เสียงจากนักธุรกิจมุสลิม สุไห-โกลกยังต้องการเยียวยา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อำเภอสุไห-โกลก ในอดีตถือได้ว่ามีพื้นที่ทำเลทองใต้สุดแดนสยาม มีการติดต่อซื้อขายระหว่างพี่น้องมุสลิมไทยและมาเลเซีย ปีละหลายพันล้านบาท ณ.วันนี้ ความเงียบเหงายังคงครอบคลุม พื้นที่ดังกล่าวนี้อยู่ ผู้สื่อข่าวมุสลิมไทยได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณมานัส มีกุล กรรมการผู้จัดการ หจก.ซีเอ็มกรุ๊ป ดีเวลล็อปเม้น (CM Group) หรือ(จูนัส) โดย CM Group ดังกล่าวได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นานกว่า 10 ปี โดยเฉพาะความชำนาญด้านการออกแบบปรับภูมิทัศน์ในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผลงานงานเป็นที่ประจักษ์ชัด ไม่ว่าที่จังหวัดปัตตานี นราธิวาส มีผลงานหลายชิ้น ได้รับการว่าจ้างจากนักธุรกิจมาเลเซีย |  | โดยจูนัส ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวมุสลิมไทย ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สำหรับ CM Group นั้นไม่ค่อยส่งผลกระทบมากนัก ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า ตัวบริษัทนั้นดำเนินการโดยคนในพื้นที่ ซึ่งการทำงานมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ อีกทั้ง CM Group มีผลงานต่างๆมากมาย ดังนั้นจึงเกิดการยอมรับและไว้วางใจจากผู้ว่าจ้างในพื้นที่นั้นเอง |
ประชากรมุสลิมในสุไห-โกลก ประชากรทั้งหมดในสุไห-โกหกมีประมาณ สองแสนกว่าคน ซึ่งมีมุสลิมประมาณ 70-80% มีมัสยิดกว่า 10 มัสยิด และมีวัดประมาณ 4 วัดด้วยกัน ซึ่งมุสลิมโดยส่วนมากจะประกอบอาชีพรับจ้าง หรือค้าขาย สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโกลกคือ โรงเรียนแสงธรรมวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนมากที่สุด เกือบ 3,000คน ซึ่งมีการการสอนทั้งศาสนาอิสลามและสามัญ การศึกษาของเยาชนนั้นนิยมไปศึกษาต่อยังสาธิตปัตตานี สงขลา สตูล และกรุงเทพฯ นอกจากนั้นยังไปเรียนที่รัฐกันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยระยะการเดินทางจากเมืองโกลก ไป โกตาบารู ประมาณ 45 นาที (60กิโลเมตร) ทั้งนี้นักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่จบการศึกษาในประเทศมาเลเซีย ก็จะหางานทำหรือประกอบอาชีพในประเทศมาเลเซีย เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนนั้น นับว่าน้อยมาก ที่จะกลับมาประกอบอาชีพในพื้นที่เมืองโกลก ทางด้านประเด็นเศรษฐกิจโดยรวมของสุไห-โกลก จูนัส กล่าวว่า เศรฐกิจของเมืองโกหก ถือว่าค่อนข้างซบเซา แต่เดิมคนพื้นที่จะทำธุรกิจติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังเช่นค้าขาย เสื้อผ้า อาหารการกิน ตลอดจนธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว อย่างเช่นแหล่งบันเทิง พอเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวก็เกิดการหวาดกลัวที่จะมาเที่ยว และที่สำคัญสวัสดิการเรื่องการป้องกันภัยต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวถือว่ายังน้อยมาก อยากเห็นความคึกคักกลับมายังเมืองโกลกในเร็ววัน จูนัสกล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวมุสลิมไทยว่า อยากเห็นเมืองโกลกมีความคึกคักกลับมา แน่นอนว่า ธุรกิจในเมืองนั้นจะขึ้นอยู่กับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ดังจะเห็นว่าในอดีตเมืองโกลกจะมีความคึกครืนในตอนกลางคืนถึง ตี1-2 แต่ปัจจุบันนี้ เวลา 2ทุ่มตัวเมืองโกลกนั้นจะเงียบเหงามาก จะมีเฉพาะร้านอาหารหรือร้านนำชาที่เปิดบริการอยู่ แต่ก็มีลูกค้าไม่มาก ทุกคนในเมืองโกลกอยากเห็นความสงบเกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะหากเศรษฐกิจดี ชีวิตความเป็นอยู่ของมุสลิมในพื้นที่ก็จะมีความสุขมากขึ้นนั้นเอง 




|