สำนักขว่าวมุสลิมไทย คูเวต นักเรียน 15,000 คนรวมพลังกันสไตรค์ไม่ไปโรงเรียน เพื่อประท้วงการที่รัฐบาลละเลยไม่ดูแลสภาพแวดล้อม ซึ่งอุตสาหกรรมน้ำมันในบริเวณนั้นก่อให้เกิดขึ้น 
การสไตรค์ดังกล่าวกำหนดขึ้น 2 วัน โดยอะฮมัด อัล-ชูรัยอัน หัวหน้าคณะกรรมการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมชุมชน นำชาวบ้านประมาณ 200 คนมารวมตัวกันที่โรงเรียนท่ามกลางฝนที่ตกหนัก เพื่อแสดงพลังกดดันให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมอย่างเร่งด่วน พื้นที่บริเวณ อะลี ซาบาฮฺ อัล-ซาเล็ม ซึ่งอยู่ห่างจากคูเวตซิตี้ไปทางใต้ 55 กิโลเมตร เป็นเขตที่มั่งคั่งด้วยน้ำมัน ซึ่งรายล้อมไปด้วยโรงงานที่ประกอบอุตสาหกรรมน้ำมันนับร้อยๆ แห่ง รวมทั้งโรงกลั่นน้ำมันของรัฐ 3 แห่ง อัล-ชูรัยอัน กล่าวว่า โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และประชาชนประมาณ 45,000 ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ต้องรับเคราะห์ โดยมีรายงานว่า มีผู้เป็นโรคหอบหืดเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่เคยมีแค่ 150 ราย เป็น 1,399 ราย ในปี 2005 และไม่ต้องพูดถึงปัจจุบันที่มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ประมาณ 8,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 18 ของประชากรในพื้นที่ ไม่นับโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องเช่น โรคมะเร็ง เป็นต้น ประเด็นเรื่องสภาพแวดล้อมนี้ถูกยกขึ้นถกเถียงกันบ่อยครั้งในรัฐสภาคูเวต และมีการเร่งเร้าให้รัฐบาลดำเนินการโดยเร็ว แต่รัฐบาลก็ได้แต่ผัดผ่อนโดยกล่าวว่า ได้รับรู้ในปัญหานี้แล้วแต่เห็นว่ายังไม่เกินระดับสูงสุด ในปี 1994 คณะกรรมการชูรอได้แนะนำว่า ไม่ควรสร้างที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ แต่รัฐบาลได้ละเลยคำแนะนำดังกล่าว โดยสร้างที่อยู่อาศัยในพื้นที่ซึ่งมีผู้เข้ามาอยู่ในปี 2001 ปัญหาคือถึงแม้โรงงานที่พ่นแก๊สพิษจำนวน 156 แห่งจะอยู่ค่อนไปทางเหนือของหมู่บ้าน แต่ทิศทางลมในคูเวตจะพัดหวนมาทางใต้ ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเหล่านี้ต้องสูดควันพิษกันเต็มๆ เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน สมาชิกสภา 3 คน ได้ให้เวลา 60 วันแก่รัฐบาลเพื่อให้ปิดโรงงานเคมี 20 แห่งในบริเวณนั้น รัฐบาลได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยสั่งปิดชั่วคราว และให้โรงงานวางแผนขั้นตอนให้ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการชูรอกล่าวว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และโรงงานก็ยังคงเปิดดำเนินการต่อไป หากการสไตรค์ของเด็กนักเรียนไม่ได้ผล คงต้องหามาตรการที่เด็ดขาดกว่านี้ เพื่อให้รัฐบาลจัดหาสถานที่ใหม่ให้ชาวบ้าน หรือปิดโรงงานเหล่านี้ - www.muslimthai.com |