"ทวี-พิเชษฐ" พอใจ "อาศิส" นั่งจุฬาราชมนตรี "นิมุ" แนะตั้ง สนง.ผู้นำที่สงขลา
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายทวี นภากร อิหม่ามประจำมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้ได้รับคะแนนเป็นอันดับสองจากการเลือกสรรจุฬาราชมนตรีว่า ยอมรับในกระบวนการสรรหาครั้งนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนเรียบร้อยดี ไม่มีข้อกังขาอะไร การไม่ได้รับการคัดเลือกไม่ใช่การพ่ายแพ้ แต่มองว่าใครที่ได้รับบุญและเหมาะสมก็มีโอกาสก่อน ภารกิจแรกของนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีคนใหม่ ต้องทำตัวและคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ให้เข้มแข็งและสง่างาม เพื่อแสดงให้เห็นว่าพร้อมจะแก้ปัญหาและช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมทั่วประเทศ เชื่อมั่นในตัวของนายอาศิส ส่วนเรื่องการยอมรับในภาคใต้ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะคลุกคลีและทำงานในพื้นที่มาก่อน แต่ต้องรอดูว่าท้ายที่สุดแล้วจะได้รับการยอมรับหรือไม่
นายพิเชษฐ สถิรชวาล กรรมการอิสลามประจำ จ.เพชรบุรี เลขาธิการ กอท. กล่าวว่า กระบวนการสรรหาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถือว่าโปร่งใสยอมรับได้ เพราะนายอาศิสเป็นผู้มีความรู้ถือว่าเหมาะสม เคยทำงานร่วมกันมาในฐานะรักษาการประธาน กอท.มาแล้วประมาณ 3 ปี เสียงส่วนใหญ่ที่เลือกนายอาศิส จะมาจาก 5 จังหวัดภาคใต้ ดังนั้น มองว่าการที่ได้เป็นจุฬาราชมนตรีน่าจะได้รับการยอมรับจากชาวมุสลิมภาคใต้และน่าจะง่ายที่จะเป็นตัวกลางแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ส่วนตัวพร้อมทำงานร่วมกับนายอาศิส
นายนิมุ มะกาเจ อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลา ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุข จ.ยะลา กล่าวว่า จุฬาราชมนตรีคนใหม่ต้องศึกษาข้อมูลปัญหาด้านศาสนาที่เป็นอุปสรรคต่อชาวมุสลิมทั้งประเทศ เรียงลำดับความสำคัญ ทั้งในและนอกสถาบันการศึกษา รวมทั้งในต่างประเทศด้วย โดยมีคณะผู้ทรงคุณวุฒิ (อูลามะฮ์) ที่ผู้คนให้การยอมรับเข้ามามีส่วนร่วม นอกจากนี้ ควรจะมีสำนักงานจุฬาฯสาขา ที่ จ.สงขลา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ภาคใต้ สามารถเข้าพบหารือปัญหากับจุฬาราชมนตรี และอูลามะฮ์ได้สะดวกยิ่งขึ้น
*********************************
ทำไม "อาศิส" ชนะขาด
ความจริงศาสนาอิสลามได้เข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยมาก่อนแล้ว โดยเฉพาะชาวมุสลิมทางภาคใต้ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไปจนถึงมลายู มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามอยู่มากมาก่อน
บรรดาเจ้าเมืองทางภาคใต้ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามแต่เป็นนิกายซุนนี โดยเชคอะหมัด หรือท่านเจ้าพระยาบวรราชนายก เป็นต้นตระกูลของสกุล อะหมัดจุฬา, จุฬารัตน์, บุนนาค, ศรีเพ็ญ, บุรานนท์, ศุภมิตร, จาติกรัตน์ เป็นต้น
จึงไม่แปลก หากอาศิส พิทักษ์คุมพล ประธานคณะกรรมการประจำจังหวัดสงขลา จะได้รับเลือกให้เป็นจุฬาราชมนตรี ในสายภาคใต้ หลังจากที่ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครยึดครองตำแหน่งมายาวนานถึง 410 ปี ย้อนกลับไปปี 2540 ระหว่างการสรรหาจุฬาราชมนตรี อาศิสในวัยเพียง 50 ปี เป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกจับตามอง เนื่องจากบทบาทและความสามารถของเขา แต่ในครั้งนั้น นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ มีความโดดเด่นมากกว่าอาศิสอย่างหนึ่งคือความอาวุโส ด้วยวัยเกือบ 80 ปี จึงได้รับเลือกเป็นผู้นำมุสลิมในที่สุด
เล่ากันว่า ในการสรรหาจุฬาราชมนตรีปี 2540 มีการตกลงกันที่จะให้นายสวาสดิ์ขึ้นดำรงตำแหน่งก่อน และให้นายอาศิสรับตำแหน่งในครั้งถัดไป เพื่อผูกใจของพี่น้องไทยมุสลิมในจังหวัดภาคใต้
ในการเลือกสรรครั้งนี้ อาศิศ อายุ 63 ปี จึงถือว่าอยู่ในวัยอันควรที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำศาสนา โดยไม่มีข้อครหา แม้จะมีผู้เสนอรายชื่อคู่แข่งจากภาคกลางหลายคน และหลุดเข้ามารอบสุดท้ายถึง 2 คน ซึ่งมีฐานเสียงไม่น้อยไปกว่ากัน
แต่ด้วยมีผู้ให้ความสนับสนุนอาศิสเรื่อยมาผ่านความคาดหวังของชาวไทยมุสลิมในดินแดนภาคใต้ซึ่งมีสัดส่วนประชากรเป็นจำนวนมากกว่าทุกภาค
ประกอบกับข้อตกลงในอดีต และการผนึกกำลังกันแบบไม่มีแตกแถวของกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 380 คนจากภาคใต้
ทำให้อาศิสชนะอย่างค่อนข้างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนท่วมท้น 423 เสียง จากผู้ร่วมโหวตทั้งสิ้น 702 เสียง |