มาเลย์ฟ้องศาลให้องค์กรสตรีลบคำว่าอิสลาม

กัวลาลัมเปอร์,มาเลเซีย – เมื่อวันจันทร์ (22/03) Malaysian Assembly of Mosque Youths ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์ด้านศาสนาในมาเลเซียได้ฟ้องศาล ขอให้บังคับกลุ่ม ‘Sister in Islam’ ซึ่งเป็นองค์กรสตรีมาเลเซีย และNGO ที่มีชื่อเสียง ลบคำว่า “อิสลาม” ในชื่อขององค์กรออก เนื่องจากองค์กรดังกล่าวไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อมุสลิม และการใช้ชื่อดังกล่าวอาจทำให้คนเข้าใจผิดได้

สาเหตุของการฟ้องร้องเนื่องมาจากกลุ่ม Sister in Islam ได้วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายชาริอะฮฺที่ลงโทษเฆี่ยนผู้หญิง เช่นในกรณีที่เฆี่ยนผู้หญิงที่ดื่มเบียร์เมื่อเร็วๆ นี้หลายกลุ่มเคลื่อนไหวในมาเลเซียได้กล่าวหาว่า กลุ่มซิสเตอร์ อิน อิสลาม ได้ชี้นำมุสลิมไปในทางที่ผิด ทำให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า มีการแบ่งแยกเป็น 2 กลุ่มในมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มหนึ่งพยายามนำข้อบังคับที่เคร่งครัดในอิสลามมาใช้กับประชาชน ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งเกรงว่า ความเคร่งครัดจนเกินไป อาจจะทำให้ไม่อาจกลมกลืนกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้

      มุฮัมมัด นาวารฺ อารีฟีน ผู้นำองค์กรที่เป็นโจทก์อ้างว่า ซิสเตอร์ อิน อิสลาม ไม่ได้ขออนุญาตใช้ชื่อนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยการจะใช้คำว่า “อิสลาม” ในชื่อองค์กรใดย่อมต้องผ่านการพิจารณาอย่างเคร่งครัด และปกป้องให้ถูกวัตถุประสงค์ แต่ซิสเตอร์ อิน อิสลาม ใช้ชื่อนี้เพียงเพื่อต้องการดึงดูดความสนใจเท่านั้น

    ฮามิดะฮฺ มาริแคน ผู้อำนวยการบริหาร Sister in Islam ปฏิเสธที่จะกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยขอให้ทนายของกลุ่มได้พิจารณารายละเอียดเสียก่อน แต่เธอได้กล่าวว่า การทำงานของกลุ่มก็อยู่ในขอบเขตของอัล-กุรอาน และอิสลาม
กลุ่ม Sister in Islam ก่อตั้งเมื่อปี 1988 ที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรมเป็นปากเสียงแทนผู้หญิงมุสลิม เกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิของของผู้หญิง เช่น เรื่องการมีภรรยาหลายคน และการบังคับให้แต่งงานตั้งแต่วัยเด็ก กลุ่มนี้เริ่มมีความขัดแย้งกับกลุ่มอื่นเมื่อปีที่ผ่านมา จากกรณีที่ศาลชาริอะฮฺสั่งลงโทษผู้หญิงโดยการเฆี่ยน ซึ่งมี 3 รายที่ถูกเฆี่ยนไปแล้วในเรื่องชู้สาว ซึ่งไม่เคยมีการลงโทษเช่นนี้มาก่อน