มุสลิมไทยดอทคอม  หญิงมาเลเซียถูกสั่งเฆี่ยนฐานคบชู้
www.muslimthai.com

ฮิชามุดดีน ตุน ฮุสเซนรัฐมนตรีกิจการภายในของมาเลเซียกล่าวในการแถลงเมื่อวันพุธ (17/02) ว่า หญิง 3 คนถูกสั่งเฆี่ยนฐานคบชู้ ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากศาลชาริอะฮฺพบพยานหลักฐานการมีเพศสัมพันธ์กับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี

หญิงมาเลเซียถูกสั่งเฆี่ยนฐานคบชู้

 
อย่างไรก็ตาม การเฆี่ยนดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นการกระทำที่รุนแรงมาก แต่ก็ทำให้เกิดความอับอาย โดยหญิง 2 คนถูกเฆี่ยน 6 ครั้ง ในขณะที่อีกคนหนึ่งถูกเฆี่ยน 4 ครั้ง ส่วนโทษจำขังก็ได้รับต่างกัน คือ คนหนึ่งจะถูกขังจนถึงวันอาทิตย์นี้ ในขณะที่อีกคนหนึ่งจะถูกปล่อยในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ส่วนคนที่ 3 จะถูกขังจนถึงเดือนมิถุนายน

นอกจากนั้นฮิชามุดดีนยังกล่าวว่า เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้หญิงหลายคนถูกเฆี่ยนในขณะที่ผู้ชายมี 4 คน การออกมากล่าวของรัฐมนตรีฮิชามุดดีน จะมองเป็นอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากเป็นการบอกใบ้ว่า กรณีที่ครึกโครมของ การิต้า ส่าหรี เทวี ชูการ์โน่ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปีก่อน โดยที่เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกศาลสั่งเฆี่ยนเนื่องจากการดื่มเบียร์ไม่ได้เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ หรือโหดร้ายทารุณแต่อย่างใด การิต้าถูกศาลสั่งเฆี่ยน 6 ครั้ง แต่ได้เลื่อนมาตั้งแต่เดือนรอมฎอนปีที่แล้วจนถึงบัดนี้ ขณะนี้คดีของเธอกำลังอยู่ในระหว่างการนำกลับมาพิจารณาใหม่

ตามกฎหมายชาริอะฮฺ ผู้หญิงจะถูกเฆี่ยนในท่านั่ง โดยยังคงสวมเสื้อผ้า และผู้ที่ทำการเฆี่ยนจะเป็นผู้คุมหญิงเท่านั้น โดยเขากล่าวว่าการเฆี่ยนเป็นการทำให้อับอายและเข็ดหลาบ รวมทั้งให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจหันมาเป็นคนดี

ปัญหาขัดแย้งในมาเลเซียขณะนี้ก็คือ ในขณะที่ศาลศาสนาสั่งลงโทษเฆี่ยนผู้หญิงได้ แต่ศาลของรัฐปกป้องผู้หญิงจากการลงโทษดังกล่าว ส่วนผู้ชายอายุต่ำกว่า 50 ปี ก็อาจถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนได้

ประเทศมาเลเซียใช้กฎหมาย 2 ระบบ โดยศาลชาริอะฮฺใช้ในการพิจาณาคดีอาญา และเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว โดยเฉพาะกับมุสลิมเท่านั้น

การลงโทษเฆี่ยนผู้หญิงเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยเมื่อวันพุธองค์กรนิรโทษกรรมสากลในประเทศอังกฤษ ออกมาเรียกร้องให้มาเลเซียยุติการริเริ่มลงโทษด้วยการเฆี่ยน โดยดอนน่า เกสต์ รองผู้อำนวยการดูแลภาคพื้นเอเซีย-แปซิฟิค ออกมาเปิดเผยตัวเลขว่า ตั้งแต่ปี 2002 มีผู้ถูกลงโทษเฆี่ยนในมาเลเซีย 35,000 คน ซึ่งส่วนมากเป็นคนต่างชาติ

ซิสเตอร์ อิน อิสลาม (Sister in Islam) ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวรณรงค์เพื่อสตรี เคยออกมาต่อต้านเรื่องนี้โดยกล่าวว่า การเฆี่ยนผู้หญิงเป็นการเลือกปฏิบัติ และอคติ  - มุสลิมไทยดอทคอม