พรรค เมื่อถามว่าวิเคราะห์หรือไม่ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้มีเจตนาเพื่ออะไร นายศุภชัย กล่าวว่า คงตอบยาก ตนคงตอบแทนผู้ที่ทำไม่ได้ แต่ความจริงก็ต้องยอมรับว่าในห้วงที่มีการเปลี่ยนแปลงการเมืองมาตั้งแต่ 2 ปีจน ถึงวันนี้ พรรคภูมิใจไทยค่อนข้างมีบทบาท ซึ่งอาจจะทำให้มีผู้ไม่สบอารมณ์อยู่ หรืออาจมีความโกรธแค้นไม่พอใจ
* ระบุเป็นระเบิดแสวงเครื่อง เมื่อเวลา 17.00 น. ที่กองบัญชาการทหารบก พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงผลการประชุม ศอฉ.ที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิว ปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ชี้แจงกรณีเกิดระเบิดที่ข้างพรรค ภท.ว่า จากการสอบสวน เจ้าของรถเข็นคันเกิดเหตุรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากบุคคลที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มาดำเนินการในลักษณะสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย โดยการนำน้ำมันใส่เข้าไปในถังแก๊ส เพื่อกำหนดว่าจะดำเนินการจุดระเบิดโดยรีโมตคอนโทรล แต่ปรากฏว่า ระเบิดก่อนเวลา ทำให้เจ้าของรถที่รับจ้างมาได้รับอันตรายจากการระเบิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนในรายละเอียด
* 6ก.ค.ชงครม.พิจารณาพ.ร.ก. “ส่วนเรื่องจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หรือไม่นั้น รมว.กลาโหม เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบว่า ขณะนี้ใกล้วันที่กำหนดไว้ว่า จะต้องได้ข้อยุติ ในวันที่ 23-25 มิ.ย.นี้ รมว.กลาโหมจึงทวงข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจากกองทัพภาค กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ว่า ให้แต่ละหน่วยงานไปประเมินสถานการณ์ และดูว่า การปฏิบัติภารกิจแต่ละหน่วยได้ตั้งเป้าหมายไว้แค่ไหน อย่างไร ถึงจะหมดความจำเป็นในการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้หน่วยต่าง ๆ เร่งส่งข้อมูลมาที่ฝ่ายเลขาธิการ ศอฉ.เพื่อรวบรวม และทำเป็นความเห็นส่วน รวมของศอฉ.เสนอต่อรัฐบาล โดยจะส่งทันก่อนการประชุม ครม. วันที่ 6 ก.ค.นี้” โฆษก ศอฉ. กล่าว “หน่วยข่าว ศอฉ.มีข้อมูลข่าวสารรายงานว่า มีความพยายามเคลื่อนไหว เป็นบรรดาแกนนำ นปช.ในพื้นที่ กับฝ่ายการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีการพบปะติดต่อกัน แม้ขณะนี้ประกาศ พ.ร.ก.อยู่ แต่มีความพยายามในการสร้างสถานการณ์ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องดูแลด้านการข่าวของตัวเอง เพราะอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความรู้สึกกังวลได้ว่า แม้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ยังเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้” โฆษก ศอฉ.กล่าว
* “มาร์ค”ย้ำตปท.เข้าใจไทย ต่อมาเวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีที่ประชุม คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (เอชอาร์ซี) สมัยที่ 14 มีมติเลือกให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทน ถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประธานเอชอาร์ซี ว่า นี่เป็นการยืนยันว่าต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย ตนค่อนข้างมั่นใจว่าประเทศกว่า 40 ประเทศที่ให้การสนับสนุน ต้องพิจารณาแล้ว และการที่ตนเคยย้ำว่าในภาพรวมของรัฐบาล ในภาครัฐ เขาได้แสดงความเข้าใจในสถานการณ์ของไทยมาโดยตลอด ซึ่งถ้าได้อ่านคำแถลงของรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้แทนสหภาพยุโรป(อียู) และกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่มีตรงไหนที่เขามองว่าเราไปดำเนินการสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเขาก็ยอมรับแนวทางของเราว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ ขึ้นก็ต้องพยายามผลักดันให้มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เป็นอิสระ ดังนั้นตนจึงคิดว่าความเข้าใจของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ อยู่ในระดับที่ดี และการเลือกคนของเราก็เป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง
* คอป.ขอขยายเวลา 15 วัน นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มเอ็นจีโอ หรือองค์กรเอกชนที่มีการตรวจสอบที่เข้มข้น เขาก็ยื่นหนังสือมาถึงเรา เราก็รับฟัง เช่น องค์กรนิรโทษกรรมสากลที่ตั้งข้อสังเกตมา ตนจะนำส่งให้นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ต่อไป ส่วนกรณีที่ นายคณิต ขอขยายเวลาการแต่งตั้งกรรมการฯไปอีก 15 วัน ที่ประชุม ครม. อนุมัติแล้ว เมื่อถามว่ามีสิ่งใดที่กระทรวงการต่างประเทศต้องทำในเชิงรุกมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศและผู้แทนการค้าไทยก็ทำอยู่ รวมถึงกระทรวงต่าง ๆ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศขณะนี้ เราก็ให้ท่านใช้โอกาสนั้นในการชี้แจงด้วย เมื่อถามว่าจาก การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ต่างประเทศ จำเป็นหรือไม่ที่เราต้องว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์เพื่อมาสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนก็พยายามหาทางหรือใช้เครือข่ายต่าง ๆ และที่น่าดีใจคราวนี้ คือ ตนได้เห็นประชาชนธรรมดาใช้เครือข่ายของตัวเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการ พยายามทำความเข้าใจกับชาวโลกด้วยถึงกรณี ที่นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
* “มาร์ค”ชี้ต้องรอสอบคนเจ็บ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดข้างที่ทำการพรรค ภท.ว่า ขณะนี้ตำรวจสามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยไว้ได้ โดยอยู่ระหว่างการสอบสวน เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศอฉ.จะเป็น ผู้พิจารณา แต่ก็เป็นที่ยืนยันสิ่งที่เราได้พูดมาว่า ความพยายามในการเคลื่อนไหวที่จะทำให้เกิดความไม่สงบนั้น ยังมีอยู่ ซึ่งตนต้องดูข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกครั้ง เมื่อถามถึงการสร้างสถานการณ์เพื่อให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรบ่งบอก ขณะนี้ควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ ก็คงจะมีการขยายผลไปถึงสาเหตุที่แท้จริงได้ และเหตุผลที่ต้องคง พ.ร.ก.นี้ไว้ก็ไม่ต้องเกิดเหตุเช่นนี้ เพราะสิ่ง ที่พูดกันอยู่เป็นเรื่องที่ ศอฉ. พิจารณาและเสนอ ครม.มาแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีว่าจะมีการ ตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์หรือ ไม่ เพราะเดิมเปิดเผยว่ามี 86 ราย แต่ พอประกาศจริงกลับหายไป 3 รายชื่อ เป็น เพราะมีการวิ่งเต้นหรือไม่ว่า ตนไม่ได้ตามรายละเอียด แต่ตัวบัญชีทั้งหมด ศอฉ. เป็นผู้ดำเนินการ เข้าใจว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการลงนามเรื่องต่าง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ศอฉ.ที่มีขั้นตอนและการชี้แจงว่าควรเป็นอย่างไร เป็นอำนาจหน้าที่ที่ ศอฉ.ดำเนินการ แต่ตนไม่คิดว่าจะมีประเด็นเรื่องของการวิ่งเต้น
* ดีเอสไอนัด83รายเข้าชี้แจง ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงตารางนัดหมายคณะบุคคลหรือนิติบุคคล 83 ราย ให้เข้าชี้แจงเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัย ตามคำสั่ง ศอฉ.ต่อพนักงาน สอบสวนคดีพิเศษที่ดีเอสไอ ครั้งที่ 1 ในวันที่ 28 มิ.ย. ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติอาคารบี ชั้น 8 ถนนแจ้งวัฒนะ ที่ห้องสอบสวนสำนักคดีการเงินการธนาคารและสำนักคดีภาษีอากร โดยกลุ่มแรกที่ต้องเข้าชี้แจงคือกลุ่มนิติบุคคล ตามด้วยกลุ่มเครือญาติใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลุ่มนักการเมือง กลุ่มอดีตข้าราชการและตำรวจ กลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่ม นปช. สำหรับการสอบสวนแต่ละครั้ง จะมีหัวหน้าพนักงานสอบสวนประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จาก ดีเอสไอ, ปปง., สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร โดยคาดว่าการสอบสวนอาจมากกว่า 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความ พร้อมรับมอบอำนาจ และเอกสารหลักฐาน ซึ่งผู้รับมอบอำนาจอาจเป็นทนาย บุตร หรือภรรยา ที่ต้องได้รับการมอบหมาย อย่างเป็นทางการ
* เชื่อส่วนใหญ่มาด้วยตัวเอง นายธาริต กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ หรืออยู่ระหว่างหลบหนี เชื่อว่าผู้ต้องหาจะรับทราบข้อมูลจากสื่อ นอกเหนือจากหมายเรียกที่จะส่งไปให้ตามภูมิลำเนาในวันที่ 22 มิ.ย. ทั้งนี้เชื่อว่าบุคคลทั้งหมดจะรับทราบและจะเดินทางเข้ามาชี้แจง หรือส่งผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจอย่างเป็นทางการให้เข้าชี้แจง โดยเชื่อว่าส่วนใหญ่จะเดินทางมาชี้แจงการทำธุรกรรมด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนผู้ที่อยู่ในเรือนจำจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบปากคำ และให้ญาติหรือทนายนำเอกสารมาประกอบการชี้แจง สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ สามารถตั้งตัวแทนเข้ามารับมอบอำนาจได้เช่นกัน เพราะว่ากลุ่มดังกล่าวยังไม่อยู่ในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งคดี ดังกล่าวถือเป็นคดีแพ่งมิใช่คดีอาญา “ในเบื้องต้นบุคคลที่จะเข้ามาชี้แจง จะต้องเตรียมตัวตอบคำถาม แจกแจงที่มาที่ไปของเงินที่เข้าออกผ่านบัญชีว่าตรงกับแบบรายงานธุรกรรมทางการเงินที่ได้แสดงต่อ ปปง. เมื่อ 9 เดือนก่อนไว้หรือไม่ และต้องนำเอกสารมายืนยันว่า ตรงกับข้อมูลที่เคยรายงานหรือตรงกับสถาบันการเงินหรือไม่” นายธาริต กล่าวและว่า กรณีที่ผู้มีรายชื่อไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงตามวันที่กำหนด โดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผล จะมีการพิจารณาเหตุผลเป็นรายไป แต่หากหายไปโดยไม่มีการติดต่อก็จะถูกดำเนินคดีต่อไป (สามารถดูรายชื่อ และวันนัดได้จากตาราง)
* กันตัว“เมธี”ไว้เป็นพยาน ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายเมธี อมรวุฒิกุล ผู้ต้องหาคดีครอบครองอาวุธยุทธภัณฑ์ นายธาริต กล่าวว่า ขณะ นี้ได้กันนายเมธีไว้ในโครงการคุ้มครองพยาน โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ นายธาริต ยังกล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุถังแก๊สระเบิดบริเวณหน้าพรรค ภูมิใจไทยว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบก่อนหน้านี้ หากพบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกันจริงก็จะนำเป็นคดีพิเศษตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ก่อนหน้านี้ทันที ด้าน พ.ต.ท.เฉลิมชนม์ อุณหเสรี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะฝ่ายเลขานุการและประสานงาน กล่าวถึงขั้นตอนการตรวจสอบว่าจะมีการนำผลวิเคราะห์ทางการเงินมาพิจารณาว่ามีการโอนเงินจากที่ใด ให้ใคร หรือมีการนำออกไปใช้ดำเนินการใดบ้าง จากนั้นกรมสรรพากรจะมีการประเมิน ว่ามีการชำระภาษีอย่างไรบ้าง
* 10ก.ค.ได้คณะกก.ปฏิรูปไทย เมื่อเวลา 16.00 น. ที่หอศิลปวัฒน ธรรมกรุงเทพฯ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับปฏิรูปประเทศไทยว่า ขอใช้เวลาในการดำเนินการก่อน เพราะตนเพิ่งจะทำหน้าที่เป็นประธานได้เพียง 2 วัน แต่ตัวของคน ที่จะมาเป็นคณะกรรมการฯนั้น มีอยู่ในใจจำนวนหนึ่งแล้ว แต่จะต้องมีการหารือกับ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ที่เป็นประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปกันอีกครั้ง ถึงข้อมูลของบุคคลเหล่านั้น เช่น ประวัติ ผลงาน และแนวความคิด ซึ่งคาดว่าหลังวันที่ 10 ก.ค.นี้ จะมีความชัดเจนในเรื่อง ของตัวบุคคล และหลัง 15 ก.ค. ก็น่าจะประกาศแนวทางการทำงานได้ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งตัวบุคคลนั้นเป็นอำนาจของตนและ นพ.ประเวศโดยตรง ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่าจะมีประมาณ 15-20 คน พร้อมทั้งจะพยายาม คัดสรรจากบุคคลทุกภาคส่วนและทุกวิชาชีพ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า คณะกรรมการฯชุดนี้เป็นคนละส่วนกับคณะกรรมการปรองดองแห่งชาติที่เป็นภารกิจของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการเอง เพราะคณะกรรมการปฏิรูปฯเป็นวาระที่ภาคประชาชนเขียนขึ้นมาเป็น ข้อเสนอ ซึ่งผลลัพธ์ในการทำงานจะต้อง เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนใหญ่ ไม่ใช่เพื่อรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่ง
* แฟนคลับ“เสธ.แดง”แน่นวัด ที่วัดโสมนัสวรวิหาร ซึ่งมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง เต็มไปด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงและแฟนคลับ ที่พากันมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตำรวจปราบจลาจล สุนัขตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจวัตถุระเบิด และกลุ่มอาสาสมัครจำนวนมาก มาคอยรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เข้ามาร่วมงานโดยรอบบริเวณวัดตลอดเวลา ที่ลานจอดรถด้านหลังวัด เจ้าหน้าที่ได้นำเต็นท์ประมาณ 30 หลังมาตั้งเต็มพื้นที่ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้หลบแดดหลบฝน ขณะที่ทางเข้าโดยรอบศาลาพักศพ แฟนคลับ เสธ. แดงได้นำผ้าดิบสีขาว กว้าง 1 เมตร ยาวหลายสิบเมตร มาขึงติดกับกำแพงศาลา เพื่อให้แฟนคลับและผู้มาร่วมงานได้เขียนข้อความไว้อาลัยแก่ เสธ.แดง ขณะที่บริเวณรอบรั้วด้านนอกวัด ได้มีพ่อค้าแม่ค้านำเอาของที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับ เสธ.แดง มาขาย เช่น แผ่นซีดี เหตุการณ์สลายการชุมนุม รูปถ่าย เสธ.แดงช่วงที่มีชีวิตอยู่โดยเสนอขายราคาแผ่นละ 80 บาท นอกจากนี้ยังมี เสื้อสีแดง สกรีนสีเป็นรูปเสธ.แดงใส่ชุดทหารลายพราง ที่หน้าอกเขียนข้อความว่า “ไว้อาลัยวีรบุรุษประชาธิปไตย” ส่วนด้านหลังเขียนว่า “รัก เสธ. แดง” จำหน่ายในราคา 100 บาท โดยได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
* “เดียร์-เก๋”ขอบคุณแทนพ่อ ต่อมาเวลา 11.30 น. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล และน้องเก๋ น.ส.กิตติยา สวัสดิผล บุตรสาวของ เสธ.แดงทั้งสองคน ได้เคลื่อนศพ เสธ.แดง ออกจากพระโกศ แล้วเวียนรอบเมรุ 3 รอบ โดยมี น้องเดียร์ ร่วมขบวนด้วยอาการที่เศร้าโศกเสียใจ เพื่อเตรียมรับ พระราชทานเพลิงศพ ท่ามกลางประชาชน หลายพันคน มาร่วมพิธีจนต้องมีการปิดทางเข้าศาลาทุกด้าน เพื่อป้องกันความวุ่นวาย หลังจากที่ทำพิธีเรียบร้อย “น้องเดียร์” ได้เดินทักทายแฟนคลับเสื้อแดง และประชาชน ที่มาร่วมพิธีอย่างใกล้ชิด และกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ทำให้ซาบซึ้งและรู้สึกอบอุ่น ทุกกำลังใจที่ได้รับ ทำให้ตนเองมีพลังในการต่อสู้กับชีวิตต่อไป ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่มอบให้แทนพ่อด้วย ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่าในขณะที่เดินทักทายบรรดาประชาชนอยู่นั้น ได้มีประชาชนที่รัก เสธ.แดงได้มอบเงินให้น้องเดียร์นำไป ทำบุญเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ น.ส.กิตติยา หรือ น้องเก๋ ได้ประกาศผ่านไมโครโฟนขอบคุณบรรดาประชาชนผู้รักในตัว เสธ.แดงผู้เป็นพ่อเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่า ถ้าต้องการจะทำบุญให้ไปทำบุญกับที่วัดโดยตรงก็ได้ แต่ถ้าต้องการให้ผ่านมือของตนสองพี่น้อง ก็ยินดีที่จะรับไว้ และขอบคุณในน้ำใจของทุกคนที่มีให้กับพ่อของตน
* “แดงน้อย”มาร่วมงานศพพ่อ ทางด้าน ด.ช.นักรบ สวัสดิผล หรือแดงน้อย พร้อม น.ส.ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ผู้เป็นมารดาได้เดินทางมาร่วมงานศพตั้งแต่เช้า แต่ยังไม่ยอมปรากฏตัวให้สื่อได้ สัมภาษณ์ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในวัด มีเจ้าหน้าที่พร้อมสุนัขตำรวจ เดินรอบบริเวณงาน ขณะที่ทางเข้าภายในศาลา 10 เปิดให้เจ้าหน้าที่และทหารชั้นผู้ใหญ่ เข้ามาร่วมงานได้อย่างสะดวก ต่อมาเวลา 13.45 น. กรมศิลปากรได้นำโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนทศกัณฐ์ยกรบ ขาดเศียร ขาดกร มาแสดงหน้าศพเพื่อเป็นเกียรติให้กับ เสธ.แดง โดยมีความเชื่อว่าเป็นการให้เกียรติกับนักรบชายชาติทหารอย่าง เสธ.แดง ยิ่งบ่ายกลุ่มประชาชนยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะลุหลักหมื่นคน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีดำและแดง เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่ เสธ.แดงเป็นครั้งสุดท้าย ต่อมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ได้เดินทางมาถึง ทำให้กลุ่มเสื้อแดงและแฟนคลับของ เสธ.แดงปรบมือดีใจและโห่ร้องให้กำลังใจตลอดทางที่ นายจตุพร เดินผ่านไป นอกจากนี้ยังมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมพิธีด้วย
* พล.ท.ประสิทธิ์เป็นประธาน กระทั่งเวลา 15.45 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้เชิญไฟพระราชทานมาถึง พร้อมกับกองทหารเกียรติยศจากกองทัพบก น.ส.กิตติยา เป็นผู้อ่านหมายรับสั่งจากสำนักพระราชวัง จากนั้น น.ส.ขัตติยา เป็นผู้อ่านชีวประวัติของ เสธ.แดงผู้เป็นพ่อ และเวลา 16.00 น. พล.ท.ประสิทธิ์ โยธีพิทักษ์ นายทหาร จปร. รุ่น 7 เป็นรุ่นพี่ ที่เสธ.แดงเคารพ เป็นประธานทอดผ้าไตรหลวง และจุดไฟพระราชทานเพลิงศพ โดยมีน้องเดียร์ และน้องเก๋บุตรสาวของเสธ.แดงยืนอยู่ข้าง ๆ ขณะที่กองทหารเกียรติยศ จากกองทัพบกบรรเลงเพลง จากนั้นแกนนำ นปช.ได้ทยอยขึ้นวางดอกไม้จันทน์
* หนังสือประวัติเล่มละ500บ. ขณะที่บริเวณเต็นท์ด้านนอกศาลา เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดแจกหนังสืออนุสรณ์งาน พระราชทานเพลิงศพ เสธ.แดง หน้าปกของหนังสือเป็นสีแดง พิมพ์ชื่อ “เสธ.แดง” และลายเซ็นเป็นตัวหนังสือสีทอง ด้านในของเล่มเป็นชีวประวัติ รูปภาพสมัยยังหนุ่ม รูปภาพเหตุการณ์ และรูปภาพของครอบครัว จำนวนนับหมื่นเล่ม ซึ่งผู้ที่มาร่วมงานศพต่างเข้าแถวรอคิวเพื่อเป็นเจ้าของ แต่เกิดเหตุชลมุนเมื่อบางคนไม่ทำตามกติกาแซงคิวเข้าไปยื้อแย่งหนังสือกันจนเกือบทำให้เต็นท์หลังดังกล่าวพังลงมา ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องแจกด้วยการโยนให้ทีละเล่มจนหมดเกลี้ยงภายในพริบตา แต่ก็ยังไม่พอกับความต้องการ บางรายขอซื้อจากคนที่ได้หนังสือถึง เล่มละ 500 บาท แต่เจ้าของหนังสือก็ไม่ยอมขายโดยบอกว่าต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก สำหรับหนังสือดังกล่าว ประกอบด้วยชีวประวัติ คำไว้อาลัย ทั้งจากอดีตผู้บังคับบัญชา และเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 11 (ตท.11) รวมถึง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ที่เขียนตอนหนึ่งว่า “เสธ.แดง เป็นคนกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีประวัติในการทำสงครามป้องกันอธิปไตยของชาติมาค่อนข้างจะเด่นน่าประทับใจอยู่หลายครั้ง จึงสนับสนุนให้เขามีความก้าวหน้าทางราชการ เพราะต้องการให้เป็นกำลังใจแก่ทหารหาญของชาติที่กล้าเสี่ยง กล้าเสียสละในการทำสงครามปกป้องประเทศ” ส่วนเพื่อน ตท.11 ได้เขียนไว้อาลัย ถึง “เพื่อนยะ” ซึ่งเป็นนามเรียกขานของเสธ.แดง ที่ รู้จักในรุ่นว่า “ยะ ยี่เอ็ง” ส่วนคำไว้อาลัยของเพื่อนที่น่าสนใจคือ เพื่อนที่ใช้ชื่อว่า“เสธ.ตุ๊” โดยในเนื้อหา ได้ระบุว่า ได้เคยเตือน เสธ.แดงทางโทรศัพท์หลายครั้ง ว่าให้ระวังตัว “ไอ้แดงมึงฟังกู ไม่มีใครเค้าทำยุทธหัตถีกับมึงหรอก เขาจะยิงกบาลมึง มึงระวังตัวให้ดี”
* อัฐิ เสธ.แดงไปเก็บราชบุรี สำหรับอัฐิของ เสธ.แดง หลังจากญาตินำไปลอยอังคารที่แม่น้ำแม่กลอง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี แล้ว อัฐิส่วนที่เหลือจะนำไปบรรจุไว้ที่วัดสุขวราราม (วัดหนองบัว) ต.บ่อกระดาน อ.ปากท่อ โดย พระครูพัฒนวิสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดสุขวราราม เปิดเผยว่า นางเจียรนัย มัจฉกิจบริบาล พี่สาวของเสธ.แดง โทรศัพท์มาแจ้งว่า หลังจากเสร็จ พิธีพระราชทานเพลิงศพแล้ว จะนำอัฐิของ เสธ.แดง มาบรรจุเก็บไว้ที่ซุ้มประตูโบสถ์ด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่เก็บอัฐิของพ่อแม่ และภรรยาของเสธ.แดง ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ โดยทางวัดหนองบัวได้เตรียมสถานที่บรรจุอัฐิไว้เรียบร้อยแล้ |
|
|
เนื้อหาที่คุณอาจกำลังค้นหา :- |
|
|
|
|
|
|