มุสลิมเขมรยังแห่ลงใต้ พบซุกยาปฏิชีวนะอื้อ
เขมรมุสลิมยังแห่ลงชายแดนใต้ ตรวจพบอีก 109 คน พาสปอร์ตใหม่เอี่ยม แต่บอกว่าเคยลงไปมาแล้วหลายครั้ง ทหารพรานค้นเข้มพบซุกยาปฏิชิวนะเข้ามาเป็นจำนวนมากหวั่นไปช่วยแนวร่วมโจรใต้..
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 29 พ.ค. พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา (ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา) สั่งการให้ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1206) ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.เสกสรร วัฒนพงษ์ สวญ.สภ.คลองลึก พ.ต.ต.ธัชชัย ทิพเนตร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว และนายสำราญ เดชศรี เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาอรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำกำลังตั้งจุดตรวจค้นและตรวจสอบชาวเขมรมุสลิมที่จะเดินทางไปยัง 3 จังหวัดชายแดนใต้ของไทย ที่ บริเวณจุดตรวจร่วม หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ทหารพราน ร้อย ทพ.1206ฯ ได้ตรวจค้น 30 ชาวเขมรมุสลิมที่จะเดินทางลงไปชายแดนภาคใต้ของไทย แล้วพบแก๊สบรรจุกระป๋อง จำนวน 73 กระป๋อง พร้อมทั้งตะปูขนาดต่างๆอีก 18 กิโลกรัม โดยไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ คาดว่าอาจนำไปเป็นอุปกรณ์การผลิตระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ภาคใต้ได้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชาวเขมรทั้งชาย หญิงจำนวนมาก เดินข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยมีกรรมกรชาวเขมรเข็นรถเข็นบรรทุกกระเป๋าเสื้อผ้า จำนวน 3 คัน เดินตามมาด้วย ตรวจสอบทราบว่าทั้งหมดเป็นชาวเขมรมุสลิม จำนวน 109 คน เป็นชาย 71 คน หญิง 38 คน อ้างว่าจะเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี ของไทย บางคนบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติในฝั่งประเทศมาเลเซีย แต่ละคนมีพาสปอร์ตและมีวีซ่าเดินทางเข้าประเทศมาอย่างถูกต้อง และส่วนใหญ่เป็นพาสปอร์ตใหม่เอี่ยมยังไม่เคยเดินทาง แต่จากการสอบถามกลับตอบ ว่าเคยเดินทางไปชายแดนภาคใต้ของไทยมาแล้วหลายครั้ง ทำให้เกิดความสงสัยอีกทั้งยังเดินทางเข้ามาจำนวนมากผิดปกติ จึงนำมาตรวจสอบและตรวจค้นในกองร้อยทหารพรานบ้านคลองลึก หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ
จากการตรวจค้นภายในรถเข็นที่กรรมกรชาวเขมรบรรทุกกระเป๋าเสื้อผ้าของชาวเขมรมุสลิมเข้ามา เจ้าหน้าที่ตรวจพบยารักษาโรค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาปฏิชีวนะ และยังมีเข็มฉีดยา รวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก รวมกว่า 100 รายการบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำซุกซ่อนอยู่ภายในรถเข็นรวมกับกระเป๋า เสื้อผ้าชาวเขมรมุสลิม เมื่อสอบถามไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ จึงทำการตรวจยึดนำส่ง ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ทำการตรวจสอบ และทำประวัติและถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน.
thairath |