มุสลิมไทยดอทคอม  มุสลิมอินเดียยังตกอยู่ใต้ความอยุติธรรม
www.muslimthai.com

ไคโร – อิหม่ามกุลาม อิลาฮี บัคช์ แห่งเมืองมุมไบ ประเทศอินเดียถูกจับไปจากบ้านโดยหน่วยต่อต้านก่อการร้ายที่จู่โจมเข้ามา เมื่อวันที่ 13 มกราคม ปี พ.ศ. 2549 และถูกจำคุกบนถนนอาร์เธอร์ ฐานต้องสงสัยเกี่ยวพัน และสนับสนุนก่อการร้าย หลังจากนั้น 4 ปีเขาถูกปล่อยตัวในฐานะผู้บริสุทธิ์ โดยศาลระบุว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอในการกล่าวหาว่า เขาสังกัด หรือให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายใด

อิหม่ามกุลาม อิลาฮี บัคช์

เมื่อวันอาทิตย์ (17/1) ที่ผ่านมา ศาลสั่งปล่อยตัวอิหม่ามวัย 52 ปี ซึ่งเมื่อตอนที่เขาถูกจับตัวมา ไม่มีการอธิบายใดๆ ถึงความผิดที่ถูกจับ โดยตำรวจบังคับให้เซ็นชื่อในเอกสารเท่านั้น

ต่อมา บัคช์จึงรู้ว่า เหตุที่ถูกจับเป็นเพราะเขาถูกดักฟังโทรศัพท์ ซึ่งเขาได้พูดคุยกับคนจำนวนหนึ่งซึ่งทางการอินเดียกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับกลุ่ม ลัชการี ตัยบา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลในแคชเมียร์ รัฐบาลเห็นว่ามุสลิมที่ไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของเจ้าหน้าที่ฮินดูในแคชเมียร์ เป็นผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ประชาชนในแคชเมียร์ส่วนที่ปกครองโดยอินเดียส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม

ความขัดแย้งในแคว้นแคชเมียร์ระหว่างอินเดีย กับปากีสถานยังคงคุกรุ่น เคชเมียร์ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย และปากีสถาน สหประชาชาติ และปากีสถานสนับสนุนให้แคชเมียร์เป็นเขตปกครองตนเอง แต่อินเดียไม่เห็นด้วย

อิหม่ามบัคช์ ซึ่งน้ำตาไหลอาบแก้ม นมาซขอบคุณอัลเลาะฮฺที่ระเบียงศาล ต่อหน้าตำรวจจำนวนมาก หลังจากออกมาพ้นห้องพิจารณาคดี

อินเดียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประชาชนนับถืออิสลามมากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยอยู่ที่ประมาณ 140 ล้านคน แต่มีการร้องเรียนถึงการถูกจับกุมคุมขัง ละเมิด และทารุณกรรม เพื่อให้สารภาพว่าเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย หรือเพราะมีความเกี่ยวพันกับคนในแคว้นแคชเมียร์

อิหม่ามเป็นตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งบรรยายว่าเขาถูกขังเดี่ยวอยู่นานหลายเดือน และต้องร้องเรียนหลายครั้งจึงถูกปล่อยให้มาอยู่รวมกับนักโทษคนอื่น ซึ่งเป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ เช่น ฆ่าคนตาย

ในระหว่างรอที่จะได้รับอิสรภาพ อิหม่ามใช้เวลาไปกับการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างนักโทษมุสลิม-ฮินดู-คริสเตียน โดยมักจะมีการกระทบกระทั่งกันเสมอๆ ระหว่างนักโทษ 2 กลุ่ม เมื่อถึงเวลาปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งอิหม่ามได้ไปช่วยเป็นสื่อในการประนีประนอมเพื่อกำหนดเวลาปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก

อิหม่ามกล่าวว่า เวลาในคุกของเขาไม่ได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว เขามีโอกาสได้เผยแผ่วัตรปฏิบัติที่ถูกต้องของมุสลิม และหยิบยื่นไมตรีจิตสู่ศาสนิกอื่น เขาเป็นอิหม่ามมาแล้วถึง 24 ปี และถึงแม้จะอยู่ในคุกเขาก็ยังเป็นอิหม่ามได้  - มุสลิมไทยดอทคอม