สำนักข่าวมุสลิมไทย กลุ่มยุโรป (EU) โยนเศษเนื้อให้ประเทศมอรอคโค ชาติแรกของกลุ่มอาหรับ

แมดริด – สุดสัปดาห์นี้มีการจัดประชุมสุดยอดระหว่างผู้แทน 27 ประเทศ EU กับคณะรัฐมนตรีจากหลายกระทรวงของโมร๊อกโก อาทิ เกษตรกรรม เศรษฐกิจ การศึกษา การพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ

        นำโดยนายกรัฐมนตรีอับบาส เอล ฟาสซี ที่เมืองกรานาด้า ทางตอนใต้ของประเทศสเปน โดยมอร๊อกโก เป็นประเทศอาหรับชาติแรก ที่จะได้รับการพิจารณาช่วยเหลือด้านต่างๆ จาก EU แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการถูกวิพากษ์วิจารณ์ในบางอย่าง เช่น ด้านสิทธิมนุษยชน ความด้อยพัฒนาในด้านการศึกษา ฯลฯ

       หัวข้อเป็นจำนวนมาถูกเตรียมนำเข้าสู่การเจรจา อาทิ การอพยพย้ายถิ่นฐาน กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง และสภาพเศรษฐกิจตกต่ำที่กระทบต่อโมร๊อกโก

       อดีตนายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม Herman Van Rompuy ซึ่งเป็นประธานคนแรกของ EU จะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีสเปน โฮเซ่ ลูอิส รอดริเกส ซาพาเทโร่ และประธานคณะกรรมการ EU คนปัจจุบัน โฮเซ่ มานูแอล บาร์โรโซ่
โมร๊อกโกเซ็นสัญญาความร่วมมือกับ EU ในปี 1996 โดยในวันเสาร์จะมีการเจรจาแลกเปลี่ยนด้านวิสาหกิจการลงทุน เช่น การขนส่ง การวางโครงการความจำเป็นพื้นฐาน และด้านการพลังงาน ส่วนในวันอาทิตย์ จะเน้นการเจรจาด้านเศรษฐกิจ และการปฏิรูปประชาธิปไตย

    อย่างไรก็ตามแหล่งข่าววงการทูตเปิดเผยว่า ถึงแม้เศรษฐกิจในโมร๊อกโกจะพัฒนาไปได้ดี แต่ปัญหาด้านอื่นๆ ก็ยังมีอยู่โดยเฉพาะด้านการศึกษา ซึ่งโมร๊อกโกมีผู้ไม่รู้หนังสือจำนวนมาก

    อีกปัญหาหนึ่งที่ EU ไม่อาจละเลยได้ คือ ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีกรณีที่โมร๊อกโกมีปัญหาความขัดแย้งในการผนวกเอาดินแดนซาฮาร่าตะวันตกเข้าไว้ในครอบครอง และกลุ่มเคลื่อนไหวอิสระเพื่อซาฮาร่าตะวันตกได้ต่อต้าน โดยการกำหนดการประชุมขึ้นควบคู่กัน รวมทั้งวางแผนประท้วงการประชุมครั้งนี้ด้วย

    โดย Aminatou Haidar นักรณรงค์ต่อต้านคนสำคัญจะเข้าร่วมในการประท้วงครั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา Haidar เคยประท้วงอดอาหารเป็นเวลา 32 วัน ที่สนามบินบนเกาะคานารี่ของสเปน เนื่องจากทางการโมร๊อกโกปฏิเสธไม่ให้ Haidar กลับเข้าพื้นที่ซาฮาร่าตะวันตก ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากเดินทางไปรับรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนที่สหรัฐอเมริกา

   โมร๊อกโกยึดครองซาฮาร่าตะวันตกในปี 1975 หลังจากนั้นก็มีการสู้รบระหว่างทหาร กับกลุ่มติดอาวุธโปลิซาริโอ ซึ่งหนุนหลังโดยแอลจีเรีย มีการเซ็นสัญญาหยุดยิงในปี 1991 โดยสหประชาชาติเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย แต่หลังจากนั้นยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับอนาคตของซาฮาร่าตะวันตก - www.muslimthai.com