สำนักข่าวมุสลิมไทย หนังสือพิมพ์ Okaz ในซาอุดี้รายงานว่า หญิงผู้หนึ่งถูกตำรวจศาสนาซาอุดี้จับและกล่าวหาว่าเธอหนีตามผู้ชาย ตำรวจได้ค้นตัวเธอ มัดมือ และเฆี่ยนตี โดยไม่เชื่อเรื่องที่ผู้หญิงสารภาพว่า เธอเพียงแต่ขอติดรถชายดังกล่าวเพื่อไปลงที่สถานีรถโดยสารสาธารณะ เพื่อต้องการไปหาญาติที่เจดดะฮฺ เรื่องราวเปิดเผยขึ้น โดยได้รับการแจ้งว่า มีเสียงผู้หญิงหวีดร้องมาจากอาคารที่ทำการของ คณะกรรมการส่งเสริมจริยธรรม และป้องกันการกระทำที่เสื่อมเสีย (Haia) ใน Tabuk ตำรวจปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับร่องรอยความบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับหญิงผู้นั้น แต่ได้ระบุว่ามีการสอบสวนสมาชิกคณะกรรมการดังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การรายงานข่าวอย่างละเอียดของหนังสือพิมพ์ Okaz รวมทั้งการระบุว่า มีร่องรอยการถูกบีบที่ลำคอของหญิงดังกล่าว ทำให้ฝ่ายตำรวจท้องถิ่นต้องส่งจดหมายชี้แจงสื่อ ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วันที่ 13 เมษายนว่า รายงานของหนังสือพิมพ์ยังไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง มุฮัมมัด อัล-ตันซี บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Okaz ออกมาท้าทายตำรวจ และยืนยันว่า การรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์อยู่บนพื้นฐานของความจริงทุกประการ โดยมีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในรัฐบาล ที่ร่วมในการสอบสวนเหตุดังกล่าว และหวังว่าตำรวจจะแสดงความรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง เหมือนที่สื่อกำลังทำอยู่ เมื่อปีที่ผ่านมา ตำรวจได้ประกาศการสงบศึกกับสื่อ และว่าจะทำการปรับปรุงการทำงานของตำรวจเสียใหม่ โดยในเดือนกุมภาพันธุ์ปีก่อน มีการไล่ผู้อำนวยการคนหนึ่งออก นัยว่าเพื่อปรับปรุงภาพพจน์ของตำรวจ มีการตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีตำรวจทำเกินเลย และยังตั้งโครงการพิเศษเพื่อฝึกคนขึ้นมาดูแลประชาชน และชาวต่างชาติในซาอุดี้ กรณีที่หนังสือพิมพ์รายงานเกี่ยวกับหญิงดังกล่าว ยังคงไม่ได้รับการคลี่คลายความจริง สุลัยมาน อัล โอนีซี หัวหน้าตำรวจศาสนาใน Tabuk ให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากชายนิรนาม ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งร้องขอให้รับตัวเธอขึ้นรถเพื่อหนีไปเจดดะฮฺ แต่ฝ่ายผู้หญิงกล่าวว่า ไม่ได้จะหนีตามไป เพียงแต่ขอติดรถไปสถานีรถโดยสารเท่านั้น บทความในหนังสือพิมพ์ ซาอุดี้กาเซตต์ ระบุว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่หม้าย ซึ่งเพียงแต่มาเยี่ยมลูกที่เมือง Tabuk และกำลังจะกลับไปเจดดะฮฺ 
บทความดังกล่าวยังตั้งคำถามอีกว่า สมมุติว่าผู้หญิงดังกล่าวไม่ได้ถูกทำทารุณ และเสียงหวีดร้องนั้นเป็นเพียงเสียงที่ดังมาจากโทรทัศน์ เหตุใดเจ้าหน้าที่ Haia จึงไม่อนุญาตให้ผู้หญิงไปรักษาบาดแผล และเหตุใดจึงไม่ควบคุมตัว และสอบถามชายผู้ที่ยอมให้ผู้หญิงขึ้นรถ เหตุดังกล่าวทำให้เจ้าชายฟาฮัด บินสุลต่าน ผู้ครองเขต Tabuk ต้องออกมารับรองว่า เสียงหวีดร้องของหญิงผู้นี้จะต้องไม่เงียบหายไปเฉยๆ โดยต้องมีการสอบสวนกรณีที่ตำรวจศาสนากระทำการเกินขอบเขต และต้องมีการสั่งลงโทษอย่างแน่นอน - www.muslimthai.com |