มุสลิมไทยดอทคอม การตลาดเชิงรุกของปุตราจายา www.muslimthai.com หลังจากผ่านพ้น 2 วันกับชีวิตในเกาะแห่งตำนาน ผมกับคณะก็ตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปยังตัวเมืองมาเลเซีย ไหนๆก็มาถึงนี่แล้วถ้าไม่เหยียบกัวลาลัมเปอร์ก็คงเหมือนมาไม่ถึงมาเลเซีย ดังคำที่หลายๆคนชอบพูดกัน (แล้วที่ลังกาวีนี่ประเทศอาไรหว่าา งง)  | | การเดินทางเข้ากัวลาลัมเปอร์ (ผมขอใช้วิสาสะเรียกสั้นๆว่า KL ละกัน ชื่อเต็มๆมันยาวเกินไม่ไหวจะพิมพ์ครับ ชักเมื่อย) จากลังกาวีเข้า KL ไปได้ 2 ทางด้วยกัน คือเครื่องบินกับเรือ โดยสนนราคาต่างกันไม่มากนัก แต่ได้อารมณ์ต่างกันมากมายเหินฟ้าใช้เวลาชั่วโมงเศษก็ถึงที่หมาย ส่วนทางน้ำลองมาดูกันว่าเป็นยังไง
|
ผมเลือกเดินทางโดยเรือเฟอรี่ติดแอร์เย็นยะเยือก หนาวทั้งกายหนาวทั้งใจ(หนาวจริงๆนะครับเรือลำนี้ ถ้าไม่เชื่อลองไปนั่งกันดูได้) ผ่านทางเกาะปีนัง ใช้เวลาไปร่วม 3 ชั่วโมง แล้วต่อบัสเข้า KL อีก 5 ชั่วโมง เบ็ดเสร็จแล้วไปถึง KL เช้าอีกวันนึงเลยล่ะครับ เป็นการเดินทางภายในประเทศที่เหนื่อยมากๆอีกครั้งนึง
ทีแรกตั้งใจว่าจะหาที่พักกันใน KL นี่ล่ะ แต่มีคนแนะนำมาว่าไปพักที่ปุตราจายาดีกว่าได้อารมณ์กว่ากันเยอะเลย where where is where where (ไหนๆก็ไหนๆแล้ว) ลองเชื่อคำมนุษย์ดูอีกสักครั้ง เราจึงต้องต่อรถบัสไปอีกประมาณชั่วโมงเศษๆ กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง
หลังจากแบ๊คแพ๊คเข้าที่พักกินน้ำกินท่ากันจนหายเหนื่อยแล้ว (จริงๆกินแต่น้ำนะครับไม่ได้กินท่า แหะๆ) ก็ออกสำรวจรอบเมืองกันทันที จุดเด่นของเมืองใหม่แห่งนี้คือความสวยของเมือง ความเงียบสงบด้วยกับการไม่แออัดของประชากร และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง ทั้งมัสยิดสีชมพู รัฐสภา กระทรวงต่างๆที่ถูกออกแบบด้วยปฎิมากรรมยุโรป สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี
 มัสยิดสีชมพู มาเลเซีย
มั่นใจได้เลยว่าถ้าใครได้เห็นแค่รูปคงไม่เชื่อว่านี่คือมาเลเซีย
ปุตราจายาเกิดขึ้นจากแนวคิดของ ดร.มหาเธร์ มูฮัมหมัด อดีตนายกฯของมาเลเซียที่ต้องการจะแยกส่วนรัฐบาลกลางออกจากกัวลาลัมเปอร์และแยกคนออกมาด้วย
เมื่อความเจริญถูกยกออกมาผู้คนตามกันมา ธุรกิจก็จะเกิด การท่องเที่ยวจะมากขึ้น เงินหมุนเวียนก็จะสูงขึ้น แล้วในบัดนั้นมาเลเซียก็จะกลายเป็นพญาราชสีห์ได้ดังความตั้งใจของ ดร. มหาเธร์
ถามว่าตอนนี้มาเลเซียกำลังทำอะไรอยู่ ทั้งสร้างเมืองใหม่ปุตราจายา เปิดตัวเกาะแห่งตำนานอย่างลังกาวี และอีกหลายกระบวนทัพที่กำลังทำอยู่และวางแผนว่าจะทำในอนาคต
คำตอบคงหนีไม่พ้นการรุกทำตลาดแบบหลายกลศึกหลากกลยุทธ์ ซึ่งคงไม่สามารถอธิบายได้หมดในหน้ากระดาษเดียว(จะให้เขียนลงทั้งเล่มเลยก็กลัวจะเบื่อกัน) เอาเป็นว่าเรามารู้จักไม้เด็ดไม้หนึ่งในหลายๆไม้ที่ถูกใช้ในการมาของเมืองใหม่ปุตราจายา กับการตลาดเชิงรบ หรือ Offensive Marketing Strategy ซึ่งเป็นการทำการตลาดแบบมุ่งโจมตีเผชิญหน้ากับคู่แข่งเพื่อแย่งชิง Market Share เจาะแย่งลูกค้ามาจากคู่แข่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ป้องกันคู่แข่งจะขโมยลูกค้าไปจากเราด้วยเช่นกัน
แล้วใครคือคู่แข่งของมาเลเซียล่ะ ถ้ามองให้แคบที่สุดแค่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คงหนีไม่พ้น ยักษ์ใหญ่อย่างสิงคโปร์ และเสือหลับอย่างไทยเรานี่ล่ะ(ไม่รู้ว่าจะตื่นเมื่อไหร่เหมือนกัน) ที่เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้
กับกลยุทธ์ Offensive Marketing Strategy ที่ถูกนำมาใช้คู่กับการขยายตลาดใหม่ครั้งนี้ มาเลเซียเล่นไปที่จุดแข็งของสิงคโปร์เข้าอย่างจัง
สิงคโปร์เป็นเมืองที่สะอาด สวยงาม เหมาะแก่การช๊อปปิ้ง มาเลเซียก็มีปุตราจายาที่สะอาดกว่า สวยงามกว่าและวุ่นวายน้อยกว่า แต่หากต้องการช๊อปปิ้งก็เข้า KL เลย เดินทางเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น สิงค์โปร์มีเกาะเซนโตซ่าที่เป็นเกาะมหัศจรรย์มีกิจกรรมต่างๆมากมายสำหรับทุกเพศทุกวัย มาเลเซียก็มีเกาะลังกาวีที่คล้ายๆกันและใหญ่กว่าเซนโตซ่าอีกด้วย
นอกจากจะเล่นกับสิงค์โปร์แล้วก็ยังซัดไปที่จุดแข็งของไทยแบบกะน๊อคไม่ให้ฟื้นกันเลยทีเดียว
ไทยดังในเรื่องของการท่องเที่ยวดำน้ำ เที่ยวเกาะ ชมธรรมชาติ มาเลเซียก็กำลังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ชายหาด เกาะแก่ง ดำน้ำลึก อย่างหนักเช่นกัน
แผนการตลาดครั้งนี้นอกจากจะต้องใช้ความอดทนสูงแล้ว ยังต้องมีการวางแผนที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว
ซึ่งกว่าที่จะไปถึงจุดนั้นได้ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ มาเลเซียยังต้องเจออะไรอีกเยอะตามวัฎจักรธุรกิจ 4 ช่วง คือ เตาะแตะ เติบโต เต่งตึง ต่องแต่ง ตอนนี้ปุตราจายาเมืองใหม่ที่เป็นไม้เด็ด เพิ่งจะแค่เตาะแตะหัดเดินเท่านั้นเองครับ
ถึงระยะทางตามฝันจะยังอีกยาวไกล แต่ก็ไม่ยากที่จะไปให้ถึง (เพราะประเทศคู่แข่งบางประเทศมัวแต่เล่นกีฬาสีเหลืองสีแดงกันอยู่ เลยไม่มีเวลาไปพัฒนาประเทศ อ่ะเศร้าจัง) โดย ชานนท์ ยิ้มใย ที่มา นิตยสารริสกี [email protected]
|